Appreciative Coaching กับนิวรอนกระจกเงา


Appreciative Coaching กับนิวรอนกระจกเงา

ผมว่าในวงการ Coaching  ตอนนี้ที่น่าสนใจก็คือ NLP (Nuro Lingustic Programming) แต่ในมุมมองของผมเรื่องที่จะต่อยอดจาก NLP ก็คือ ทฤษฎีนิวรอนกระจก (Mirroring Nuron) ตัวนี้นักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาลีค้นพบว่ามีผลต่อพฤษติกรรมคน ลองเคยสังเกตไหมครับทำไมเราอยู่ไกล้ๆคนประสาทเราจึงประสาทไปด้วย ในทางกลับกันการควบคุมตนเอง ความเชื่อมื่น ความคิดดีๆของเรากลับทำให้คนข้างเรารู้สึกดีๆ โดยที่เราก็ไม่ได้พูดอะไร เรื่อง Mirroring Nuron นี่ปรากฏในหนังสือพัฒนาตนเองหลายเล่มแล้วครับ ผมว่าน่าจะเป็น Trend  ผมได้เริ่มลองผสมเข้ากับ Appreciative Coaching  แล้วครับ ผมว่ามันใช้ได้ทีเดียว

http://content.digitalwell.washington.edu/msr/external_release_talks_12_05_2005/15918/lecture.htm

หมายเลขบันทึก: 315222เขียนเมื่อ 22 พฤศจิกายน 2009 10:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 02:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

เห็นด้วยกับการที่อยู่กับคนที่มีพลังอะไรดีๆแล้ว เราจะมีพลังนั้นไปด้วย ค่ะอาจารย์

อ.โยครับ

    ดีมากเลยครับ อาจารย์ได้นำเรื่องนี้มาเผยแพร่  เรื่องทฤษฎีนิวรอนกระจก

    ขออนุญาตแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ   เรื่องนี้  คล้ายๆกับ ที่เรามักจะพูดกันว่าคนแต่ละคนจะมีรังสีแผ่ออกมา ที่มักจะสัมผัสได้ด้วยความรู้สึกครับ

    ที่ชอบพูดกันเล่นๆ  (แต่เป็นจริง) คือ  รังสีอำมหิต ครับ   ทำนองว่า  นาย ก  ท่าทางภายนอก ดูเป็นคนมีเมตตา  แต่เข้าไปสัมผัส    จะมีรังสีอำมหิตแผ่ซ่านออกมา  ที่สัมผัสได้

ใช่เลยครับ ท่านอาจารย์ เวลาเราอยู่ไกล้คนเมตตา เราก็จะรู้สึกดี

จับจุดได้เลยครับ

ตัวที่จับกระแสนี้ได้ คือ นิวรอนกระจกเงานี่เองครับ ท่านอาจารย์

กราบขอบพรุณท่านอาจารย์ที่แวะมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้นะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท