ครูบนเส้นทางเเห่งการภาวนา


“เวลาช่วยใคร ให้ทำอย่างเต็มที่ ไม่ต้องรอ เราพอพยุงตัวได้ ช่วยใครได้ก็ช่วยไปเลย ไม่ใช่ว่าช่วยเพราะเราเก่ง แต่เราช่วยเขา เพราะเรารู้สึก เห็นอกเห็นใจ เชื่อพี่ไหม พี่บอกว่าใครควรช่วยเราก็ทำไปเลย ให้รักผู้อื่นเสมอกับรักตนเอง ไม่ว่าเขาจะรู้หรือไม่รู้เราก็ต้องช่วย ใครเห็น ใครไม่เห็นก็ต้องช่วย ไม่ว่าเขาจะทิ้งเราหรือไม่ทิ้งเราก็ตาม แต่เราต้องไม่ทอดทิ้งเขาไปจากใจ”

ตั้งแต่หนูเริ่มที่จะภาวนา จะว่าไปแล้วครูท่านสอนหนูภาวนาตั้งแต่ หนูรู้จักท่านครั้งแรก ตั้งแต่หนูไม่รู้จักคำว่าภาวนาเสียด้วยซ้ำค่ะ

          จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายที่ใจของหนู ชีวิตทั้งชีวิตของหนูก็เปลี่ยนไป ที่ผ่านมาเหมือนครูท่านอยู่เคียงข้างหนูตลอดมา เวลาไปไหนมาไหน เดินทางไปเที่ยว ไปช๊อปปิ้ง ไปดูหนัง ไปทานนม ไปวัด ไปออกกำลังกาย ไปกินข้าว หนูก็ไปกับครูตลอด ท่านสอนสั่งหนูตลอดเวลา ไม่จำกัดสถานที่ เมื่อไหร่ที่ท่านเห็นว่า หนูพอจะรับคำสอนของท่านได้ ครูไม่รอช้า ลงดาบโชะ บางครั้งที่ท่านลงดาบ หนูก็เป๋ ๆ ๆ ๆ เดี้ยงกลับบ้านไปนอนร้องไห้เสียหลายวัน พอเริ่มจะดีขึ้นหนูก็วิ่งแร่ ๆ มาหาครูท่านอีก ทั้ง ๆที่ใจก็ยังโกรธ ๆ อยู่ แต่ไม่รู้ยังไง ตัววิ่งแร่ ๆ มาหาท่าน ถึงจังหวะท่านก็สอนโชะอีก ไอ้หนูก็เป๋ ๆ ๆ อึ้ง ๆ โกรธ กลับไปเลียบแผลสักพัก กลับมาอีก วน ๆ แบบนี้หลายต่อหลายครั้ง  พอหนูมาหาท่านบ่อยขึ้นครูท่านก็พึมพำว่า

 “นี่มันอะไรกันวะ มันมากับฉันได้ยังไงวะ”

          ครูท่านไม่เคยทำให้หนูรู้สึกอ้างว้าง เมื่อไหร่ที่ไม่เจอตัวท่าน ก็จะได้ยินเสียงทางโทรศัพย์ ท่านพร่ำสอน ด้วยหัวจิตหัวใจแห่งความเป็นครู ที่ปรารถนาให้ศิษย์ได้มีจิตใจที่เจริญขึ้น บางครั้งครูท่านโทรมาสอนหนูเป็นชั่วโมง ๆ ธรรมะล้วน ๆ ค่ะ แต่อย่างที่บอก จิตใจหนูไม่สะอาดบริสุทธิ์พอที่จะรองรับธรรมะอันบริสุทธิ์ได้ทั้งหมด แต่ครูท่านก็ไม่เคยย่อท้อ คอยพูดคอยสอนอยู่เช่นนั้นไม่เคยหยุด คำบางคำท่านพูดบ่อย จนท่านเองพูดกับหนูว่า

 “ฉันขี้เกียจพูดแล้วนะติ๋ว เมื่อไหร่แกจะภาวนา หายใจหน่ะ หายใจเป็นไหม ฉันเบื่อเหมือนกันนะ พูดแต่คำเดิม ๆ มั๊นไม่ทำสักที”

หนูฟังแล้วก็จ๋อย ๆ กลั้นหายใจด้วยค่ะ ท่านอดทนมาก ๆ เหมือนท่านจ้างหนูเรียนจริง ๆค่ะ ตอนนี้หนูเองพอจะเป็นผลผลิตที่พอจะเป็นมือเป็นเท้าให้ท่านได้บ้าง ครูบอกว่า

“เวลาช่วยใคร ให้ทำอย่างเต็มที่ ไม่ต้องรอ เราพอพยุงตัวได้ ช่วยใครได้ก็ช่วยไปเลย ไม่ใช่ว่าช่วยเพราะเราเก่ง แต่เราช่วยเขา เพราะเรารู้สึก เห็นอกเห็นใจ เชื่อพี่ไหม พี่บอกว่าใครควรช่วยเราก็ทำไปเลย ให้รักผู้อื่นเสมอกับรักตนเอง ไม่ว่าเขาจะรู้หรือไม่รู้เราก็ต้องช่วย ใครเห็น ใครไม่เห็นก็ต้องช่วย ไม่ว่าเขาจะทิ้งเราหรือไม่ทิ้งเราก็ตาม แต่เราต้องไม่ทอดทิ้งเขาไปจากใจ”

 

 

          สิ่งที่ครูสอนในวันนี้ ไม่ใช่เพียงคำพูดเพราะที่ท่านเอ่ยมาทั้งหมดคือ สิ่งที่ท่านได้ปฏิบัติต่อหนูมาตลอดอย่างไม่ย่อท้อและอดทน วันนี้ครูเมตตาให้โอกาสหนูได้ฝึกฝนตนเองอย่างเต็มที่ บางทีหนูเองก็ไม่รู้หรอกค่ะว่าแท้ที่จริงครูท่านทำอะไรกันหนูบ้าง หรือท่านใส่รหัสอะไรเข้ามาในใจนี้บ้าง หนูก็เรียนรู้แบบเอ๋อ ๆ สะเปะ สะปะของหนูไป หลายครั้งหลายครา ครูท่านสอนแบบไม่สอน เอาตัวท่านเองนี่แหละลุยทำให้ดู ทำให้เห็นจะ ๆ เจ็บก็ เจ็บจะ ๆ ได้ผลก็ได้ผลจะ ๆ ครูท่านบอกว่า ชีวิตนี้มันไม่มีอะไร มันแค่เรื่องสมมุติ ให้เรามาเรียนรู้

          เห็นไหมค่ะ ครูท่านไม่เคยทำให้หนูเดียวดาย เมื่อก่อนยอมรับค่ะ ว่ายึดที่ตัวของครู แต่ตอนนี้ ใจหนูต่างไป มันถูกเปลี่ยนมายึดที่คำสอนของครู เชื่อมั่นในคำสอนที่ท่านเมตตาอบรมบ่มนิสัยให้ ต่อไปก็เพียงอดทนเรียนรู้ อดทนเดินทางตามวิถีที่ศรัทธาและมุ่งมั่น กราบขอบพระคุณครูค่ะ สังฆะช่วยให้หนูพยุงตนเองมาจนถึงนะที่ตรงนี้ได้ และมีความเชื่อมั่นจะเดินบนเส้นทางแห่งนี้ต่อไป

หมายเลขบันทึก: 320357เขียนเมื่อ 15 ธันวาคม 2009 07:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท