ชื่อเรื่อง ปัญหาและแนวทางการพัฒนาการจัดระบบสารสนเทศในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกจังหวัดชลบุรี
ผู้วิจัย เรณู บัวศรีจันทร์
ปีที่วิจัย 2545
วัตถุประสงค์
1. เพื่อศึกษาปัญหาการจัดระบบสารสนเทศในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดชลบุรี
2. เพื่อเปรียบเทียบปัญหาการจัดระบบสารสนเทศในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดชลบุรีที่มีขนาดต่างกันเป็นรายด้านและรวมทุกด้าน
3. เพื่อเปรียบเทียบปัญหาการจัดระบบสารสนเทศในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดชลบุรี ตามประสบการณ์ของผู้รับผิดชอบงานการจัดระบบสารสนเทศ
4. เพื่อหาแนวทางพัฒนาการจัดระบบสารสนเทศในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดชลบุรี
วิธีวิจัย เชิงสำรวจ
ประชากร ได้แก่ ครูผู้รับผิดชอบงานข้อมูลและสารสนเทศในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดชลบุรี ในปีการศึกษา 2544 จำนวน 292 คน
กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูผู้รับผิดชอบงานข้อมูลและสารสนเทศในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดชลบุรี ในปีการศึกษา 2544 จำนวน 165 คน จากจำนวน 292 คน ซึ่งได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นโดยใช้ตารางของเครซี่และมอร์แกน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
เป็นแบบสอบถามเพื่อถามปัญหาและแนวทางการพัฒนาการจัดระบบสารสนเทศในโรงเรียนประถมศึกษา โดยจะเป็นแบบสอบถามสำหรับครูผู้รับผิดชอบงานข้อมูลและสารสนเทศในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกจังหวัดชลบุรี แบ่งออกเป็น 2 ตอน ดังนี้
ตอนที่ 1 แบบตรวจสอบรายการ เกี่ยวกับสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม
ตอนที่ 2 แบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 สอบถามเกี่ยวกับปัญหาและแนวทางการพัฒนาการจัดระบบสารสนเทศในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกจังหวัดชลบุรี โดยแบ่งเป็น 6 ด้าน คือ การรวบรวมข้อมูล การตรวจสอบข้อมูล การประมวลผลข้อมูล การจัดคลังข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล การนำข้อมูลไปใช้ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 อันดับ (Rating Scale)
ส่วนที่ 2 เป็นแนวทางการพัฒนาการจัดระบบสารสนเทศในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานการประถมศึกจังหวัดชลบุรี 6 ด้านเช่นเดียวกับส่วนที่ 1 โดยเรียงลำดับความสำคัญของแนวทางพัฒนา โดยเรียงลำดับ 3 อันดับ คือ 1 2 3 โดยกำหนดให้แต่ละอันดับมีค่าคะแนน ดังนี้
1 มีค่าเท่ากับ 3 คะแนน
2 มีค่าเท่ากับ 2 คะแนน
3 มีค่าเท่ากับ 1 คะแนน
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูลและการจัดกระทำข้อมูล
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
สถิติพื้นฐาน คือ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน
สถิติอ้างอิง คือ การทดสอบค่าที (t-test)
สรุปผลการวิจัย
2.1 โรงเรียนที่มีครูผู้รับผิดชอบงานข้อมูลสารสนเทศในโรงเรียนที่มีประสบการณ์น้อย มีระดับปัญหาการจัดระบบสารสนเทศโดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับปานกลาง โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยสามอันดับแรกดังนี้ การประมวลผลข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล การนำข้อมูลไปใช้
2.2 โรงเรียนที่มีครูผู้รับผิดชอบงานข้อมูลสารสนเทศในโรงเรียนที่มีประสบการณ์มาก มีระดับปัญหาการจัดระบบสารสนเทศโดยรวมและรายด้าน อยู่ในระดับปานกลาง โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อยสามอันดับแรกดังนี้ การนำข้อมูลไปใช้ การประมวลผลข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูล
3. วิเคราะห์เปรียบเทียบปัญหาการจัดระบบสารสนเทศ ในโรงเรียนประถมศึกษาสังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดชลบุรี โดยรวมและรายด้านจำแนกตามขนาดโรงเรียนปรากฏว่า โรงเรียนขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ โดยรวมมีปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง
4. ผลการเปรียบเทียบความแปรปรวนปัญหาการจัดระบบสารสนเทศ ในโรงเรียนประถมศึกษาสังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดชลบุรีจำแนกตามขนาดโรงเรียนโดยรวมและรายด้านแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
5. แนวทางการพัฒนาการจัดระบบสารสนเทศในโรงเรียนประถมศึกษาสังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดชลบุรี ด้านต่าง ๆ ดังนี้
5.1 ด้านการเก็บรวบรวมข้อมูลควรมีการจัดอบรมบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่งานสารสนเทศในโรงเรียน
5.2 ด้านการตรวจสอบข้อมูล พบว่าควรมีการจัดอบรมบุคลากรผู้มีหน้าที่การตรวจสอบข้อมูลของโรงเรียน
5.3 ด้านการประมวลผลข้อมูลควรพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถในการประมวลผลข้อมูล
5.4 ด้านการจัดคลังข้อมูล ควรมีหารวางแผนการจัดคลังข้อมูล
5.5 ด้านการวิเคราะห์ข้อมูล ควรจัดอบรมให้ความรู้ทางสถิติ
5.6 ด้านการนำข้อมูลไปใช้ ควรจัดอบรมให้ความรู้และเทคนิควิธี
เยี่ยมชมครับ
ขอบคุณครับที่เข้ามาเยี่ยมชม