เป็นตาแดงใช้ยาอย่างไร ...จึงจะปลอดภัย


เป็นตาแดงใช้ยาอย่างไร ...จึงจะปลอดภัย

 จากภาวะน้ำท่วมในหลายจังหวัดของประเทศไทยเรา ทำให้ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนักจากภัยธรรมชาติดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน ที่อยู่อยู่อาศัย การเดินทาง การขนส่ง และที่สำคัญก็คือโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ที่มาเยือน เช่น โรคน้ำกัดเท้า โรคผิวหนัง กลากเกลื้อน ผดผื่นคัน อุจจาระร่วง และโรคที่พบว่าเป็นกันมากนั้นก็คือ โรคตาแดง

โรคตาแดง เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัสเข้าสู่นัยน์ตา โดยการใช้น้ำที่มีการปนเปื้อนของเชื้อโรคในการชำระร่างกาย และน้ำสกปรกกระเด็นเข้าตา หรือการใช้มือขยี้ตา ผู้ป่วยจะมีอาการเคืองตา น้ำตาไหล และเยื่อบุตาเป็นสีแดง ปวดตา ซึ่งในการป้องกันนั้น ควรหลีกเลี่ยงกับการสัมผัสน้ำสกปรก หากบังเอิญน้ำสกปรกกระเด็นเข้าตา ต้องรีบล้างตาด้วยน้ำสะอาดทันที และหากมีอาการตาแดง ควรรีบพบแพทย์ ที่สำคัญไม่ควรใช้ของร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า ปลอกหมอน ผ้าเช็ดตัว เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค รวมทั้งพักผ่อนสายตา และควรหยุดงานหรือหยุดเรียนเมื่อเป็นตาแดง

 การใช้ยารักษาโรคตาแดงนั้น ยาที่แพทย์สั่งมักจะอยู่ในรูปแบบของยาหยอดตา และยาขี้ผึ้งป้ายตา ซึ่งก็มีวิธีใช้แตกต่างกันไป โดยผู้ใช้ยาต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดการปนเปื้อนขณะใช้ยา เพื่อไม่ให้ยาเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตาได้ ที่สำคัญอย่าได้ซื้อยามาใช้เอง เพราะอาจได้รับยาไม่ถูกกับอาการ เป็นอันตรายต่อดวงตาซึ่งเป็นอวัยวะที่บอบบางได้ โดยเฉพาะอาจได้รับยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ ซึ่งจัดเป็นยาเฉพาะที่และเป็นยาอันตราย หากใช้ติดต่อกันอาจทำให้ตาบอดได้ หากมีอาการคันหรือบวมที่ตา มีขี้ตามาก ควรรีบปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อที่จะได้รับการรักษาที่ถูกต้อง และก่อนใช้ยาควรตรวจดูให้แน่นอนก่อนทุกครั้งว่า ยาหมดอายุหรือยัง ยาหยอดตาที่เปิดจุกใช้แล้ว จะเสื่อมคุณภาพไปตามวันเวลา จะมีฤทธิ์เต็มที่ภายในหนึ่งเดือนหลังจากเปิดใช้ครั้งแรกเท่านั่น จากนั้นจะค่อยๆ เสื่อมสภาพทีละน้อย ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ยาหยอดตาหลังเปิดใช้แล้ว 1 เดือน และยารักษาโรคตาแดงบางชนิดต้องเก็บในตู้เย็น เช่น ยาหยอดตาที่มีคลอแรมเฟนิคอล เพื่อให้ยาคงประสิทธิภาพในการรักษา

หมายเลขบันทึก: 315318เขียนเมื่อ 22 พฤศจิกายน 2009 17:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 10:54 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท