เริ่มงาน เป็นอาสามัครครูศูนย์เด็กก่อสร้าง ที่มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก


อาสามัครครูศูนย์เด็กก่อสร้าง

เริ่มงาน เป็นอาสามัครครูศูนย์เด็กก่อสร้าง ที่มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก

           ผู้เขียนเองจำได้แม่นในการเริ่มงานที่มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก  ด้วยผู้เขียนเองเรียนปริญญาตรี เอกพัฒนาชุมชน(เกียรตินิยม อันดับ 2) จากวิทยาลัยครูพระนครศรีอยุธยา เป็นเด็กด้อยโอกาส ที่เรียนจบเพราะทุนการศึกษาจากมูลนิธิหม่อมงามจิตต์ และทำงานรับจ้างทุกอย่างตั้งแต่สอนหนังสือพิเศษ รับจ้างเขียนหนังสือ (อาจารย์จะแปลจากต่างประเทศ ผู้เขียนต้องมาคัดและเรียบเรียงลายมือของอาจารย์) เมื่อจบการศึกษาจึงเป็นที่หวังของอาจารย์ ที่ลูกศิษย์จะต้องสอบราชการ(เป็นความต้องการของครอบครัวด้วยน่ะ) แต่มีการต่อรอง เพราะรู้นิสัยตนเองที่ไม่สามารถที่จะอยู่ในกรอบการทำงานได้  แต่เมื่อจบมา ทางอาจารย์ได้ให้ไปสอนเด็กเล็กที่โรงเรียนวัดจำปา (เป็นโรงเรียนเดิมที่เคยเรียนในช่วงชั้นประถมศึกษาปีที่ 5-6) เป็นโรงเรียนประจำอำเภอ ทำงานได้เพียง 1 เดือน

           ทางมูลนิธิสร้างสรรค์เด็กได้ประกาศรับสมัครอาสาสมัครครูศูนย์เด็กก่อสร้าง ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ  ผู้เขียนจึงได้โทรศัพท์สมัครงาน  ซึ่งทางมูลนิธิฯได้บอกว่าให้มาสัมภาษณ์ ที่ซอยหนังสือพิมพ์บ้านเมือง (ซอยปลื้มมณี) ซึ่งผู้เขียนเองยังไม่ได้บอกทางครอบครัว แต่ได้ปรึกษากับน้องชาย และให้น้องชายพามาสมัคร เพราะว่าผู้เขียนไม่เคยมากรุงเทพเลย จึงมาไม่ถูก

            ถึงวันนัดสัมภาษณ์ วันที่ 15 พฤษภาคม 2531 ดิฉันแต่งตัวด้วยกระโปร่งแบบเรียบร้อยมาก  พร้อมกับผู้สัมภษณ์ทั้งหมด 6 คน ประกอบไปด้วย ครูหยุย ครูน้อย ครูตู่ ครูหน่อง ครูโอ่ ครูนา(มีฝาแฝดชื่อครูเสียม) ซึ่งต่อมาเป็นพี่เลี้ยงคอยสอนงานและให้กำลังใจ  โดยคำถามที่ถามว่า อยากมาทำงานที่มูลนิธิฯนี้เพราะอะไร  ผู้เขียนตอบว่าอยากทำเพราะตนเองเป็นผู้รับทุนการศึกษามาตลอดในขณะที่เรียนหนังสือ  และอยากใช้ความรู้ที่เรียนด้านพัฒนาชุมชน ทำงานกับผู้ด้อยโอกาส  และอยากได้งานทำเพื่อเอาเงินไปส่งน้องเรียน (ครูที่สัมภาษณ์ต่างมองหน้าผู้เขียนที่ตอบตรงมา)  หลังจากนั้นก็ให้สอบสอนให้ดูว่าจะสอนเป็นอย่างไรบ้าง

            เรื่องการสอนผู้เขียนเองไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ เพราะว่าตอนเรียนอนุปริญญา เรียนการเอกประถมวัยมา  และฝึกสอนในโรงเรียนเป็นระยะเวลากว่า 8 เดือน การสอนจึงได้เตรียมเรื่อง ยาเสพติด โดยมีการทำบันทึกการสอนให้กับครูนา และครูโอ่ ดู พร้อมทั้งมีขั้นตอนการนำเข้าสู่บทเรียน  เริ่มสอนเนื้อหา ให้เด็กมีส่วนร่วมในการเรียน มีทั้งอุปกรณ์ที่ประกอบไปด้วยบัตรคำ บทเพลง สื่อรูปภาพ และขั้นตอนสุดท้าย อการประเมินผลกับเด็ก ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี  แต่เด็กที่เรียนจะแซวตลอดเวลาที่สอน มีการปราบหัวโจ๊กของเด็กเป็นระยะๆ

            หลังจากนั้นทางคณะผู้สอบสัมภาษณ์ประชุม แล้วก็มาบอกกับผู้เขียนว่า ทางมูลนิธิฯรับเป็นอาสาสมัครครูศูนย์เด็กก่อสร้าง  และขอให้เริ่มงานตั้งแต่บ่ายวันนี้เลย  ผู้เขียนเองต้องขอผลัดที่จะเริ่มงานปลายเดือน  เพราะต้องไปลาออกจากโรงเรียนก่อน  และที่บ้านต้องมีงานบวชน้องชายคนที่พามา สิ้นเดือนนี้

             ตำแหน่งอาสาสมัครครูศูนย์เด็กก่อสร้าง ในช่วงนั้นมีทั้งหมด 15 คน ซึ่งเป็นรุ่นเดียวที่มีการสอนคนเข้าทำงานของมูลนิธิฯ แต่ปัจจุบันนี้เหลือผู้เขียนคนเดียว  หัวหน้าของผู้เขียนที่ต้องทำงานด้วยคือ ครูหน่อง   งานที่จะไปสอนอยู่ที่แหล่งก่อสร้างหมู่บ้านปรีชา มีนบุรี  และมีเพื่อนร่วมงานที่เริ่มงานมาก่อน 3 คน พร้อมกับอาสาสมัคร อีก 15 คน แต่ละคนดมื่อไปเห็นงานกันวันเดียวก็ลาออก เหลือทีมทั้งหมดในช่วงนั้น จำนวน 6 คนด้วยกัน  คือ ครูเกียรติ (ครูประกอบเกียรติ ชัยเกิด  ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน ที่จังหวัดอุบลราชธานี) ครูนา.ครูเสียม(ปัจจุบันค้าขาย) ครูนก (ปัจจุบันเป็นครูสอนอนุบาลเด่นหล้า) ครูมัย (เป็นคนบางกรวย นนทบุรี) และผู้เขียนเอง

หมายเลขบันทึก: 323312เขียนเมื่อ 26 ธันวาคม 2009 23:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 เมษายน 2012 10:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

งานที่เริ่มทำครั้งนั้นแค่คิดว่าจะทำประมาณสัก ปี สองปี แต่ปัจจุบันอยู่นานกว่า 22 ปี แล้วนะที่ยังสามารถเดินอยู่บนสายงานพัฒนาด้านเด็ก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท