อุปสรรคในการขอ(ตอนสุดท้าย) "ความหยิ่งยโส"


Appreciative Inquiry : อุปสรรคในการขอ "ความหยิ่งยโส"

ก็มาถึงตอนสุดท้ายของซีรี่เรื่อง อุปสรรคของการขอกันแล้วนะครับ

วันนี้มาเจอกับข้อสุดท้ายของอุปสรรคครับ "ความหยิ่งยโส"



"ความหยิ่งยโส"  >>> จะเกิดขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ ผู้ชาย มักจะจมปลักอยู่กับความหยิ่งยโส

ผู้ชายมักจะไม่ยอมรับว่าต้องการใครสักคน หรืออะไรสักอย่าง เพราะเราเชื่อว่าเราสามารถทำทุกอย่างได้

ด้วยตัวเอง และการขอความช่วยเหลือนั้นทำให้เราดูอ่อนแอ ไม่เป็นลูกผู้ชาย



เรามาดูตัวอย่างอุปสรรคในการขอของเคสนี้กันครับ

คุณผู้หญิง หรือคุณแม่บ้านเคยสังเกตไหมครับ ว่าแฟนของคุณ หรือคุณพ่อบ้านนั้น หยิ่งในศักดิ์ศรีมากแค่ไหน

โดยเฉพาะเวลาเดินทาง... เชื่อไหมครับว่าคุณผู้ชายยอมที่จะไม่ถามทาง ทั้งๆที่เขาหลงทาง หรือไม่รู้ว่าจะไปทางไหนต่อ

เพราะเขาเชื่อว่าเขาสามารถไปถึงจุดหมายปลายทางได้ด้วยตัวของเขาเอง ประมาณว่ามาทางนี้ละถูกแล้ว ไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ถึง

ทั้งๆที่ ถ้าถามทางซะตั้งแต่แรก ป่านนี้คงถึงที่หมายไปนานแล้ว จนมีวลีของชาวเดนมาร์กที่ประชดพฤติกรรมของผู้ชายในเคสนี้ว่า

"ถามสองครั้งดีกว่าหลงทางครั้งหนึ่ง" พูดเป็นภาษาบ้านๆก็ "ถามเถอะ จะได้ไม่หลง" แต่ผู้ชายโดยมากจะไม่ทำครับ ^^



อีกตัวอย่างหนึ่ง อันนี้ผมอ่านเจอในหนังสือ "กล้าที่จะขอ" ซึ่งในตัวอย่างแสดงให้เห็นความหยิ่งยโส และกลัวกับผลที่จะตามมา

ชายชราคนหนึ่งยืนเข้าคิวรอรถประจำทางอยู่ มีชายหนุ่มยืนอยู่ข้างหลังเขา ชายหนุ่มถามว่า "ขอโทษครับลุง มีไม้ขีดไหมครับ"

ชายชราตอบอย่างโมโหว่า "ไม่.. ไม่มี!" ชายหนุ่มคิดในใจ "ไม่เห็นต้องโมโหอะไรขนาดนั้นเลย" สักพักชายหนุ่มก็"ด้ไม้ขีดจากคนอื่น

2-3 นาทีต่อมาชายชราคนนั้นก็เอาไม้ขีดออกมาจุดบุหรี่ ชายหนุ่มจึงถามว่า "อ้าวลุง... ทำไมลุงบอกไม่มีไม้ขีด ทั่้งๆที่ลุงมีละ"

ชาบชราตอบ "เจ้าหนู.. ถ้าฉันให้ไม้ขีดแก แกกับฉันก็จะเริ่มคุยกัน และถ้าคุยกัน เราอาจจะลงเอยด้วยการนั่งรถไปด้วยกัน

พอนั่งรถไปด้วยกัน เราก็ต้องพูดคุยเรื่องกันและกัน แกดูเป็นมิตรดีนะ ฉันอาจจะชอบแกก็ได้ ทีนี้ฉันอาจจะชวนแกไปกินข้าวที่บ้าน

และถ้าแกมากินข้าวที่บ้าน แกก็จะเจอกับลูกสาวฉัน แกอาจจะชวนกันไปเที่ยว และถ้าแกไปเที่ยวกับเธอ ใครจะไปรู้ มันอาจจะโยง

ไปถึงเรื่องอื่นก็ได้ และแกอาจลงเอยด้วยการแต่งงานกันหล่อน และฉันไม่อยากให้ลูกสาวของฉันแต่งงานกับคนที่ไม่มีแม้กระทั้งไม้ขีด

อย่างแกหรอก ไอหนุ่ม!!!" เห็นไหมครับ... คิดไปซะไกล ทั้งๆที่ยังไม่ได้เริ่มที่จะช่วยเหลือเขาเลยด้วยซ้ำ ชายชราเลือกที่จะหยิ่งยโส

แทนที่จะผูกมิตรกับชายหนุ่มซึ่งในใจแกก็คิดว่าเขาเป็นมิตรดี ซึ่งใครจะไปรู้อีก 5 นาทีต่อมาคุณลุงอาจจะเป็นลมต้องเข้าโรงบาลด่วน

โดยต้องขอความช่วยเหลือจากชายหนุ่มคนนี้ก็เป็นได้
... จริงไหมครับ


จากตั้วอย่างข้างต้นจะเห็นได้ว่า
... อุปสรรคในการขอข้อนี้ โดยมากจะเกิดกับผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ครับ ความหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี

ความเชื่อที่ถูกสอนมาว่าผู้ชายที่แท้จริงต้องทำได้ทุกอย่าง โดยไม่ต้องพึ่งใคร ซึ่งก็เป็นความเชื่อที่ไม่ผิดอะไร แต่บางครั้ง

"การขอความช่วยเหลือก็ไม่ได้จะแสดงออกซึ่งความอ่อนแอแต่อย่างใด หากมันจะเป็นการทำให้งานนั้นสำเร็จได้ง่าย และเร็วขึ้น"

"โดยเฉพาะการทำงานเป็นทีมด้วยแล้ว การขอความช่วยเหลือจากคนที่มีความถนัดในแต่ละด้าน มันจะช่วยให้งานของเราสำเร็จได้ง่าย

เร็ว และมีประสิทธิภาพมากที่สุด อย่าหยิ่งยโสว่าเราเก่งเราทำได้ทุกอย่างด้วยตัวของเราเพียงคนเดียว ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วครับ
"

"ย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือ อย่ากลัวที่จะเป็นหนี้บุญคุณใคร เพราะในอนาคตใช่ว่าเราจะไม่ได้ใช้หนี้บุญคุณนั้นซะหน่อย" จริงไหมครับ ^^



บทความนี้ก็เป็นบทความสุดท้ายของอุปสรรคในการขอแล้ว ถ้าอุปสรรคทั้ง 5 ข้อนี้ ถูกขจัดให้หมดไปจากใจเราได้

หรือปรับปรุงพัฒนาตัวเองในข้อด้อยที่ตนมี ที่นี้เราทุกคนก็พร้อมที่จะ "ขอในสิ่งที่ที่ใจเราปรารถนาแล้วละครับ ^^"

หมายเลขบันทึก: 324860เขียนเมื่อ 3 มกราคม 2010 23:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมานะครับ

แสดงความคิดเห็นกันได้นะครับ จะได้แชร์ความรู้กัน ^^

มาสวัสดีปีใหม่ค่ะ

การขอได้ ขอได้แต่ให้พอเพียง เพียงพอ อย่ามากไป ผลัดกันขอ ผลัดกันให้ ก็ดีนะ อิ อิ อิ

โชคดีปีใหม่ค่ะ

ใช่ครับ... บางทีการให้ก่อน แล้วค่อยรับก็เป็นสิ่งที่ดีเหมือนกัน

ขอบคุณครูจิ๋ว ที่แวะมาเยี่ยมครับ ^^

ความหยิ่งยะโส มักมีแต่ผลเสียต่อการขอใดๆ

เพราะมีคีย์เวิร์ดคำเดียวคือคำว่า "ศักดิ์ศรี" มันค้ำคออยู่

ดังนั้น ผู้ที่มีปัญญา การเรียนรู้ รับรู้ได้รวดเร็ว แล้วไม่ระวังใจตัวเองให้ดี

มักมีอีโก้เสมอ

ใครพูด เสนอความคิด เสนอแนะ หรือบอกกล่าวอะไร โดยมาก

คนมีอีโก้เหล่านี้ หากไม่ระวังมักจะเกิดการปะทะได้ง่าย

จิตวิทยาการขอสำหรับคนมีอีโก้สูงไปขอคนอื่น เขาต้องฝืนมาก

แต่สำหรับคนที่จะใช้จิตวิทยาการขอไปขอผู้มีอีโก้สูงๆ เหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน

แต่อย่างน้อย ไพรัชต์ พี่ว่านะ

คนที่รู้ทันใจตัวเอง ไม่ประมาทเท่ากับผู้มีอีโก้ เปรียบได้กับรู้เขารู้เรา

รู้ว่าเขามีอีโก้ เราต้องจัดการ และรับมือต่อสถานการณ์อย่างไร

ทั้งที่อีกฝ่ายรู้เฉพาะตัวเอง มีความหยิ่งในตัวเอง

อยากให้คนทั้งโลกเคลื่อนเข้าหาตัวเอง หมุนรอบตัวเอง

โดยไม่ได้พยายามมองผู้อื่นเลย ... คนมีอีโก้หรือหยิ่งในตัวเองสูง เสียเปรียบเสมอ

พี่แจ๋วแหวว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท