ทำไมผมต้องคัดค้าการแปรรูป กฟผ. 3

ตอนที่ 44

              

        ทำไมผมต้องคัดค้าการแปรรูป กฟผ. 3

ข่าวจากสื่อ

        วันนี้ 13 ก.พ.47 เวลา 9.00 นายนพคุณ ยังเอี่ยม กับแกนนำในการปกป้อง กฟผ.จำนวน 5 คน พร้อมกันเดินเข้าพบผู้บริหาร กฟผ.ทั้งแต่ระดับผู้ช่วยผู้ว่าการขึ้นไป โดยมีผู้มีอุดมการณ์เดินตามให้กำลังใจประมาณ 300 คน ที่ห้อง 201-203 อาคาร.ท100 หลังจากนั้น ผวก.ได้กล่าวความจำเป็นในการต้องทำหน้าที่แปรรูป กฟผ.เพราะเป็นผู้รับจ้างมาจาก รัฐบาลจะไม่ทำก็คงไม่ได้ และในส่วนของการคัดค้านก็เป็นสิทธิ์ของพนักงาน ซึ่งแต่ละคนก็ต้องทำหน้ากันไป

        หลังจากนั้นนายนพคุณ ได้พูดถึงเหตุผลในการออกมาปกป้อง กฟผ.ให้เป็นรัฐวิสาหกิจ พร้อมกับการนำอ่านบันทึกของ เสด็จในกรมหลวงชุมพร เขตอุดมศักดิ์ให้ ผู้คนในห้องได้รับฟังดังนี้ "" เจอบันทึกฉบับนี้ ให้เอาคำต่อไปนี้ของกูไปประกาศให้คนรับรู้ว่า กู กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้เป็นโอรสของพระปิยะมหาราช ขอประกาศให้พวดมึงรับรู้ไว้ว่า แผ่นดินสยามนี้ บรรบุรษุได้เอาเนื้อเอาชีวิตเข้าแลกไว้ ไอ้อีผู้ใดมัน คิดบังอาจทำลายแผ่นดิน ทำลายชาติ ทำลายศาสนา พระมหากษัตริย์ ฤากระทำการทุจริต ก่อให้เกิดความเดือนร้อนต่อส่วนร่วม จงหยุดคิดการกระทำนั้นเสียโดยเร็ว ก่อนที่กูจะสั่งทหารผลาญสิ้นทั้งโครตให้หมดเสนียดของแผ่นดินสยาม อันเป็นที่รักของกู ตราบใดที่คำว่าอาภากร ยังยืนหยัดอยู่ในโลก กูจะรักษาแผ่นดินสยามของกู ลูกหลานทั้งหลาย แผ่นดินใดกำเนิดเรามา แผ่นดินใดให้ที่ซุกหัวนอน ให้ความร่มเย็นเป็นสุข มิให้อนาทรร้อนใจ จงซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินนั้ ""  

        เมื่ออ่านบันทึกของเสด็จฯ เสร็จ ผู้ร่วมการปกป้อง ต่างตบมือกันอย่างสนั่นไปทั่วห้อง 201-203 แล้วจากนั้นก็ได้เดินกลับเข้าทำงานกันต่อไป จากนั้นเวลา 12.00 น ผู้ร่วมปกป้องก็ได้จัดให้มีเวที่ปราศัย หน้าตึก 15 ชั้น โดยมีผู้ร่วมรับฟังมากเป็นพิศษไม่ตำกว่า 2000 คน โดยการยืมเครื่องขยายเสียงมาจาก สหภาพฯ พร้อมกับการทำบันทึกถึงผู้ดูแล สำนักงาน กฟผ.ในการขอใช้ไฟฟ้าในการขยายเสียง หลังจากนั้นแกนนำได้กล่าวกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องจะทำในวันนี้(13 กพ.47)โดยจะไปยื่นหนังสือซึ่งพนักงาน กฟผ.ได้ร่วมกันลงมือชื่อในการคัดค้านการแปรรูป กฟผ.ไปเป็น บริษัท ฯ  ต่อนายกรัฐมนตรี และได้เชิญชวนให้พนักงานร่วมกันเดินทางไปด้วยกัน จากนั้นนายนพคุณ ยังเอี่ยมได้พูดถึงกิจกรรมในวันที่ 16 กพ.ที่จะถึงนี้ ขอให้ผู้ปกป้อง กฟผ.ได้ออกมารับฟังปราศัยกันในเวลา 12.00 น หลังจากนั้น เมื่อเวลา 13.30 นการเดินทางเพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการแปรรูป กฟผ.ก็เคลื่อนตัวออกจาก สำนักงานกลาง กฟผ.โดยมีพนักงาน กฟผ.รอส่งอีกปประมาณ 100 คนหลังจากนั้นทุกคนก็กลับแยกย้ายกันไปทำงานต่อไป

        วันที่ 16 ก.พ.47 เวลา 12.00 น.พนักงานผู้คัดค้านการขาย กฟผ.ก็ได้มารับฟังการปราศัย ด้วยจำนวน ที่มากขึ้นกว่าเดิม ประกอบกับมีพนักงานส่วนภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าพระนครใต้ เขื่อนสิริกิต์ ได้เข้ามาร่วมเพื่อนำภาพที่เห็นกลับไปบอกณจุดที่ตั้งของตัวเอง ทำให้บรรยากาศวันนี้คึกคักเป็พิเศษ เริ่มต้นการปราศัย คุณนพคุณ ยังเอี่ยมแจ้งว่าไม่ได้รับอนุญาติให้ใช้เครื่องเสียงในสำนักงานกลางจาก ฝรป.ได้

        แต่ด้วยพลังของพนักงานที่คัดค้านการขาย กฟผ.ได้สนับสนุนให้มติในการใช้ระบบเสียงและสถานที่เพื่อชี้แจงการคัดค้านการขายกฟผ ให้พนักงานได้รับทราบ หลังจากนั้นได้แจ้งว่าได้รับหนังสือจาก นายทะเบียนรัฐวิสาหกิจในการขอเปิดประชุมใหญ่วิสามัญเป็นการเร่งด่วนเพื่อให้สมาชิกลงมติเกี่ยวกับปัญหาการแปรสภาพ กฟผ. ให้กรรมการบริหาร สหภาพฯจัดการเปิดประชุมตามหนังสือร้องเรียนจากสมาชิก 1234 คน โดยด่วน ซึ่งประธานฯได้รับว่าจะขอให้มีการประชุมกรรมการ บริหาร สหภาพฯและจะเปิดประชุมใหญ่วิสามัญในวันที่ 18 ก.พ.47 นี้

        หลังจากนั้นพนักงานและสมาชิกได้พลัดกันออกพูดถึงการคัดค้านการขาย กฟผ.เพื่อเป้นการรักษาผลประโยชน์ต่อประชาชน คนไทยไม่ให้ตกอยู่ในมือของ นักการเมืองและนายทุน ต่อจากนั้นที่ปราศัยได้แจ้งการเคลื่อนไหวต่อในวันที่ 17 ก.พ.47 โดยจะเป็นการพากันไปหน้าทำเนียบรัฐบาลในเวลา 8.30 น.เพื่อไปแสดงจุดยืนในการปกป้องการขาย กฟผ.ต่อ คณะรัฐมนตรีในการ ลงมติ ครม.เรื่องการจดทะบียนบริษัท กฟผ.ซึง ครม.จะมีมติในวันที่ 17 ก.พ.47 นี้ ซึ่งได้จัดรถบัสจำนวน 5 คันไว้ขอให้ทุกฯคนได้เข้าร่วมด้วยซึ่งก็มีเสียงตอบรับด้วยดี หลังจากนั้นเวลา 13.00 น.พนักงานก็กลับเข้าทำงานตามปกติ

       หลังจากการปราศัยแกนนำการคัดค้านการขาย กฟผ.ได้ไปที่ทำการ สหภาพฯเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงวันจัดประชุมใหญ่วิสามัญ ประธานฯเห็นว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมควรจะเป็นในวันที่ 23 กพ.47 ที่จะต้องแจ้งสมาชิกให้เข้าร่วมประชุมฯให้มากที่สุดจึงจะจัดเตรียมเอกสารเพื่อแจ้งให้สมาชิกทราบในวันที่ 17-22 กพ.47 ส่วนการปราศัยในส่วนกลาง ก็จะดำเนินไปจนกว่าจะถึงวันประชุมฯ