เครือข่าย UKM จะประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๔๘ ในวันที่ ๒ - ๓ กย. ๔๘ นี้
ผมถามหา "ขุมความรู้" ที่ได้จากการประชุมครั้งก่อนจากคุณธวัช ต้องตามกันอยู่นาน จึงได้มาจาก มน. ผมจึงเอามาลงไว้
สิ่งที่ผมกังวลมี ๒ เรื่อง
๑. ไม่มีการนำ "ขุมความรู้" ที่ได้ มาใช้อย่างต่อเนื่อง ก็จะกลายเป็นเครือข่าย KM ปลอม ไม่มีการ re-use ความรู้ แล้วยกระดับความรู้ แล้ว re-use อีก เป็นวงจรไม่รู้จบ
๒. ไม่มีการ ลปรร. แบบ B2B คือหวังแต่ ลปรร. ใน F2F ซึ่งจัด ๓ เดีอนครั้ง ก็จะเป็น KM ปลอมอีกเช่นกัน
รายงานสรุปกิจกรรมจัดการความรู้
วันที่ 24 มิถุนายน 2548
เป้าหมายของการเสวนา (Knowledge vision) คือ การบริหารงานวิจัยอย่างไร ให้ได้รับผลสำเร็จ
ขุมความรู้ที่ได้จากเรื่องเล่า |
แก่นความรู้ที่ได้ |
· มีการสร้างความตระหนักให้นักวิจัย
· ส่งเสริมการทำงานวิจัยที่ตรงกับความสนใจและความถนัดของนักวิจัย และสนับสนุนตามศักยภาพ |
1. นโยบายและทิศทางการวิจัย |
· มีฐานข้อมูลเพื่อการวิจัย (ข้อมูลวิจัย , นักวิจัย , ผลงานวิจัย) · รวบรวมข้อมูลสารสนเทศเพื่อเผยแพร่ให้ผู้เกี่ยวข้องทราบ · มีระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ที่เอื้อต่อการทำวิจัย |
2. ระบบฐานข้อมูลเพื่อการวิจัย |
· มีการบริหารจัดการด้านการเงินที่คล่องตัว · มีกองทุนวิจัย · มีระบบการบริหารจัดการทุนวิจัย · มีทุนวิจัยจากเงินรายได้คณะเพื่อสนับสนุนนักวิจัยรุ่นใหม่และรุ่นกลาง · มีทุนสนับสนุนงานวิจัยขั้นพื้นฐาน · มีการเปิดรับทุนวิจัยปีละ 2 ครั้ง · มีเงินรางวัลแก่นักวิจัยที่ได้รางวัล หรือเงิน Top-up |
3. ระบบสนับสนุนด้านการเงิน |
ขุมความรู้ที่ได้จากเรื่องเล่า |
แก่นความรู้ที่ได้ |
· มีสถานที่อำนวยความสะดวก และมีบรรยากาศที่เอื้อต่อการทำงานวิจัย · มีครุภัณฑ์การวิจัยที่ครบถ้วน · มีการบริหารจัดการเครื่องมือที่ดี และมีระบบการสนับสนุน / ซ่อมบำรุงที่ดี (มีการรับประกันเครื่องมือ) · ดึง Expertise เฉพาะทาง (บางสาขา) เช่น นัก IT มาช่วยงาน (Out come) · สร้างหลักสูตรกลางเพื่อลดงานสอนแก่นักวิจัย · มีการประชาสัมพันธ์ให้นักวิจัยได้เตรียมตัว · เชิญหน่วยงานที่ให้ทุนวิจัยมาบรรยายแก่นิสิต อาจารย์ บุคลากรที่เกี่ยวข้อง · เจรจาส่วนแบ่งทางการตลาดมาใช้บริหารงานวิจัย |
4. ระบบสนับสนุนงานวิจัย |
· การให้นักวิจัยได้สัมผัสกับปัญหาชุมชุนเพื่อสร้างโจทย์วิจัยในการแก้ปัญหาหรือตอบปัญหาสังคมได้ หรือวิจัยจากปัญหาที่เกิดจากการปฏิบัติงาน · ทำความเข้าใจกับชุมชนให้ชุมชนเห็นความสำคัญ · Impact ชัดเจน · วิเคราะห์บริบทของคนไทยเพื่อเป็นจุดเริ่มการวิจัย · เริ่มทำวิจัยให้สอดคล้องกับความสนใจ +ตลาด+แหล่งทุน |
5. การสร้างโจทย์วิจัย |
· มีการสร้างและพัฒนาความร่วมมือด้านการวิจัยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายใน/ภายนอกมหาวิทยาลัย · มีการทำวิจัยที่เชื่อมโยงกันระหว่างอาจารย์+นักศึกษา+แหล่งทุน+แหล่งงาน · มีการบริหารชุดโครงการภายในศูนย์วิจัยเฉพาะทาง · มีการส่งเสริมสนับสนุนงานวิจัยสหสาขา และมีการบูรณาการโครงการวิจัยหลาย ๆ ศาสตร์เข้าด้วยกัน (Project Matching) รวมถึงมีการพัฒนาชุดโครงการวิจัย · มีระบบช่วยเหลือนักวิจัยให้สามารถเข้ากลุ่มทำโครงการวิจัย · จัดกลุ่มของเรื่อง และรวมกลุ่มผู้สนใจตามหัวเรื่อง · มีระบบ “เลขานุการ” ให้กับงานวิจัยเชิงสหสาขา · ผลักดันให้นักวิจัยแสวงหาแหล่งทุนจากภายนอก |
6. การสร้างทีมวิจัย/เครือข่าย/ชุมชน |
ขุมความรู้ที่ได้จากเรื่องเล่า |
แก่นความรู้ที่ได้ |
· กระจายหน้าที่ตรวจสอบ proposal ของโครงการวิจัย ให้กับหน่วยงานภายใน และภายนอก เช่น คณะกรรมการของคณะ คณะกรรมการวิจัยในมนุษย์ , คณะกรรมการสัตว์ทดลอง ฯลฯก่อนการวิจัย · กระจายหน้าที่ติดตามความก้าวหน้าของโครงการวิจัยเป็นระยะๆ แก่หน่วยงานภายใน ระหว่างการวิจัย · รวบรวมและเผยแพร่ผลงานวิจัยที่เสร็จสมบูรณ์ จำแนกให้เป็นสถิติ ตามหน่วยงาน เพื่อกระตุ้น ให้เกิดการแข่งขัน หลังการวิจัย · มีระบบการติดตามและประเมินผลโครงการที่ชัดเจน · มีการกำหนด KPI ด้านการวิจัย และด้านผลงานวิจัยให้ชัดเจน |
7. ระบบการควบคุมคุณภาพ |
· พัฒนาศักยภาพของบุคลากรสายสนับสนุน (สาย ข., ค.) ให้สามารถทำงานในเชิงรุก · มีระบบรองรับอาจารย์ที่เพิ่งจบการศึกษา ให้มีการทำวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง · ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำวิจัยตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการนำผลการวิจัยไปใช้ · มีพี่เลี้ยงนักวิจัย (Mentor) และระบบพี่เลี้ยงกลุ่มวิจัย · อบรมการเขียน Proposal · เริ่มจากการลงมือปฏิบัติ |
8. การพัฒนาคุณสมบัตินักวิจัย |
· มีการบูรณาการการเรียนการสอนกับการวิจัยเข้าด้วยกัน · นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาได้ร่วมงานวิจัย · มีนิสิตช่วยงานวิจัย ทั้งนิสิตใหม่และเก่า และมีการพัฒนาทักษะของนิสิต · มีทุนการศึกษานิสิตระดับบัณฑิตศึกษา |
9. ระบบบัณฑิตศึกษากับงานวิจัย |
· จัดทำวารสารระดับคณะ · มีเงินสนับสนุนการเผยแพร่ผลงานวิจัย · มีการให้ทุนสนับสนุนโดยมีเงื่อนไข “ตีพิมพ์” (อาจารย์/บัณฑิตทุกระดับ) · มีหน่วยงานที่สนับสนุน /ให้คำปรึกษาแก่นักวิจัย (การตีพิมพ์เผยแพร่ ทรัพย์สินทางปัญญา กฎหมาย ฯลฯ) |
10. ระบบการเผยแพร่งานวิจัย |
วิเคราะห์ ธารปัญญา และ บันไดแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
WS 4 : 9.00 น. – 9.30 น.ย้ำอีกทีนะครับว่า ข้อสรุปข้างบน สคส. ได้มาจาก มน.
วิจารณ์ พานิช
เรียน ท่านผู้อ่านขุมความรู้ทุกท่าน
เนื่องจากตัวอักษรอาจทำให้อ่านยาก เพื่อความสะดวกในการอ่านสำหรับทุกท่านที่สนใจ สามารถเข้าไปอ่านบันทึกของอาจารย์มาลินี ที่ได้บันทึกขุมความรู้ UKM 2/2548 ในเรื่อง "การบริหารงานวิจัย" เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2548 ตาม link ด้านล่างนี้ได้นะคะ
http://gotoknow.org/archive/2005/07/19/07/41/30/e1374
ขอบคุณค่ะ
เรียน ท่านผู้อ่านขุมความรู้ทุกท่าน
เนื่องจากตัวอักษรอาจทำให้อ่านยาก เพื่อความสะดวกในการอ่านสำหรับทุกท่านที่สนใจ สามารถเข้าไปอ่านบันทึกของอาจารย์มาลินี ที่ได้บันทึกขุมความรู้ UKM 2/2548 ในเรื่อง "การบริหารงานวิจัย" เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2548 ตาม link ด้านล่างนี้ได้นะคะ
http://gotoknow.org/archive/2005/07/19/07/41/30/e1374
ขอบคุณค่ะ
เรียน ท่านผู้อ่านขุมความรู้ทุกท่าน
เนื่องจากตัวอักษรอาจทำให้อ่านยาก เพื่อความสะดวกในการอ่านสำหรับทุกท่านที่สนใจ สามารถเข้าไปอ่านบันทึกของอาจารย์มาลินี ที่ได้บันทึกขุมความรู้ UKM 2/2548 ในเรื่อง "การบริหารงานวิจัย" เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2548 ตาม link ด้านล่างนี้ได้นะคะ
http://gotoknow.org/archive/2005/07/19/07/41/30/e1374
ขอบคุณค่ะ