มีหลายคนทักว่าเลี้ยงลูกอย่างไรกันนี้แม่บ้านนี้ แล้วเผอิญอีพ่อบ้านนี้ก็แนวคิดในการเลี้ยงลูกพอๆกันอีก เลยเออ!! มานึกทบทวนเหมือนกัน ..รึว่าเราแปลกจริง โตขึ้นลูกสาวเราจะแนวไหนเนี่ย
เริ่มจากตอนที่รู้ว่ามีลูกก็คิดว่าจะเลี้ยงเองให้ดีกว่าที่ตัวเราเป็นผู้ใหญ่อย่างปัจจุบันนี้ เพราะอย่างแรกที่เรียนรู้คือ
-
ฝึกลูกทำกับข้าว ตั้งแต่เริ่มสนใจ หัวเลยเคาน์เตอร์หน่อยนึงก็โอเคเลย เหตุผลแฝงก็คือ แม่มันทำกับข้าวไม่เก่ง อนาคตลูกจะได้ฝีมือดีทำให้แม่กินได้
-
สอนลูกเสียสละให้ผู้ใหญ่ก่อน ก็ทำเป็นเล่นๆนะ บางทีก็แย่งคิวกันอาบน้ำบ้าง บางทีก็แย่งกันกินขนม ก็สนุกดี แต่ก็แฝงไว้ให้ชินเพราะเมื่อลูกโตขึ้นลูกจะได้เคยชินว่าต้องเทคแคร์ผู้ใหญ่นะ ไม่มีผู้ใหญ่คนไหนจะมาเสียสละให้เด็กตลอดเวลา มันกลับกันกับสมัยเด็ก ที่มีอะไรผู้ใหญ่ก็จะเสียสละให้เด็ก ซึ่งโลกความเป็นจริงมันต้องเป็นแบบนั้นผู้ใหญ่มักต้องการให้เด็กเสียสละ ด้วยคำว่าให้เกียรติกัน ก็เป็นมารยาทไทยที่ดี
-
ฝึกดูแลรับผิดชอบตัวเอง เช้าก็หยิบสตางค์ไปโรงเรียนเอง โดยตกลงกติกากันไว้ ให้กี่บาท ก็ไม่เคยเจอลูกขโมยซักที วันไหนจะใช้เกินกว่านั้น ก็จะบอก เย็นกลับมาเงินเหลือก็ใส่กระปุกเก็บไว้ แต่เดี๋ยวนี้ชักไม่ค่อยเหลือซะแล้วค่ะ ...
-
ให้ร่วมตัดสินใจ มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นในบ้าน เราก็ให้สิทธิ์เค้าหนึ่งเสียงว่าคิดเห็นอย่างไร โอเคมั้ย ลงเป็นประชามติ ก็ดีค่ะ ตัวเค้าเองมีการเขียนขึ้นกระดานไว้ด้วยว่าเค้ารับปากอะไรไว้บ้าง แน่ะ
-
ให้เห็นว่าพ่อแม่ทำงานอย่างไร เวลาปิดเทอมบางทีเค้าก็ไปช่วยแม่ไปช่วยพ่อทำงานที่โรงพยาบาล หรือเวลาเรามีงานค้างเราก็ขนมาทำที่บ้าน เค้าก็จะรู้ว่าทำงานคืออย่างนี้
- มีอะไรก็พูด ดุเป็นดุ เล่นเป็นเล่น
- ฟังลูกทั้งเรื่องที่ทำดี และทำไม่ดีมา เพราะอนาคตลูกจะได้เข้ามาปรึกษาพ่อแม่มากกว่าเพื่อน เพราะพ่อแม่เป็นเพื่อนลูก
- ดูทีวีวิจารณ์ร่วมกัน เพราะบางอย่างละครทีวีก็สอนได้เยอะ ให้ดูว่าดีไม่ดี สุดท้ายเกิดอะไรขึ้น
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสาวกอหญ้าโตขึ้นจะเป็นผู้ใหญ่แบบไหน แต่ทุกวันนี้พ่อแม่ก็ไม่ต้องเหนื่อยใจกับเรื่องใหญ่ๆ เหลือแต่เรื่องที่บ่นทุกวัน คือ กินข้าวเยอะๆ ซิลูก กินเร็วๆ ด้วย..ช้ามาก (ตัวผอมกะหร่อง) แม่มันปากจะกว้างถึงหู แต่คงแพ้พ่อเค้านั่นล่ะ บ่นมากกว่า ฮ่ะ ฮ่า
แต่โดยหลักก็คือ " เราฝึกลูก ทดสอบว่าผ่านไว้ใจได้ แล้วก็มีเวลาให้อย่างพอเพียง ..มีมุมส่วนตัวปะปนอยู่บ้าง ...ไม่วุ่นวายกันนะมุมนั้นๆ "