อุปสรรคในการขอ(ตอนที่ 2) "ความเชื่อที่จำกัด และไม่ถูกต้อง"


Appreciative Inquiry : อุปสรรคในการขอ "ความเชื่อที่จำกัด และไม่ถูกต้อง"

เมื่อวานเราได้เรียนรู้อุปสรรคในการขอข้อแรกไปแล้วนั้นก็คือ "ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์"

มาต่อกันข้อที่ 2 เลยครับ อุปสรรคในข้อที่ 2 นี้ คือ "ความเชื่อที่จำกัด และไม่ถูกต้อง"


ความเชื่อที่จำกัด และไม่ถูกต้อง หมายถึง สิ่งที่เราถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ว่าจะเป็น

จากพ่อแม่ หรือสภาพแวดล้อมต่างๆที่แต่ละคนอยู่ จนมันฝังติดอยู่กันตัวเรา โดยที่เราไม่รู้ตัว

เป็นความเชื่อด้านลบ และจำกัดที่ปลูกฝังอยู่ในจิตใต้สำนึกของเรา และคอยควบคุมเ
ราอยู่



ยกตัวอย่างนะครับ สมัยเด็กๆผมว่าหลายๆคน คงเคยไปงานรวมญาติใช่ไหมครับ

ก่อนเราจะกลับ ญาติผู้ใหญ่ของเรามักจะให้ค่าขนมเราเป็นเหมือนเบี้ยเอ็นดูอะไรแบบนั้น

แต่พ่อกับแม่ของเรามักจะบอกว่า อย่าไปรับเงินของ อา/น้า/ย่า/ยาย นะ เกรงใจเค้า

ทั้งๆที่ในใจลึกๆของเรา อยากได้ใจจะขาด แต่ต้องบอกไปว่า "ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับ"

จนท้ายที่สุด อา/น้า/ย่า/ยาย ก็จะยัดเงินจำนวนนั้นให้เราอยู่ดี ที่จริงจะว่ามันเป็นแค่เกมส์ของผู้ใหญ่ก็ได้ครับ

แต่กลายเป็นเราๆท่านๆ ที่ได้รับผลจากเกมส์นั้นมาเต็มๆ เพราะอะไรนั้นเหรอครับ เพราะว่าเราถูกปลูกฝังว่า

"อย่ารับในสิ่งที่เราต้องการ" ซึ่งสิ่งนี้ส่งผลทำให้เราไม่กล้าขอยังไงละครับ

ตัวอย่างที่ 2 ครับ... อันนี้สำหรับคุณสุภาพบุรุษ เคยสังเกตุไหมครับว่า ทำไมผู้ชายถึงไม่ค่อยจะขออะไรเท่าไหร่

ปัจจัยหนึ่งผมเชื่อว่ามาจากพฤติกรรมเลียนแบบเหล่า Super Hero ครับ ไม่ว่าจะเป็น Super Man

Spider Man อะไรพวกนี้ ต้องยอมรับครับว่า Super Hero พวกนี้เปรียบเสมือน Idol ของพวกเด็กๆ

เคยสังเกตุไหมครับว่าเหล่า Super Hero พวกนี้ไม่เคยแสดงความอ่อนแอ หรือความต้องการที่อยู่ลึกๆออกมาเลย

Spider Man มักจะแก้ปัญหาของตัวเองเพียงลำพัง โดยไม่เคยร้องขอความช่วยเหลือจากใคร ทั้งๆที่ถ้าเค้าขอความช่วยเหลือ

หลายๆอย่างมันจะง่ายกับชีวิตเขามาก สิ่งต่างๆที่สื่อทางโทรทัศน์ได้ปลูกฝังไว้ให้กับเด็กผู้ชายคือ การจะเป็นผู้ชายที่เข้มแข็งหรือแข็งแกร่ง

( ลูกผู้ชายตัวจริง ) คุณจะต้องยืนด้วยลำแข็งของตัวเอง โดยไม่ต้องขอความช่วยเหลือจากใคร ซึ่งมันเป็นความเชื่อที่ผิดถนัดครับ

ในใจลึกๆของ Peter Parker อาจจะไม่ได้อยากโดนแมงมุมกัดตั้งแต่แรกเลยก็ได้




ตัวอย่างสุดท้ายครับ... เคยได้ยินใช่ไหมครับว่า เด็กฉลาด มักจะชอบถามโน้นถามนี้อยู่เรื่อยๆ อย่ารำคาญเค้าเลยนะครับ

พยายามหาคำตอบในสิ่งที่เขาอยากรู้ เพราะนั้นจะเป็นการปลูกฝังให้เขากล้าที่จะถาม กล้าที่จะขอในสิ่งที่เขาต้องการครับ ลองคิดดูครับ

ถ้าเกิดวันหนึ่งเราเบื่อที่จะตอบคำถามของเขา ตอบแบบส่งๆไป "ไม่รู้สิ" "ตอนนี้พ่อ/แม่ไม่มีเวลา" "อย่าเพิ่งมากวนตอนนี้ได้ไหม"

ถ้าเด็กๆได้ยินคำตอบพวกนี้บ่อยๆเข้า เด็กพวกนั้นก็จะกลายเป็นคนที่ไม่กล้าถาม ความอยากรู้อยากเห็นของเขาก็จะหมดไป

และนั้นคือสิ่งที่จะฝังติดตัวเขาไปตลอดชีวิตเลยละครับ เขาจะกลายเป็นคนที่ไม่กล้าถาม หรือขอในสิ่งที่ต้องการครับ ^^


เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับอุปสรรคการขอข้อที่ 2 "ความเชื่อที่จำกัด และไม่ถูกต้อง" สิ่งเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นสมัยที่เรายังเด็กครับ

เราถูกปลูกฝังมาแบบไหนก็จะเป็นแบบนั้น ติดตัวมาโดยไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้น"เราต้องพยายามครับ ลบความเชื่อด้านลบเหล่านี้ทิ้งไปซะ

ทำให้มันออกไปจากจิตใต้สำนึกของเรา ค่อยๆปรับครับ... ของแบบนี้ต้องใช้เวลา แล้วเราจะกล้าขอในสิ่งที่เราต้องการครับ
"


อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว และคุณละคิดอย่างไรกับบทความนี้

พรุ่งนี้เตรียมพบกับอุปสรรคในการขอข้อที่ 3 กันต่อครับ "ความกลัว" แล้วพบกันปีหน้าฟ้าใหม่ครับ

สวัสดีปีใหม่ครับทุกท่าน ^^

หมายเลขบันทึก: 324250เขียนเมื่อ 31 ธันวาคม 2009 09:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

Happy New Year

ได้ความรู้มากครับ ทำต่อเยอะๆนะ

อย่าไปรับเงินของ อา/น้า/ย่า/ยาย นะ เกรงใจเค้า

ทั้งๆที่ในใจลึกๆของเรา อยากได้ใจจะขาด แต่ต้องบอกไปว่า "ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณครับ"

...

คือ ผมมองว่า เป็นการสอนให้เกรงใจเป็นมารยาทมากกว่า ไม่ใช่เรื่องไม่ถูกต้องอะไรนิครับ

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นครับ

@คุณบีเวอร์... ใช่ครับ ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ถูกแต่อย่างใด เป็นการสอนให้มีความเกรงใจ (เป็นอะไรที่คนไทยทุกคนมีเยอะกว่าชาติอืนๆ)

แต่ลองมองในมุมของเด็กกันครับ.... อยากได้ใจจะขาด แต่ต้องบอกตอบปฏิเสธเสียงหัวใจของตัวเอง

และนั้นละครับ คือสาเหตุที่ทำให้เด็กไทยส่วนไม่มีความกล้าที่จะขอในสิ่งที่ใจตนอยากได้ครับ และมันก็จะติดตัวเค้าไปจนโต

แต่ถ้าเปลี่ยนเป็น... สอนให้เค้าเป็นคนมีมารยาทมีสัมมาคาระวะแทนละครับ พ่อแม่อาจจะบอกว่า ขอบคุณ อา/น้า/ย่า/ยาย ซิลูก

อันนี้มันน่าจะดีกว่าครับ อย่างน้อยก็เป็นการสอนให้เค้าเป็นคนมีมารยาท รับของจากผู้ใหญ่ต้องไหว้

แถมยังไม่ขัดความรู้สึกของเด็กด้วยนะครับ ^^

สวัสดีปีใหม่ครับ ^^

ขอบคุณที่ตอบ สวัสดีปีใหม่เช่นกันครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท