งานเขียนจากการอ่านคิดวิเคราะห์โคลงสุภาษิตทศนฤทุมนาการ กิจ ๑๐ ประการที่ผู้กระทำไม่เคยเสียใจ
กิจกรรมโดยสังเขป
๑. นักเรียนอ่านโคลงทั้ง ๑๐ บท
๒. ฟังครูอธิบายเนื้อหา
๓. นักเรียนจับคู่กับเพื่อน เขียนเรื่องสั้นๆ ให้มีตัวละคร มีพฤติกรรมที่สอดคล้องกับโคลงที่ได้รับมอบหมาย พร้อมกับจบด้วยโคลงบทนั้น ๆ
๔. นำผลงานมาลงบันทึกนี้ หาภาพน่ารักๆ มาปิดท้ายหรือตอนต้นของบันทึก เพื่อทำให้บันทึกน่าอ่าน
๕. ตรวจสอบคำผิดก่อนโพสท์ หากพบว่ามีคำผิดให้โพสท์ใหม่
๖.อย่าลืมลงชื่อ เลขที่ ห้อง ของผู้เขียนหรือเจ้าของผลงานด้วยนะคะ
๑.กิจกรรมนอกห้องเรียน ครูภาทิพมอบหมายให้นักเรียนอ่านเรื่องสั้น เรื่องลูกผู้ชายตัวเกือบจริง องค์ประกอบของเรื่องสั้น การประเมินเรื่องสั้นมาล่วงหน้า
๒. ในห้องเรียนชั่วโมงที่ ๑ ครูภาทิพอธิบายเรื่อง เรื่องสั้น โดยใช้ Mind Mapบนกระดาน พร้อมยกตัวอย่างองค์ประกอบแต่ละด้านจากละครโทรทัศน์ และสมมุติเรื่องโดยให้เขาและเธอเป็นตัวละคร ซึ่งวิธีการนี้ จะทำให้เด็กเชื่อมโยงความรู้ง่ายขึ้น
๓. ให้นักเรียนใช้ดินสอเขียน Mind Map สร้างองค์ประกอบของเรื่องสั้นของเขาและเธอ โดยเริ่มจากแนวคิดว่า เขาจะนำเสนอแนวคิดอะไร แนวคิดนี้ครูต้องยกตัวอย่างไว้บนกระดานให้มากที่สุดเพื่อเป็นทางเลือกของนักเรียน เช่น
ความรักความผูกผัน ความยากจน การแบ่งปัน การให้อภัย ความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ การไขว่คว้า ความโลภ ความขยันหมั่นเพียร ความซื่อสัตย์ ฯลฯ
จากแนวคิด mind mapก้านต่อไปก็คือ ปมของเรื่อง จากแนวคิดที่นักเรียนกำหนด นักเรียนจะสร้างปมของเรื่องด้วยเงื่อนไขอะไร ครูก็อธิบายและยกตัวอย่างให้มีความหลากหลายอีกเช่นกันเช่น การพลัดพราก ความเข้าใจผิด ความแตกต่างทางฐานะ ภัยธรรมชาติ ความอิจฉาริษยาฯลฯ นักเรียนก็เลือกปมไปเขียนไว้
ขั้นต่อไป ฉาก ฉากให้มีเพียงฉากเดียว นักเรียนเลือกฉากที่ไหน โรงเรียน หอประชุม ห้องสมุด ที่เรียนพิเศษ บนรถ ฯลฯ
ตัวละคร ให้นักเรียนกำหนดไว้ ๑-๓ ตัว ระบุชื่อ อายุ เพศ วัย รูปร่างลักษณะ นิสัย ไว้ให้ชัดเจน
การจบ นักเรียนจะให้เรื่องจบอย่างไร ให้นักเรียนเขียนไว้อย่างย่อๆ
เค้าโครงเรื่อง ให้นักเรียนเขียนเค้าโครงโดยย่อ เช่น เป็นเรื่องของเพื่อน๒ คนที่สนิทและผูกพันกันมาก แต่ต้องมาพรากจากกันเพราะครอบครัวของ....ย้ายไปอยู่ที่อื่น เค้าโครงนี้ครูก็ต้องยกตัวอย่างให้เห็นหลายเค้าโครง เพื่อให้นักเรียนเกิดความเข้าใจและเกิดจินตนาการที่จะสร้างเรื่องของตนเองได้
อ่านมาถึงตอนนี้อาจจะงงว่า ทำไมครูภาทิพ ไม่สอนให้นักเรียนตั้งชื่อเรื่อง ครูภาทิพ ให้นักเรียนเขียนชื่อเรื่องหลังสุด ไม่ใช่ว่าชื่อเรื่องไม่สำคัญ แต่ครูภาทิพเชื่อว่าระหว่างการเขียนนักเรียนยังเปลี่ยนชื่อเรื่องของตัวเองอีกหลายรอบ และชื่อเรื่องมีความสำคัญต่อการตัดสินใจอ่านเหมือนกัน ถ้าเรื่องเท่ๆ คนก็จะหยิบมาอ่าน เอ๊ะ! มันเป็นอย่างไรนะ ฉะนั้น ใน Mind Mapของนักเรียน ชื่อเรื่องจะปรากฏหลังสุด แต่จะอยู่ตรงกลางดังนี้
๔. ประเมินผล นักเรียนนำผลงานการเขียนแผนภาพความคิด ในการวางแผนเขียนเรื่องสั้น ส่งครู เก็บคะแนน ๕ คะแนน ด้วยกระบวนนี้นักเรียนส่วนใหญ่จะได้คะแนนเต็ม ๕ ต่ำสุดเพียง ๔คะแนน
๕. ชั่วโมงต่อมานักเรียนนำแผนภาพความคิดของเรื่องสั้นที่วางแผนไว้ มาเขียนเนื้อเรื่องในห้องเรียน ๔๐-๗๐ เปอร์เซ็นต์ของเนื้อเรื่อง นักเรียนใช้ดินสอลงมือเขียนในห้องเรียน ที่เหลือจึงจะไปเขียนนอกเวลาได้
๖. การส่งงาน นักเรียนต้องส่งแผนภาพความคิดชิ้นแรก พร้อมกับเรื่องสั้นที่เขียนสมบูรณ์เพื่อรับคะแนนประเมินผลอีก ๕คะแนน
ในมุมมองของผู้สอน ครูภาทิพ มองว่ากระบวนการเรียนรู้ที่ได้ดำเนินการทั้งหมดเป็นนวัตกรรมทางการสอนอย่างหนึ่ง เพราะ จากที่ครูภาทิพสอน ม.๒ ทั้งหมด ๑๔๙ คน นักเรียนไม่ส่งผลงานมีเพียงคนเดียว ซึ่งคนนี้เป็นดุริยางค์โรงเรียนซึ่งต้องออกไปบริการหน่วยงานต่างๆเกือบทุกวัน และมีพฤติกรรมขาดความรับผิดชอบมาตั้งแต่ ม.๑ แต่เป็นเด็กที่มีความสามารถด้านภาษาไทย ซึ่งครูภาทิพก็ต้องตามงานกันต่อไป
อุปสรรคปัญหาในการสอนเรื่องนี้ก็คือ เรื่องของการคัดลอกผลงานของผู้อื่น เพราะปัจจุบัน เรื่องสั้นบนอินเตอร์เน็ตมีเผยแพร่มากมาย ยากต่อการควบคุมไม่ให้นักเรียนคัดลอก แต่ครูภาทิพก็ได้พยายามแล้ว โดยการให้นักเรียนเขียนแผนภาพความคิดกำหนดทิศทางในการเขียนไว้ก่อน และเป็นการเขียนต่อหน้าครู แต่ก็ไม่อาจควบคุมได้ทั้งหมด เพราะส่วนหนึ่งนักเรียนจำเค้าโครงเรื่องจากที่เขาอ่านมาได้ แต่สิ่งที่ได้ตรงประเด็นที่สุดคือ นักเรียนรู้จักเรื่องสั้น แค่นี้ก็พอใจแล้วล่ะ
ตัวอย่างผลงานเรื่องสั้นของนักเรียน ห้อง ม.๒/๔ ม.๒/๕ ม.๒/๖
สวัสดีปีใหม่ค่ะอาจารย์
มาเรียนรู้การเขียนเรื่องสั้นค่ะ
ขอบคุณค่ะ
คุณครู
สวัสดีค่ะเด็กหลอดแก้ว เรื่องสั้นที่น่าศึกษาลองอ่านเรื่อง ครีบหักของประภัสสร และเรื่องสายน้ำของวัฒน์ วัลยางกูร ดูนะคะ ครูภาทิพชอบมาก
นมัสการพระคุณเจ้า
การเขียนบทความ ก็น่าจะเริ่มจากการเขียนแผนผังความคิดก่อนนะคะ
ของทางศาสนา น่าจะเริ่มจาก
ครูภาทิพไม่ใช่นักเขียน แต่นี่เป็นมุมมองที่อาจจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะนำไปพัฒนาการเขียนที่ มจร.ได้ค่ะ
เรื่องการพูด กับการร้องเพลง เป็นจุดบอดของครูภาทิพ ให้วิ่งหรือไปต่อยมวยยังจะดีกว่าค่ะ
นมัสการมาด้วยความเคารพ
เด็กฉลาด ชาติเจริญ ขอบคุณคุณครูมากครับ
ขอโทษค่ะ เด็กหลอดแก้ว แนะนำเรื่องผิด ทางน้ำ ของวัฒน์วัลยางกูร
สวัสดีค่ะ บีเวอร์ ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาอ่าน บีเวอร์มีบันทึกมากมายนะคะ
สวัสดีค่ะ หนูชื่อน้ำเปล่า หนูเพิ่งเข้ามาศึกษาวิธีการสอนของครูเป็นครั้งเเรก ยอดเยี่ยมมากเลยค่ะ เด็กๆโชคดีมากเลยนะคะที่มีครูที่เก่งและมากด้วยความสามารถ หนูกำลังเรียนครูภาษาไทยปี 4 กำลังทดลองสอนค่ะ เทอมนี้ได้สอนกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ครูช่วยแนะนำหนูบ้างนะคะหนูอยากเก่งเหมือนครูค่ะ
สวัสดีค่ะ หนูน้ำเปล่า ครูภาทิพไม่ใช่คนเก่ง ครูที่เก่งเขาไม่ต้องเตรียมอะไรเลย
เขาสามารถเข้าห้องสอนแล้วบรรยายได้โดยไม่ต้องเตรียม
สำหรับครูภาทิพ เป็นครูที่กังวล กลัวความล้มเหลว กลัวผิดพลาด
ก็เลยต้องทำโน่นทำนี่ เมื่อใกล้ถึงเวลาสอน ไม่สามารถทำงานอื่นได้
คอยดูแต่นาฬิกา กลัวเข้าห้องสอนช้า กลัวลืมสอน กลัวสอนไม่ถูก
สำหรับกาพย์ห่อโคลงก็ดูที่บันทึกในบล็อกนี้
คลิกสารบัญบันทึกจากห้องเรียน คลิกตัวอย่างชิ้นงานนักเรียน
สวัสดีค่ะ คุณครูภาทิพ
ครูตาก็ชอบที่จะให้เด็กเขียนเรื่องสั้นค่ะ ส่งประกวดในโครงการหนังสือเล่มเล็กของสพท.ด้วย อ่านกระบวนการสอนของครูแล้วน่าสนใจมาก ๆ จะลองนำไปใช้ดูค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่ให้ข้อมูลดี ๆ
สวัสดีค่ะ ครูตา ชื่นชมครูตาเช่นกันค่ะ
เก่งมากครับ