ชื่องานวิจัย: ศึกษาปัญหาการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดจันทบุรี
ผู้วิจัย: นางบุปผา สุขภาคกิจ
ปีที่วิจัย: 2542
วัตถุประสงค์ในการวิจัย:
1. เพื่อศึกษาระดับปัญหาการจัดการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดจันทบุรี จำแนกตามขนาดโรงเรียนและประสบการณ์การบริหารงานของผู้บริหารโรงเรียน
2. เพื่อเปรียบเทียบปัญหาการจัดการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดจันทบุรี จำแนกตามขนาดโรงเรียนและประสบการณ์การบริหารงานของผู้บริหารโรงเรียน
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง:
ประชากร: ได้แก่ผู้บริหารโรงเรียนระดับประถมศึกษาที่จัดการเรียนการสอนในระดับก่อนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดจันทบุรี จำนวน 220 คน
กลุ่มตัวอย่าง: ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified random sampling) ตามขนาดโรงเรียน โดยใช้ตารางของเครจซี่ และมอร์แกน (Krejcie and Morgan, 1970, p. 608) ซึ่งได้กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้บริหารโรงเรียนจำนวน 105 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย: เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ แบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเอง โดยแบ่งเป็น 2 ตอน
ตอนที่ 1 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับขนาดของโรงเรียน ชนิดสำรวจรายการ (check list) และแบบกรอกของรายการเกี่ยวกับประสบการณ์ในการบริหารงานของผู้บริหารโรงเรียน
ตอนที่ 2 เป็นแบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ (rating scale) เกี่ยวกับปัญหาการจัดการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา
การเก็บรวบรวมข้อมูล:
1. ผู้วิจัยได้ขอหนังสือจากบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยบูรพา ถึงผู้อำนวยการการประถมศึกษาจังหวัดจันทบุรี เพื่อขอประสานงานและขอความร่วมมือในการเก็บข้อมูลจากสถานศึกษาในสังกัด
2. ผู้วิจัยและผู้ช่วยผู้วิจัยประสานงานขอความร่วมมือ จากผู้บริหารสถานศึกษาเข้าไปแจกแบบสอบถาม
3. ผู้ช่วยผู้วิจัยเก็บแบบสอบถามคืนภายใน 14 วัน นับจากวันที่ส่งแจกแบบสอบถาม แบบสอบถามที่ไม่ได้รับคืนผู้วิจัยได้เดินทางไปรวบรวมแบบสอบถามคืนด้วยตนเอง
4. จากจำนวนแบบสอบถามที่ส่งไป จำนวน 105 ฉบับ ได้รับคืนมาจำนวน 105 ฉบับ คิดเป็นร้อยละร้อย และนำแบบสอบถามทั้ง 105 ฉบับ มาวิเคราะห์ข้อมูล
สถิติที่ใช้ในการวิจัย:
1. ค่าเฉลี่ย, ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
2. One – way ANOVA
3. t – test
การวิเคราะห์ข้อมูล:
1. การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาระดับของปัญหาว่าอยู่ในระดับใด สถิติที่ใช้วิเคราะห์ คือ การหาค่าเฉลี่ย และความเบี่ยงเบนมาตรฐาน
2. การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของปัญหาการจัดการศึกษา ระดับก่อนประถมศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดจันทบุรีตามขนาดโรงเรียน สถิติที่ใช้ คือ One – way ANOVA
3. การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของปัญหาการจัดการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดจันทบุรี ตามประสบการณ์การบริหารงานของผู้บริหารโรงเรียน ทดสอบค่า ที (t – test)
สรุปผลการวิจัย: จากการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาการจัดการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดจันทบุรี ในการศึกษาค้นคว้าครั้วนี้ สรุปสาระสำคัญของผลการค้นคว้า ดังนี้
1. ปัญหาการจัดการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดจันทบุรี ผลการวิเคราะห์พบว่า
1.1 ปัญหาการบริหารโรงเรียนที่จัดการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษาโดยรวมอยู่ในระดับน้อย และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านก็พบว่า ส่วนใหญ่มักมีปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง ด้านที่มีปัญหาสูงสุด คือ ด้านงานอาคารสถานที่ และด้านที่มีปัญหาต่ำสุด คือ ด้านงานกิจการนักเรียน
1.2 ปัญหาด้านงานวิชาการจำแนกตามขนาดโรงเรียน โรงเรียนที่มีขนาดใหญ่และขนาดกลางมีปัญหาโดยรวมอยู่ในระดับน้อย ส่วนโรงเรียนขนาดเล็กมีปัญหาในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านตามขนาดโรงเรียน โรงเรียนขนาดใหญ่มีปัญหาในระดับน้อย และระดับปานกลาง โรงเรียนขนาดกลางมีปัญหาส่วนใหญ่อยู่ในระดับน้อย โรงเรียนขนาดเล็กมีปัญหาส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง นอกจากด้านงานกิจการนักเรียนมีปัญหาในระดับน้อย
1.3 ปัญหาในการจัดการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษาตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนจำแนกตามประสบการณ์การบริหารงานทั้งประสบการณ์น้อยและประสบการณ์มาก ปัญหาโดยรวมของผู้บริหารที่มีประสบการณ์น้อยอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนผู้บริหารที่มีประสบการณ์มากมีปัญหาโดยส่วนรวมอยู่ในระดับน้อย เมื่อพิจารณาตามกลุ่มผู้มีประสบการณ์น้อยเป็นรายด้านพบว่า ส่วนใหญ่มีปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนด้านงานกิจการนักเรียน ด้านงานความสัมพันธ์โรงเรียนกับชุมชน มีปัญหาในระดับน้อย และเมื่อพิจารณากลุ่มผู้มีประสบการณ์มากเป็นรายด้านพบว่า มีปัญหาส่วนใหญ่อยู่ในระดับน้อย นอกจากด้านงานอาคารสถานที่และด้านงานความสัมพันธ์โรงเรียนกับชุมชนมีปัญหาในระดับปานกลาง
1.4 ด้านงานวิชาการโดยรวมมีปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า มีปัญหาอยู่ในระดับน้อย 7 ข้อ และมีปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง 6 ข้อ ส่วนปัญหาสูงสุดในด้านนี้ คือ การจัดทำสื่อการเรียนการสอนระดับก่อนประถมศึกษายังไม่เพียงพอ และปัญหาต่ำสุดในด้านนี้ คือ โรงเรียนไม่รายงานผลความก้าวหน้าของเด็กระดับก่อนประถมศึกษาให้ผู้ปกครองทราบ
1.5 ด้านงานบุคลากรมีปัญหาโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ส่วนใหญ่มีปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนปัญหาสูงสุดในด้านนี้ คือ ครูผู้สอนไม่มีวุฒิด้านการสอนนัดเรียนระดับก่อนประถมศึกษาโดยตรง ปัญหาต่ำสุดในด้านนี้ คือ ครูผู้สอนไม่มีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน
1.6 ด้านกิจการนักเรียนโดยรวมมีปัญหาอยู่ในระดับน้อย และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ส่วนใหญ่มีปัญหาอยู่ในระดับน้อยเช่นกัน นอกจากการจัดอาหารเสริม (นม) ให้กับเด็กชั้นก่อนประถมศึกษายังไม่ครบทุกคนทุกวัน ส่วนปัญหาสูงสุดในด้านนี้ คือ คุณภาพของอาหารกลางวันที่จัดให้กับเด็กยังไม่ครบตามหลักโภชนาการ ปัญหาต่ำสุดในด้านนี้ คือ การจัดอาหารเสริม (นม) ให้กับเด็กชั้นก่อนประถมศึกษายังไม่ครบทุกคนทุกวัน
1.7 ด้านงานธุรการและการเงินโดยรวมอยู่ในระดับน้อย และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ส่วนใหญ่มีปัญหาอยู่ในระดับน้อยเช่นเดียวกัน นอกจากงบประมาณสนับสนุนด้านอาหารกลางวันและอาหารเสริม (นม) ไม่เพียงพอและปริมาณเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นในการปฏิบัติงานธุรการและการเงิน ปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนปัญหาสูงสุดในด้านนี้ คือ งบประมาณสนับสนุนด้านอาหารกลางวันและอาหารเสริม (นม) ไม่เพียงพอ ปัญหาต่ำสุดในด้านนี้ คือ ครูผู้สอนไม่มีความรู้ความเข้าใจในด้านงานธุรการในชั้นก่อนประถมศึกษา
1.8 ด้านงานอาคารสถานที่โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ส่วนใหญ่มีปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนปัญหาสูงสุดในด้านนี้ คือ โรงเรียนไม่มีห้องประกอบที่ถูกสุขลักษณะและเหมาะสมกับเด็ก ปัญหาต่ำสุดในด้านนี้ คือ นักเรียนอยู่ชั้นบนไม่เหมาะกับเด็กระดับก่อนประถมศึกษา
1.9 ด้านงานความสัมพันธ์กับชุมชนโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ข้อที่มีปัญหาสูงสุดในด้านนี้ คือ โรงเรียนไม่สามารถจัดบุคลากรออกไปเยี่ยมเยียนถึงบ้านผู้ปกครองเด็กระดับก่อนประถมศึกษา ข้อที่มีปัญหาต่ำสุดในด้านนี้ คือ โรงเรียนประชาสัมพันธ์เรื่องการจัดการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาให้กับชุมชนทราบน้อยมาก
2. ผลการเปรียบเทียบปัญหาการจัดการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดจันทบุรี จำแนกตามขนาดโรงเรียนพบว่า ปัญหาในการจัดการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาจำแนกตามขนาดโรงเรียนโดยภาพรวมและรายด้านแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
3. ผลการเปรียบเทียบปัญหาการจัดการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดจันทบุรี จำแนกตามประสบการณ์การบริหารของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษาที่จัดการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา จำแนกตามประสบการณ์โดยภาพรวมและรายด้านแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
เข้ามาเยี่ยมชมผลงานครับ
ขอมาดูเพื่อเรียนรู้ด้วยครับ..
คำว่า "แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ" หากใช้ภาษาที่ทุกคนสามารถเข้าใจได้ จะหมายถึงอะไรครับ