ภรรยาบ่นว่าบ้านอยู่ไกลจำต้องย้าย


นึกถึงวันเวลาที่ผ่านมาแล้วทั้งเหนื่อยแสนเหนื่อย แต่ก็สนุก เพราะทำแล้วได้เงินกันเห็น ๆ

ตอนที่ 41

              

        ภรรยาบ่นว่าบ้านอยู่ไกลจำต้องย้าย

        ปี 2537 ภรรยาชวนให้ย้ายที่อยู่ใหม่ ให้อยู่ใกล้ ๆ ที่ทำงานให้มากที่สุดเพื่อความสะดวก และเพื่อเป็นการประหยัด เราทั้งสองจึงหาที่อยู่ใหม่ ให้ใกล้ที่ทำงานมากที่สุด เราได้บ้านทาวเฮาส์ 24 ตารางวา เท่าที่เดิม หมู่บ้านเทพประทาน อยู่หลัง ที่ทำงานของเราทั้งสอง รวมทั้งอยู่ใกล้โรงเรียนของลูก เมื่ออยู่ชั้นประถมอีกด้วย เราตัดสินใจซื้อในราคาตอนนั้นสูงมาก เพราะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจขึ้นแบบสุด ๆ สมัยชาติชายเป็นนายก หลังแรกผมซื้อเมื่อปี 2530 ห้าแสนกว่า ๆ แต่พอมาซื้อหลังใหม่ทั้ง ๆ ที่เป็นบ้านที่อยู่มาแล้วประมาณ 4 ปี ขายตั้งล้านหนึ่งแสนสองหมื่นกว่าบาท

        เมื่อซื้อแล้วเราย้ายมาอยู่ได้เกือบปี ปลายปี 2538 เกิดภาวะน้ำท่วมเชื่อหรือไม่บ้านที่ผมซื้อหลังใหม่น้ำท่วมเกือบถึงหน้าอกผม (สมัยนั้นหมู่บ้านไวท์เฮาส์ว่าหนัก บ้านผมหนักกว่า แต่ไม่เป็นข่าว) ช่วงนั้นต้องขอบ้านพักของที่ทำงานเป็นที่อยู่อาศัยประมาณเกือบ 3 เดือนน้ำจึงลดและแห้งสนิท  บ้านหลังที่ 2 ผมกู้เงินสหกรณ์ซื้อ การผ่อนเรามีเงินที่เป็นรายได้จากการที่ให้เช่าบ้านหลังแรก มาร่วมผ่อนกับเงินเดือนประจำ  แถมในช่วงนั้นมีธุรกิจเล็ก ๆ ที่ทำเอง และมีหลานมาช่วย ติดตั้งเสาอากาศทีวี และเสา Thai sky ในสมัยนั้นเรียกว่าเดือยหมู (เสาอากาศ) สามารถดูได้ทั้ง Thai sky และ UBC (เรียกกันติดปากตอนนั้นว่า ไอดูฟรี) 

        ที่มาของธุรกิจ ผมโชคดีที่มีคนรู้จักที่ทำงานด้วยกันแนะนำว่ามีญาติขายเดือยหมูอยู่อเมริกา ถ้าจะเป็นเอเย่นในประเทศไทย เขาจะมาส่งให้ ติดต่อเขาได้เลย ผมจึงรับเป็นเอเย่นขายเดือยหมู ทั้งขายเอง ส่งให้คลองถม ลูกค้าบางราย ต้องการให้ติดตั้งให้ด้วย ผมก็รับทำเฉพาะคนที่รู้จักกันเท่านั้น และทำได้เฉพาะวันเสาร์ และอาทิตย์ เท่านั้น   ผมทำอยู่ประมาณเกือบสี่ปี สามารถที่จะผ่อนบ้านหลังที่สองหมด ภายในประมาณห้าปี แถมยังได้ซื้อรถเก๋งใหม่ อีกหนึ่งคัน  ผมนึกถึงวันเวลาที่ผ่านมาแล้วมันชั่งเหนือยแสนเหนื่อยแต่ก็สนุก เพราะทำแล้วได้เงินเห็น ๆ ตอนนั้นคิดว่าเพื่อเงินสามารถทำได้ ถ้าไม่ทำอะไรเลยไหนเลยจะได้เงิน 

        ตลอดเกือบสี่ปีผมทำงานติดตั้งและขาย  แถบจะไม่มีวันหยุดเลย ทั้งงานหลวงและงานราษฏร คิดเสมอว่าเพื่อลูกเพื่อครอบครัวเราต้องทำตอนเด็ก ๆ เราลำบากยิ่งกว่านี้อีก ยังทำได้ 

        หลังจากที่ผมเตรียมการที่จะทำกิจการอย่างจริงจัง ทำให้ครบวงจร ติดตั้งเสาอากาศทีวี และติดตั้งดาวเทียม ผมซื้อรถปิดอัพใหม่อีกหนึ่งคันเพื่อที่จะเอาไว้มาทำงาน ผมซื้อรถมาได้ไม่ถึง ห้าเดือน เจอพี่สาวของแฟน พี่สาวแฟนถามว่าทำอะไรกันหนักหนา ดูแล้วอันตรายต้องปีนป่ายหลังคาบ้านเอง อายุก็เริ่มจะมากขึ้นแล้ว ไม่อยากจะให้น้องสาวเค้าต้องเป็นม่าย  (นึกว่าจะห่วงเราที่แท้ห่วงน้องสาวกลัวน้องสาวเป็นม่าย)  งานประจำก็มีทำยังต้องการอะไรอีก  แฟนผมบอกกับพี่สาวเค้าว่าที่ผมทำงานหนักเพื่อที่จะหาที่ดินไว้สักแปลงสักสองร้อยตารางวา พี่เค้ายื่นเงื่อนไขว่าอยากได้ที่เอารถที่ซื้อมาแลกกับที่ของแก (พอดีลูกชายพี่สาวต้องการได้รถปิคอัพ)  ตอนนั้นราคาที่ก็แพงหูฉี่ ไร่ละเป็นล้าน (แถว ๆบางบัวทอง นนทบุรี) ในเมื่อพูดไปอย่างนั้นแล้วเอาก็เอาเพราะรถเราตอนนั้นซื้อมาสี่แสนกว่า ๆ ที่ครึ่งไร่ก็ประมาณห้าแสน คิดอีกทีว่ารถมันก็ลดไปเรื่อย ๆ แต่ที่มันมีแต่จะแพงขึ้น  แต่ถึงวันนี้แล้วที่มีแต่ราคาขาย ราคาซื้อไม่มี เพราะคนไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาซื้อเพราะดูแล้วแพงเหลือเกิน    

คำสำคัญ (Tags): #ทำมาหากิน
หมายเลขบันทึก: 315574เขียนเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2009 20:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 13:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท