ที่มาและประโยชน์ของการสวดพระปริตต์

ประโยชน์ของการสวดพระปริตรนั้นมีมากค่ะ  ผลที่ได้รับ จากการสวดพระปริตรที่เกิดจากอานุภาพ ของพระรัตนตรัยและเมตตา จะทำให้ผู้ที่หมั่นสาธยายพระปริตรประสบความสวัสดี ความเจริญรุ่งเรือง ได้รับชัยชนะ แคล้วคลาดจากอุปสรรคอันตราย มีสุขภาพดี มีอายุยืน เพราะพระปริตรได้กล่าวถึง คุณของพระรัตนตรัย  (อันได้แก่ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์) และกล่าวถึงการเจริญเมตตาภาวนาอีกด้วย ดังนั้น การสวดพระปริตร เป็นประจำจะเกิดอานุภาพปรากฎให้เห็นกับผู้ที่ปฏิบัติโดยตรง  น่าสนใจไหมค่ะ

 

๑. มงคลสูตร             ทำให้เกิดความเป็นสิริมงคล  ปราศจากอันตรายใดๆ

 

ที่มา : เหล่าเทวดาและมนุษย์อันมาก ผู้หวังความสวัสดี ได้คิดหามงคลทั้งหลาย ขอพระพุทธองค์ให้ตรัสว่าอะไรเป็นมงคลอันสูงสุด  สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสถึง มงคล 38 ประการ  เพื่อให้เหล่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายกระทำมงคลเช่นนั้นแล้ว ย่อมเป็นผู้ไม่ปราชัยในที่ทุกสถาน ย่อมถึงความสวัสดีในที่ทั้งปวง  ข้อนั้นเป็นมงคลสูงสุดของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายนั้น

 

๒. รัตนสูตร               ทำให้มีความสุขสวัสดีและพ้นจากอุปสรรคอันตราย

 

ที่มา : เมืองไพศาลี แคว้นวัชชีเกิดโรคอหิวาตกโรค  ผู้คนล้มตายจำนวนมาก กษัตริย์ลิจฉวีจึงนิมนต์พระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดชาวเมือง พระพุทธองค์ มีพุทธบัญชาให้พระอานนท์  สวดรัตนสูตรพร้อมประพรมน้ำมนต์รอบเมือง เพื่อปัดเป่าโรคร้ายและอำนวยสวัสดีมงคลแก่ชาวเมือง  “..พระตถาคตผู้ประเสริฐ  ผู้รู้พระนิพพานอันประเสริฐ  ผู้ให้ธรรมอันประเสริฐ  ผู้นำมาซึ่งมรรคอันประเสริฐ  ไม่มีผู้อื่นประเสริฐกว่า  ได้ทรงแสดงธรรมอันประเสริฐ  รัตนะ คือ พระพุทธเจ้า  เป็นของประณีตเช่นนี้  ด้วยสัจจะข้อนี้  ขอความสวัสดีจงมี...”  ว่ากันว่าภูตผีและโรคร้ายได้หายไปหมดสิ้น  ชาวเมืองก็มีกำลังใจ  เริ่มหายป่วยกันมากขึ้น  ต่อมาถือเป็นธรรมเนียมสวดพระสูตรนี้ เพื่อกำจัดภัยพิบัติของประชาชนและบ้านเมือง

 

๓. กรณียเมตตสูตร หรือเมตตปริตร     ทำให้เทวดา ภูตผีปีศาจเมตตาเรา ไม่ทำร้ายเราค่ะ  เป็นบทกันผีค่ะ ใครที่กลัวผี ต้องสวดบทนี้ให้ได้นะคะ  ผีจะไม่มาหลอกค่ะ  หลวงพ่อจรัญท่านก็แนะนำให้สวดบทนี้ค่ะ

 

ที่มา : พระภิกษุจำนวนหนึ่งได้เข้าไปจำพรรษาในป่า แต่รุกขเทวดาไม่พอใจ จึงพากันมาหลอกหลอนท่านให้ท่านอยู่ไม่เป็นสุข จึงมาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า  กราบทูลเรื่องราวให้ทรงทราบ พระพุทธองค์ตรัสว่า  “พวกเธอมิได้เอาอาวุธติดตัวไปด้วย  จึงถูกผีหลอกหลอน”  ซึ่งอาวุธนั้นคือ เมตตา  แล้วพระองค์ทรงสวดกรณียเมตตสูตรให้ฟัง พร้อมทั้งมีพุทธบัญชาให้กลับไปยังป่านั้นอีก แล้วสังวัธยายพระสูตรทันทีที่เดินเข้าป่าช้าและให้สวดเป็นประจำทุกวัน ภิกษุเหล่านั้นทำตามพุทธโอวาท  บรรดาผีทั้งหลายได้ยินบทสวดก็มีจิตอ่อนโยน รักใคร่ในพระสงฆ์ จึงไม่หลอกหลอนอีกต่อไป ภิกษุเหล่านั้นอยู่จำพรรษาในป่าด้วยความผาสุก

 

๔. ขันธปริตร            ป้องกันภัยจากอสรพิษ งู แมงป่องตะขาบ ตุ๊กแก ฯลฯ และสัตว์ร้ายอื่นๆ  ใครที่กลัวสัตว์พวกนี้ หรือใครที่เข้าป่า อยู่ใกล้สัตว์พวกนี้ หรือมันเข้ามาใกล้เรา  ต้องหัดสวดไว้ให้ขึ้นใจนะคะ ถึงเวลาจะได้เอามาใช้ได้เลย แผ่เมตตาให้เค้าไป เค้าจะไม่ทำอันตรายใดๆ แก่ผู้สวดแผ่เมตตาค่ะ

 

ที่มา : ภิกษุรูปหนึ่งถูกงูกัดตาย พระพุทธองค์รู้จึงตรัสว่า “ถ้าภิกษุแผ่เมตตาจิตไปยังตระกูลพญางูทั้ง 4 งูจะไม่กัดตายเป็นแน่”  ทรงเล่าว่า  เมื่อครั้งพระองค์เสวยชาติเป็นดาบส  เป็นหัวหน้าฤาษีทั้งหลาย  ตั้งอาศรมอยู่คุ้งน้ำใกล้ป่าหิมพานต์  ก็ได้สอนให้ศิษย์แผ่เมตตาจิตไปยังตระกูลพญางูเหมือนกัน  จึงไม่มีใครถูกสัตว์เลื้อยคลานกัดเลย ซึ่งอรรถกถากล่าวไว้ว่า สัตว์มีพิษทั้งหมด อยู่ใต้อำนาจตระกูลพญางูทั้ง 4 คือ ตระกูลพญางูวิรูปักข์ ตระกูลพญางูเอราปัถ ตระกูลพญางูฉัพยาบุตรและตระกูลพญางูกัณหาโคตมกะ  ดังนั้น เมื่อพญางูเมตตาแล้ว ลูกน้องก็ไม่กล้าทำอะไรเราค่ะ

 

๕. โมรปริตร                 ป้องกันภัยจากผู้คิดร้ายได้  จึงอยู่รอดปลอดภัย  ใครที่กำลังมีผู้คิดร้าย ใส่ร้าย ต้องการทำร้าย ทำลายเรา อาฆาตแค้น พยาบาทเรา รู้ตัวแล้วก็สวดบทนี้นะคะ ไม่ต้องไปทำร้ายเค้าตอบค่ะ แล้วจะดีเองค่ะ

 

ที่มา : นกยูงโพธิสัตว์สีทอง  ทุกเช้าก่อนจะออกไปหากิน ก็กล่าวนมัสการพระอาทิตย์กำลังอุทัยและกล่าวนมัสการพระพุทธเจ้าในอดีตทั้งหลาย เสร็จแล้วก็ออกไปหากิน ตอนเย็นก่อนกลับรังก็กล่าวนมัสการพระอาทิตย์กำลังตกดิน  และกล่าวนมัสการพระพุทธเจ้าในอดีตทั้งหลาย  ให้ปกปักรักษา  ให้ปลอดภัย  นกยูงโพธิสัตว์  สวดเช้า เย็นทุกวัน  จึงรอดปลอดภัยจากการถูกจับไปกิน

 

