ความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมของนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
ผู้วิจัย : พรทิพย์ มั่งคั่ง
สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
มิถุนายน 2547
ความสำคัญของปัญหา
การพัฒนานิสิตนักศึกษาให้มีคุณภาพ มีความเป็นคนที่สมบูรณ์ทั้งทางสติปัญญา ทางกาย จิตใจ อารมณ์และสังคม ย่อมไม่อาจสำเร็จได้ด้วยการศึกษาในห้องเรียนตามหลักสูตรต่างๆ ที่สถาบันกำหนดให้เรียนแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ ที่มีส่วนสำคัญในการสร้างเสริมเติมเต็มให้กระบวนการจัดการศึกษาดังกล่าวประสบความสำเร็จตามที่มุ่งมาดปรารถนาได้ เช่น การจัดหลักสูตรการเรียนการสอน การบริหารงานของสถาบัน การจัดสภาพแวดล้อมของสถาบัน และงานกิจการนิสิตนักศึกษา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กิจกรรมนิสิตนักศึกษามีส่วนช่วยส่งเสริมให้นิสิต นักศึกษาเป็นบัณฑิตที่มีความสมบูรณ์มายิ่งขึ้น สุวพร ตั้งสมวรพงษ์ (2542, หน้า 76)
กิจกรรมนิสิตนักศึกษามีความสำคัญต่อการพัฒนานิสิตนักศึกษา แต่ก็ยังมีผู้บริหาร อาจารย์ และนิสิตนักศึกษาจำนวนมากที่ไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการทำกิจกรรมนักศึกษา และหากกิจกรรมไม่เป็นไปตามความต้องการหรือไม่น่าสนใจโอกาสที่นิสิตนักศึกษาจะเข้าร่วมจึงมีความเป็นไปได้น้อยมาก เนื่องจากสิ่งเร้าภายนอกมหาวิทยาลัยยังมีผลต่อนิสิตเพราะมหาวิทยาลัยบูรพาตั้งอยู่ในแหล่งชุมชนที่เป็นเมืองท่องเที่ยว มีความเจริญทางด้านอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินค้า และแหล่งทัศนียภาพสวยงาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจในการใช้เวลาว่างจากการเรียนสำหรับนิสิตมากกว่าที่จะเห็นความสำคัญของการเข้าร่วมกิจกรรมของมหาวิทยาลัย และถ้ากิจกรรมใดที่ไม่มีผลโดยตรงต่อตวนิสิตนักศึกษาก็จะไม่ได้รับความร่วมมือ
ความมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า
1. เพื่อศึกษาความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมของนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
2. เพื่อเปรียบเทียบความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมของนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จำแนกตามเพศและระดับชั้นปี
ความสำคัญของการศึกษาค้นคว้า
1. ผลการศึกษาวิจัยครั้งนี้จะเป็นข้อมูลสำหรับผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องในการจัดกิจกรรมคณะศึกษาศาสตร์ เพื่อนำไปเป็นแนวทางพิจารณาแก้ไขปรับปรุงและพัฒนาการปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้น
2. เพื่อเป็นแนวทางให้คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ใช้ในการวางแผน ปรับปรุง แก้ไข และพัฒนาการจัดกิจกรรมให้บรรลุสอดคล้องกับความต้องการและความสนใจของนิสิต นำไปสู่การส่งเสริมให้นิสิตเข้าร่วมกิจกรรมมากขึ้นต่อไป
คำถามในการวิจัย
1. ความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมของนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา อยู่ในระดับใด
2. ความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมของนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จำแนกตามเพศและระดับชั้นปีแตกต่างกันหรือไม่
สมมติฐานการศึกษาค้นคว้า
ความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมของนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จำแนกตามเพศและระดับชั้นปีแตกต่างกัน
วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
1. ประชากร ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นิสิตคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ภาคปกติ โดยแบ่งเป็น นิสิตชั้นปีที่ 1 ชั้นปีที่ 2 ชั้นปีที่ 3 และชั้นปีที่ 4 ที่กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ปีการศึกษา 2546 จำนวน 880 คน แบ่งเป็นเพศชาย 207 คน เพศหญิง 673 คน
2. กลุ่มตัวอย่าง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นิสิตคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ภาคปกติ โดยแบ่งออกเป็น นิสิตชั้นปีที่ 1 ชั้นปีที่ 2 ชั้นปีที่ 3 และชั้นปีที่ 4 ที่กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ปีการศึกษา 2546 จำนวน 272 ใช้การสุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling) ตามตัวแปรเพศและระดับชั้นปีและกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามตารางสำเร็จรูปของเครจซี่และมอร์แกน (Krejcie & Morgan,1970,p608)
เครื่องมือการวิจัย
แบบสอบถาม
วิธีสร้างเครื่องมือ
1. ศึกษาเอกสาร รายงานการวิจัย วิทยานิพนธ์ และปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้แนวทางเกี่ยวกับความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมของนิสิต
2. สร้างแบบสอบถามให้ครอบคลุมเนื้อหาเกี่ยวกับความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมของนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ภายใต้คำแนะนำของอาจารย์ที่ปรึกษา
3. นำแบบสอบถามที่สร้างขึ้นเสนอต่อประธานและกรรมการผู้ควบคุมงานนิพนธ์ตรวจแก้ไขเพื่อความถูกต้อง
4. นำแบบสอบถามที่ผ่านการแก้ไขปรับปรุงแล้ว เสนอผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาตรวจสอบความเที่ยงตรงและความถูกต้องตามเนื้อหา ( Content Validity)
5. นำแบบสอบถามมาปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะของผู้ทรงคุณวุฒิ และนำเสนอต่อประธานและกรรมการควบคุมงานนิพนธ์ เพื่อพิจารณาปรับปรุงแก้ไขเป็นขั้นสุดท้ายก่อนนำไปทดลองใช้
6. นำแบบสอบถาม ไปทดลองใช้ (Try Out) กับประชากรที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 30 คน แล้วนำมาหาอำนาจจำแนกรายข้อ (Discrimination) โดยใช้วิธีสหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Peason’ Product-Moment Correlation Coefficient) ระหว่างคะแนนรายข้อกับคะแนนรวม (Item Total Correlation) โดยใช้เกณฑ์การคัดเลือกข้อที่มีอำนาจจำแนกตั้งแต่ .20 ขึ้นไปได้ค่าอำนาจจำแนกของแบบสอบถามเป็นรายข้อระหว่าง .31-.79
7. นำแบบสอบถามมาหาความเชื่อมั่น โดยวิธีหาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟ่า (Alpha Coefficient) ของคอนบาค (Cronbach, 1990,pp.202-204) โดยได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .96 ซึ่งสามารถนำไปเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างได้
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
1. วิเคราะห์จำนวนของกลุ่มตัวอย่างของผู้ตอบแบบสอบถาม โดยการคำนวณค่าความถี่ร้อยละ
2. วิเคราะห์ความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมของนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา โดยใช้คะแนนเฉลี่ย และความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD)
3. เปรียบเทียบความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมของนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จำแนกตามเพศ โดยการทดสอบค่าที (t-Test)
4. เปรียบเทียบความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมของนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จำแนกตามระดับชั้นปี โดยการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) และทดสอบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีการทดสอบความแตกต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (Least-Significance Difference-LSD)
สรุปผลการวิจัย
ในการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมของนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา สรุปผลการวิจัยดังนี้
1. ความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมากทุกข้อ โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย คือ ด้านบำเพ็ญประโยชน์ ด้านวิชาการ ด้านกีฬา และด้านศิลปวัฒนธรรม
2. ความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมของนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จำแนกตามเพศ โดยรวมและรายด้านแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
3. ความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมของนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จำแนกตามระดับชั้นปี โดยรวมและด้านศิลปวัฒนธรรมและด้านวิชาการแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนด้านกีฬาและด้านบำเพ็ญประโยชน์ไม่แตกต่างกัน โดยพบว่า ความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมของนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา โดยรวมจำแนกตามระดับชั้นปีเป็นรายคู่ พบว่านิสิตชั้นปีที่ 2 มีความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมโดยรวมมากกว่านิสิตชั้นปีที่ 1 และชั้นปีที่ 3 ความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมของนิสิตคณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยบูรพา ด้านศิลปวัฒนธรรมจำแนกตามระดับชั้นปีเป็นรายคู่ พบว่า นิสิตชั้นปีที่ 2 มีความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมด้านศิลปวัฒนธรรมมากกว่านิสิตชั้นปีที่ 1 และ 3 ส่วนชั้นปีอื่นๆ มีไม่แตกต่างกัน และความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมของนิสิตคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ด้านวิชาการ จำแนกตามระดับชั้นปี เป็นรายคู่ พบว่า นิสิตชั้นปีที่ 2 มีความต้องการเข้าร่วมกิจกรรมด้านวิชาการมากกว่านิสิตชั้นปีที่ 3 ส่วนชั้นปีอื่นๆ ไม่แตกต่างกัน
เข้ามาเยี่ยมชมผลงานครับ
มาชื่นชมผลงานด้ายคน...เล่มที่เท่าไหร่แล้วครับ
เล่มที่ 4 เองค่ะ ตามไม่ทันเพื่อนๆ แล้วเนี่ย