ภยันตรายของการอิจฉาริษยาต่อมวลมนุษย์
(โดย : ดร.มูฮัมมัด อัล-อารีฟีย์)
แปลและเรียบเรียงโดย : ซัยฟุลลอฮฺ / ตรวจทานโดย : มุฮตาดีน อัลฮัก
--------------------------------------------
ดร.มูฮัมมัด อัล-อารีฟีย์ได้กล่าวไว้ว่า “การอิจฉาริษยานั้นถือเป็นความผิดของจิตใจที่ยิ่งใหญ่ เพราะมันจะไปกัดกินซึ่งความดีต่างๆ และสิ่งนี้ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ความผิดเกิดขึ้นในสวนสวรรค์จนทำให้อิบลีสต้องทรยศต่อพระเจ้าผู้สร้างเขา และก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้บุตรของท่าน-นบีอาดัมต้องฆ่ากัน”
ดร.มูฮัมมัด อัล-อารีฟีย์ได้บรรยายในมัสยิดแห่งหนึ่ง(มัสยิดอัล-บัฮรฺ)ภายใต้หัวข้อ “โรคร้ายของประชาชาติ” ซึ่งท่านได้กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า “การอิจฉาริษยานั้นเป็นคุณลักษณะของชาวยิวและมุนาฟิก(ผู้กลับกลอก)” ดังที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตาอาลา ได้ตรัสไว้ในคัมภีร์อัลกุรฺอานความว่า
“อะฮฺลุลกีตาบ(ชาวยิวและคริสเตียน)มากมายนั้นชอบ หากพวกเขาจะสามารถทำให้พวกเจ้ากลับเป็นผู้ปฏิเสธศรัทธาอีก ทั้งนี้เพราะความอิจฉาริษยาที่มาจากตัวของพวกเขาเอง หลังจากความจริงได้ประจักษ์แก่พวกเขา” (สูเราะฮฺอัล-บะเกาะเราะฮฺ อายะฮฺที่ 109)
ดร.มูฮัมมัด อัล-อารีฟีย์ได้กล่าวต่ออีกว่า “มนุษย์ไม่สามารถที่จะรอดพ้นจากคุณลักษณะนี้(การอิจฉาริษยา)ได้ แม้กระทั่งบรรดานบีเองก็ยังไม่สามารถที่จะรอดพ้นจากสิ่งเหล่านี้ได้ ดังที่ปรากฏขึ้นกับท่านนบียูซุฟ อะลัยฮิส-สะลาม ซึ่งบรรดาพี่น้องของท่านเกิดการอิจฉาริษยาต่อท่าน เนื่องจากบิดาของท่าน(นบียะอฺกู้บฺ)ได้มอบความรักแก่ท่านมากกว่าพี่น้องท่านอื่น” ดังที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮุวะตะอาลา ได้ตรัสไว้ในคัมภีร์อัล-กุรฺอานความว่า
“แน่นอนยูซุฟและน้องของเขาเป็นที่รักแก่พ่อของเราทั้งๆที่พวกเรามีจำนวนมาก แท้จริงพ่อของเราอยู่ในการหลงผิดจริงๆ” (สูเราะฮฺยูซุฟ อายะฮฺที่ 8)
การอิจฉาริษยาต่อกันนั้นจะยังคงอยู่จนกระทั่งถึงวันสิ้นโลก เพราะท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวไว้ว่า “ประชาชาติของฉันจะประสบกับโรคร้ายแห่งมนุษยชาติ” บรรดาเศาะหาบะฮฺก็ได้ถามท่านเราะสูลว่า “โอ้! เราะสูลของอัลลอฮฺ อะไรคือโรคแห่งมวลมนุษยชาติ?” ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็ตอบซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “การอิจฉาริษยา”
ดร.มูฮัมมัด อัล-อารีฟีย์ได้แบ่งการอิจฉาริษยาออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
ดร.มูฮัมมัด อัล-อารีฟีย์ได้อธิบายต่ออีกว่า “การอิจฉาริษยานั้นจะไปกัดกินซึ่งความดี
ต่างๆ เสมือนกับไฟกำลังเผากินกองฟืน เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถที่จะมองเห็นได้ มันเป็นสิ่งเร้นลับ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่สมควรสำหรับผู้ศรัทธาในการเป็นบุคคล ดังที่ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้ถูกถามจากบรรดาเศาะหะบะฮฺว่า “มนุษย์ประเภทไหนที่ประเสริฐที่สุด?” ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมตอบว่า “คือบุคคลที่จิตใจของเขามีคุณลักษณะมัคมูม มีลิ้นที่สัจจริง” บรรดาซอฮาบะฮฺก็กล่าวขึ้นว่า “ลิ้นที่สัจจริงนั้นเราทราบ แต่อะไรคือมัคมูม?” ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ก็ตอบว่า “เป็นบุคคลที่มีจิตใจบริสุทธิ์ ปราศจากความชั่ว ไม่ทรยศ ไม่มีจิตใจที่โหดเหี้ยม และไม่อิจฉาริษยา”
วิธีการรักษา
1. ยอมรับต่อสิ่งที่อัลลอฮฺ ซุบฮานะฮูวะตาอาลาทรงประทานให้
2. กระทำดีต่อผู้ที่ถูกอิจฉาริษยาพร้อมกับดุอาอฺให้แก่เขา
3. ขอความช่วยเหลือจากเขาเพื่อให้เขานั้นหลีกเลี่ยงจากการแสดงให้คนอื่นเห็นในสิ่งที่เขามีอยู่
วัลลอฮุอะอฺลัม
อัลฮัมดุลิลละฮฺ... เพิ่งรู้เดี๊ยวนี้แปลหนังสือด้วย
รบกวนส่งไฟล์เวิร์ดที่แปลฉบับนี้มาหน่อยได้ไหม๊ครับจะได้เอาลงเว็บเร็วๆนี้ครับ และถ้าไม่เป็นการรบกวนเชิญชวนท่านายกสโมสรของเราเป็นคอลัมภ์นิสท์ในเว็บด้วนะครับ
ด้วยความหวัง สลาม และดุอาอฺ
อัลฮัมดูลิลลาฮฺ มันคือหน้าที่ของคนมุสลิมครับ อินชาอัลลอฮฺ(รับคำเชิญครับ)
อืม ก็บางครั้งก้เกิดการอิจฉาโดยใช่เหตุ
การอิจฉา สาเหตุเพราะหัวใจเราอ่อนแอ