๖. ธชัคคสูตร           แปลว่า มนต์ป้องกันภัยด้วยการมองดูยอดธง (ธงรบของรถศึกพระอินทร์)ทำให้พ้นจากภัยอันตราย  ใครที่ต้องการกำลังใจ ความปลอดภัย ขจัดภัยต่างๆ ต้องสวดบทนี้ค่ะ โดยเฉพาะทหารใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  น่าจะสวดบทนี้ไว้นะคะ  อุ่นใจดี

 

ที่มา : พระพุทธเจ้าตรัสสอนให้ภิกษุสงฆ์รำลึกถึงคุณของพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ เวลาเกิดความหวาดกลัวหรือขนพองสยองเกล้า ขณะนั่งสมาธิอยู่ตามป่าเขา ความหวาดกลัวจะได้หมดไป ดุจดังพระอินทร์ขณะออกรบกับพวกอสูร ท่านสั่งให้เหล่าเทพนักรบบริวารของพระองค์มองยอดธงรถศึกของพระองค์

 

 ๗. อาฏานาฏิยปริตร     ป้องกันภัยจากอมนุษย์ ยักษ์ ภูตผีปีศาจทั้งหลายจะไม่ทำอันตรายและจะให้การอารักขา คุ้มครองให้ปลอดภัย  ทำให้มีสุขภาพดี ไม่มีโรค ไม่มีอันตราย มีความสุข และมีอายุยืน  บทนี้ดีมากนะคะ ช่วยสะเดาะเคราะห์ ให้พ้นจากเสนียดจัญไรทั้งปวง หายจากโรคภัย พิธีสวดภาณยักษ์ก็ใช้บทนี้ค่ะ

 

ที่มา : คืนหนึ่งท้าวมหาราชทั้ง ๔  คือ ๑. ธตรัฐ  หัวหน้าคนธรรพ์  ผู้ทรองทิศบูรพา ๒. วิรุฬหก  หัวหน้ากุมภัณฑ์  ผู้ครองทิศทักษิณ  ๓.วิรูปักข์  หัวหน้านาค  ผู้ครองทิศปัจฉิม  ๔. กุเวรหรือเวสสวัณ  หัวหน้ายักษ์  ผู้ครองทิศอุดร  มาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าที่เขาคิชฌกูฏ ท้าวกุเวร (เวสสวัณ) หัวหน้ายักษ์ ผู้ครองทิศอุดร กราบทูลพระพุทธเจ้าว่า พวกยักษ์บางคนไม่เลื่อมใสในพระรัตนตรัย อาจทำอันตรายแก่พระภิกษุที่บำพ็ญสมณธรรม ขอให้พระพุทธองค์เรียนมนต์ชื่อว่า  อาฏานาฏิยรักขา  แล้วให้ภิกษุ  ภิกษุณี  อุบาสก  อุบาสิกาทั้งหลาย  สาวกของพระองค์สวดประจำเพื่อคุ้มครองรักษา เพื่อความสวัสดีของภิกษุ  ภิกษุณี  อุบาสก  อุบาสิกา มิให้ถูกพวกยักษ์เบียดเบียน

 

เนื้อหามนต์นี้ กล่าวนมัสการอดีตพุทธะทั้งหลาย มีพระวิปัสสีพุทธเจ้า จนถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน จากนั้นก็บรรยายถึงท้าวมหาราชทั้ง 4 มีใครบ้าง องค์ไหนปกครองใคร อารักขาประจำทิศใด และท้ายสุดก็สรุปพระคุณของพระรัตนตรัยว่า หารัตนะใดเสมอเหมือนมิได้และเป็นโอสถรักษา (ใจ) ได้อย่างวิเศษ 

 

๘. วัฏฏกปริตร            ทำให้ปลอดภัยจากอัคคีภัย  ถือเป็นมนต์ป้องกันอัคคีภัยค่ะ นิยมให้พระสวดในงานขึ้นบ้านใหม่ เปิดสถานที่ทำงานใหม่ เปิดโรงงานใหม่ เปิดร้านใหม่ค่ะ

ที่มา : พระพุทธเจ้าทรงเล่าถึง ในอดีตสมัยเมื่อพระองค์ทรงเสวยพระชาติเป็นพญานกคุ้มโพธิสัตว์ ครั้นเมื่อออกจากฟองไข่ ก็ได้อาศัยอยู่ในป่าแคว้นมคธ วันหนึ่งพ่อและแม่พญานกคุ้ม พากันออกไปหาอาหาร ปล่อยให้ลูกนกคุ้มอยู่ในรังตามลำพัง ขณะนั้นได้บังเกิดไฟป่า ปรากฏขึ้นมาจากทิศทั้ง ๔ รอบรังของลูกนกคุ้ม อยู่ห่างจากรัง ๑๖ กรีส หรือหนึ่งกิโลครึ่ง ขณะนั้นลูกนกคุ้ม ได้รู้ตัวว่าตนตกอยู่ในวงรอบของไฟป่า จึงเหลียวหาบิดามารดา ก็ไม่เห็นลูกนกคุ้มจึงคิดว่า โดยปกติธรรมดาสัตว์ เมื่อตัวลูกมีภัย ก็ต้องอาศัยพึ่งพิงพ่อแม่ แต่บัดนี้พ่อแม่เรามิได้อยู่เสียแล้ว เราคงจะต้องพึ่งพิงอิงอาศัยตัวเอง ลูกนกคุ้มนั้นจึงตั้งสัจจะวาจาว่า “คุณของศีลมีอยู่ คุณของธรรมมีอยู่ คุณของสัจจะวาจานี้ก็มีอยู่จริง ปีกทั้งสองข้างเรามีอยู่ แต่ยังบินไม่ได้  เท้าเราทั้งสองข้างมีอยู่ แต่ยังเดินไม่ได้ บิดามารดาทั้งสองเรามีอยู่ แต่บัดนี้มิได้อยู่กับเรา นี้เป็นสัจจะวาจาของเรา ไฟป่าที่ไม่มีชีวิตเอ๋ย ด้วยเดชแห่งสัจจะวาจานี้ ขอไฟป่าจงดับไป”

ครั้นเมื่อสิ้นสัจจะอธิษฐานของลูกนกคุ้ม ไฟป่าที่ไหม้มาทั้ง ๔ ทิศ ก็ดับลงโดยพลัน ดุจดังบุคคลถือคบเพลิงที่มีเพลิงลุก แล้วจุ่มลงในน้ำฉะนั้น ไฟนั้นก็พลันดับไปในทันที

องค์สมเด็จพระชินศรี จึงทรงตรัสแก่ภิกษุทั้งหลายว่า แต่บัดนั้นจวบจนถึงกาลนี้ ไฟป่าก็มิอาจเผาไหม้เข้ามาถึงเขตนี้ได้อีกเลย ซึ่งมีอาณาเขตโดยรอบ ๑๖ กรีส โดยประมาณ ๑ กิโลครึ่ง นี้แหละภิกษุทั้งหลาย เป็นอานุภาพของพระโพธิสัตว์ที่มีอยู่ในตัวนกคุ้ม ผู้บำเพ็ญบารมี จนได้มาเป็นเราตถาคตในปัจจุบัน

 

๙. โพชฌังคปริตร        ทำให้มีสุขภาพดี อายุยืนและพ้นจากอุปสรรคทั้งปวง  บทนี้ช่วยรักษาโรคให้หายค่ะ เอาไว้สวดก่อนดื่มน้ำพระปริตรนะคะ หลวงพ่ออารยะวังโสท่านแนะนำมาค่ะ

 

ที่มา : พระพุทธเจ้าทอดพระเนตรพระโมคคัลลานะและพระกัสสปะเป็นไข้ถึงทุกเวทนาแล้ว ทรงแสดงโพชฌงค์ ๗ ประการท่านทั้ง ๒ ก็เพลิดเพลินภาษิตนั้น  หายโรคในขณะนั้น  ด้วยกล่าวความสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่านทุกเมื่อ

ครั้งหนึ่ง  พระพุทธเจ้า  ทรงประชวร  จึงรับสั่งให้พระจุนทเถระ  แสดงโพชฌงค์นั้น ก็ทรงบันเทิงพระหฤทัย  หายความประชวรไป  ด้วยกล่าวความสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่านทุกเมื่อ

 

๑๐. อังคุลิมาลปริตร     ทำให้คลอดบุตรง่าย  และป้องกันอุปสรรคอันตรายต่างๆ  ใครกำลังตั้งท้อง หัดสวดไว้นะคะ จะได้คลอดง่ายๆ ปลอดภัยทั้งแม่และลูก

 

ที่มา : พระอังคุลิมาล เดินมาเจอหญิงท้องแก่ใกล้คลอดลูก ท่านจึงช่วยสงเคราะห์โดยการกล่าวว่า “ดูกรน้องหญิงจำเดิมแต่อาตมาเกิดโดยอริยชาติแล้ว มิได้รู้สึกจงใจปลงชีวิตสัตว์เลย ด้วยสัจจะนั้น  ขอความสวัสดีจงมีแก่เจ้า ขอความสวัสดีจงมีแก่ลูกในครรภ์ของเจ้าเถิด” หญิงนั้นก็คลอดลูกออกมาได้ง่าย และปลอดภัยทั้งแม่และลูก

 

๑๑. อภยปริตร             ทำให้พ้นจากภัยพิบัติอันตรายต่างๆ  เคราะห์ร้าย แก้นิมิตฝันไม่ดี สังหรณ์ใจไม่ดี หลวงพ่อพระอารยะวังโส  แนะนำให้สวดทุกวันค่ะ สวดง่ายนะคะ สั้นๆ จำง่ายค่ะ

 

ที่มา : อภยปริตร แปลว่าปริตรที่โบราณจารย์แต่งขึ้น โดยอ้างคุณพระรัตนตรัยคุ้มครอง เมื่อเกิดลางร้าย อวมงคล เสียงนกที่น่ากลัวและบาปเคราะห์ตลอดจนฝันร้ายใด ขอให้สิ่งนั้นๆพินาศไป ด้วยอานุภาพของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

 

๑๒. ชยปริตร                  ทำให้ประสบความสำเร็จ  มีชัยชนะ และมีความสุขสวัสดี หลวงพ่อจรัญ ท่านแนะนำให้สวดทุกวันค่ะ ใครจะแข่งขันอะไร ก็ลองสวดบทนี้ดูนะคะ จะนำชัยชนะมาให้

 

ที่มา : บทนี้ กล่าวถึงชัยชนะ ๘ ประการ อันเป็นมงคลของพระพุทธเจ้า คือ ๑. ชนะพญามาร ด้วยทรงระลึกถึงพระบารมี ๑๐ ประการที่ทรงบำเพ็ญมาแล้ว  ๒. ชนะอาฬวกยักษ์ ทรงใช้ขันติบารมี  ๓. ชนะพญาช้าง “นาฬาคิรี”  ทรงใช้เมตตาบารมี   ๔. ชนะโจรอังคุลิมาล  ทรงบันดาลอิทธฤทธิ์ทางใจ ๕. ชนะคำกล่าวร้ายของนางจิญจมาณวิกา  ทรงสงบระงับพระหฤทัยในท่ามกลางหมู่ชน  ๖. ชนะสัจจกนิครนถ์  ด้วยเทศนาญาณ  คือ รู้อัชฌาสัยแล้วตรัสเทศนาให้มองเห็นความจริง๗. ชนะพญานาคราช “นันโทปนันทะ” ด้วยวิธีให้ฤทธิ์ที่เหนือกว่าแก่พระเถระ  และ ๘. ชนะพกาพรหม  ด้วยเทศนาญาณ

นรชนใด  มีปัญญา  ไม่เกียจคร้าน  สวดก็ดี  ระลึกก็ดี  ซึ่งพระพุทธชัยมงคล ๘ บทนี้ทุกๆวัน  นรชนนั้นจะพึงละเสียได้  ซึ่งอุปัทวันตรายทั้งหลาย มีประการต่างๆเป็นอเนก  และถึงซึ่งความหลุดพ้น  อันเป็นบรมสุขแล.

 

รู้ประโยชน์ของพระปริตต์แล้วก็พยายาม  ขยัน  ตั้งใจ  สวดกันทุกวันนะคะ

 

บุญรักษา  ธรรมคุ้มครองค่ะ