เมื่อวันที่ 31 พฤศจิกายน 2552 ได้มีโอกาสจัดประชุมคณะกรรมการเครือข่ายผู้ปกครองของห้องเรียน มีคณะกรรมการเข้าประชุมจำนวน 4 ท่าน จากจำนวน 5 ท่าน ซึ่งวาระการประชุมนั้นเพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับพฤติกรรมของนักเรียนในภาพรวม ซึ่งในการประชุมก็เหมือนกับเป็นการประชุมที่ให้ผู้ปกครองได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน มีการพูกคุยแลกเปลี่ยน แนะนำวิธีการของแต่ละท่านในการดูแลพฤติกรรมบุตรหลานของตัวเอง มีผู้ปกครองผู้ชายท่านหนึ่งมีปัญหากับลูกซึ่งเป็นผู้หญิง เนื่องจากเพิ่งรับลูกมาอยู่ด้วยตอนโตแล้ว ก็เลยเข้ากันไม่ค่อยได้ ผู้ปกครองอีกคนซึ่งเคยมีประสบการณ์เช่นเดียวกันมาก่อน ก็เลยแนะนำถึงความรู้สึกของคนที่เพิ่งเจอพ่อตอนโต และแนะนำให้ผู้ปกครองท่านนั้น เปิดใจกับลูก แสดงความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมา กล้าจะกล่าวถึงความรู้สึกของตนเองออกมา และหาเวลาพูกคุยกับลูกให้มากขึ้น เท่ากับการประชุมในครั้งนี้ นอกจากครูจะได้ประโยชน์แล้ว ผู้ปกครองด้วยกันเองก็ยังได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันอีกด้วย ครูเองก็ได้รับข้อแนะนำที่เป็นประโยชน์ บางครั้งปัญหาของนักเรียนบางอย่างลึกซึ้งกว่าที่เราจะคิด แค่ไม่มองข้าม และหาทางรับรู้ และป้องกันปัญหาของนักเรียนล่วงหน้า เป็นการปลูกฝังเยาวชนของเราให้เป็นคนดีได้ในอนาคต โดยเฉพาะเรื่องการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดี เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คราวหน้าจะนัดประชุมกับผู้ปกครองของนักเรียนที่มีคาดว่ามีแนวโน้มพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง ร่วมกับครูและคณะกรรมการเครือข่ายของห้องเรียน แล้วจะเขียนมาเล่าให้ฟังอีกคะ ขอฝากนะคะว่าผู้ปกครองนี่แหละคะ ช่วยเราได้ในการแก้ปัญหาของนักเรียน พยายามหาโอกาสพบปะ พูดคุยกับผู้ปกครองบ่อย ๆ เรื่อย ๆ แล้วจะเข้าใจ เข้าถึงผู้ปกครอง และเข้าใจนักเรียนมากขึ้นคะ
สวัสดีครับคุณครูงดงาม
ผมก็รับ "ข้าวฟ่าง" และ "ใบเฟิร์น" มาอยู่ด้วยที่กรุงเทพเดิมทั้งคู่อยู่ราชบุรี
เห็นด้วยกับคุณครู สัมพันธภาพระหว่างคุณครู นักเรียนและผู้ปกครองนั้นสำคัญมากครับ
"พยายามหาโอกาสพบปะ พูดคุยกับผู้ปกครองบ่อย ๆ เรื่อย ๆ แล้วจะเข้าใจ เข้าถึงผู้ปกครอง และเข้าใจนักเรียนมากขึ้น"
ผมเข้าร่วมประชุมผู้ปกครองทุกครั้ง ทำความคุ้นเคยกับคุณครูประจำชั้นของเด็กๆทุกคน ผมเห็นว่าสัมพันธภาพระหว่างคุณครู นักเรียนและผู้ปกครองนั้น ไม่ใช่จะมีเฉพาะตอนมีปัญหาเท่านั้น สัมพันธภาพที่สร้างสรรค์ก็ควรได้รับการชื่นชมยินดีครับ
คุณครูบางท่านหรือบางครั้งอาจจะ มุ่งความสนใจแต่ที่ปัญหา คนที่สนใจปัญหาก็จะดึงดูดปัญหาให้มาใส่ใจดูแล ทำให้ละเลยศักยภาพ ละเลยความดีงาม ทำให้ความดีงามถูกทอดทิ้งไม่ได้รับการใส่ใจดูแล จากประสบการณ์ผมทั้งคุณครูต้องช่วยกันค้นหาศักยภาพ หรือ "การค้นหาความดีด้วยความชื่นชม"ครับ ในทุกๆที่ทุกๆคนมีความดีงามอยู่ต้องค้นหาให้พบ เมื่อเราพุ่งความสนใจไปที่ความดีงาม ความดีงามก็จะดึงดูดความดีงามกันไปเอง ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาโดยไม่ต้องใช้ความพยายามแก้ปัญหาครับ
ขอบคุณ ให้อภัย ขอโทษ ชื่นชมยินดีและความปรารถนาดี เป็นกฏสากลใช้ได้กับทุกเชื้อชาติ ศาสนาครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณคุณสุเทพนะคะ ที่ให้เกียรติร่วมแสดงความคิดเห็น เป็นหน้าที่ของครูที่จะต้องพยายามดูแลและใส่ใจเด็กนักเรียนของตนเองให้ดีที่สุดนะคะ และขอบคุณสำหรับข้อคิดดี ๆ พร้อมรับและนำไปปฏิบัติคะ
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ รู้สึกดีใจมากที่มีคนมาเยี่ยมชม
สวัสดีค่ะครูงดงาม
เข้ามาเยี่ยมคุณครูอีกครั้ง ขอแสดงความคิดเห็นเรื่อง เข้าถึงผู้ปกครอง เข้าใจนักเรียน นะคะ ครูเป็นที่ปรึกษานักเรียนตั้งแต่ชั้น ม. ๑ เดี๋ยวนี้อยู่ชั้น ม. ๒ ที่โรงเรียนจะตามเด็กจนจบช่วงชั้น ครูจะมีเบอร์โทรศัพท์ของผู้ปกครองและนักเรียนทุกคน ถ้าใครมีปัญหาอะไรจะติดต่อพูดคุยกันได้ตลอดหลังจากการประชุมผู้ปกครองแล้ว ผู้ปกครองมีความรู้สึกที่ดีมากนะคะ ที่โรงเรียนจะใช้เทคโนโลยีติดตามนักเรียนรายงานข่าวเด็กๆ ครูจะเปิดโทรศัพท์ตลอด ๒๔ ชั่วโมง นักเรียนที่โรงเรียนจะมีเบอร์ของครูเกือบทุกคน บางครั้งก็เป็นนักเรียนที่ครูไม่ได้สอนก็มี