อาตมาจัดกิจกรรมอบรมจริยธรรมนักเรียนมามากมายนับไม่ถ้วน แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยทิ้งไปในทุกกิจกรรมคือ กิจกรรมเสริมสร้างกตัญญูกตเวทิตา ทำให้อาตมารู้ว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรจะมาทำลายความรักระหว่างพ่อ แม่ ลูก ได้เลย ลูกทุกคนรักพ่อ แม่ แต่...มักจะมีอะไรมากมายบนโลกนี้มาคอยทำให้ลูกลืมความรักของพ่อแม่ไปในช่วงระยะหนึ่ง แต่เมื่อถูกกระตุ้นความรู้สึกรักพ่อแม่ให้กลับมา ลูกก็จะคิดได้ และมักจะรู้สึกเสียใจ และอาจจะสายเกินไปเสียแล้ว เหมือนกับกรณีตัวอย่างต่อไปนี้
กรณีตัวอย่างอันเป็นอุทาหรณ์เตือนใจ แก่น้อง ๆ เยาวชน นักเรียน นักศึกษา
เมื่อหวนคำนึงถึงพ่อและแม่
วันนี้เราหันไปเหลียวท่านบ้างหรือเปล่า ก่อนจะไม่มีโอกาสดูแล
เมื่อท่านจากเราไปแล้วการจัดงานใหญ่โตมันไม่มีประโยชน์อะไร
เวลาท่านอยู่ทำไมไม่ทำ? นี่เป็นความรู้สึกของน้องคนหนึ่งที่บรรยายออกมาจากใจ
...............
............
.........
......
....
...
.
ในขณะ ที่.... ผมก็เป็นเช่นเด็กวัยรุ่นทั่วๆไป เรียน เที่ยว นอน กิน
ดึกๆผมก็โทรคุยกับแฟนของผม
ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้มันก็เป็นกิจวัตรประจำวันของผมและผมก็เชื่อ ว่าใครๆเค้าก็ทำแบบนี้กัน
"ตัวเอง วันนี้กินข้าวหรือยัง กินกับอะไรบ้าง
แล้วตอนกินตัวเองคิดถึงเค้ามั้ยเนี่ย รู้มั้ยตัวเอง ถ้าเค้าเป็นผีเนี่ย
เค้าอยากเป็นกระสือที่รักจะได้เห็นใจไง ตัวเองวางก่อนดิ ก่อนดิ"
..ประโยคต่างๆที่ผมได้คิดและคัดสรรเตรียมพร้อมมาต่างๆ ก่อนโทร
ผมยังคงใช้เวลาส่วนใหญ่ตอนดึกไปกับการคุยโทรศัพท์
ระยะเวลาอันผมได้ใช้ไปในแต่ละครั้งนั้น
พอรู้สึกอีกทีก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว
แต่ผมก็ไม่ชอบนะ หากใครจะมาว่าผมไร้สาระ
ก็ไม่เห็นเหรอคน ส่วนใหญ่เค้าก็ทำกัน
เอ้อ เกือบลืมไปอีกอย่างกิจวัตรอีกอย่างนึงของผมก็คือ
แม่ของผมมักชอบโทรหาผมทุกวัน
'ตอนนี้ลูกอยู่หอรึยัง' 'เย็นนี้กินข้าวอิ่มมั้ย' 'วันนี้เรียนเป็นยังไงบ้าง'
'อย่าไปเที่ยวที่ไหนไกลนะ'
โธ่!คำถามเดิมๆ
ผมก็ตอบไปแบบเดิม ๆ แม่ผมก็ ไม่เบื่อซักที ยังคงโทรหาผมเป็นประจำ
โชคดีที่ผมพยายามตัดบทคุย ผมกับแม่น่ะ คุยกันไม่กี่นาทีก็วางแล้ว
ก็มันไม่มีอะไรจะคุยจะให้ผมทำยังไง
จนกระทั่งวันนั้น 'ตัวเองตอบเค้าได้รึยังว่ารักเค้ามั้ย'
'เร็วๆสิ เค้ายังอุตส่าห์ บอกรักตัวเองไปแล้วนะ'
'แล้วยังจะใจร้ายไม่บอกรักเค้าอีกหรอ'
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ
เสียงจากโทรศัพท์บอกผมว่ามีสายซ้อน ผมมองไปที่หน้าจอมันขึ้นชื่อว่า 'Home'
'โธ่ แม่โทรมาทำไมตอนนี้เนี่ย กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย'
ผมไม่สลับสายผม ผมยังคงคุยกับสุดที่รักของผมต่อไป
เพราะผมรู้ว่า สิ่งที่แม่จะคุยกับผมก็คงเป็นประโยคเดิม ๆ
'และนั่นก็เป็นโอกาสสุดท้ายที่ผมจะมีโอกาสฟังเสียงของแม่'
หลังจากนั้นไม่นานทางญาติของผมโทรมาแจ้งผมว่า...
เมื่อคืนนี้บ้านของผมถูกขโมยเข้า
และแม่ของผมขัดขืนและได้ต่อสู้กับโจร จึงถูกโจรใช้มีดแทงเข้าที่ท้อง
แม่เสียชีวิตเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว
ญาติของผมเล่าอีกว่าตอนไปพบศพแม่นั้น
ในมือของแม่กำโทรศัพท์ไว้แน่น
และเบอร์โทรออกล่าสุดของเธอ ไม่ใช่โทรแจ้งตำรวจหรือเรียกรถพยาบาล
แต่แม่เลือกที่จะโทรหา 'ผม'
สิ่งสุดท้ายในชีวิตที่แม่ผมเลือกที่จะทำคือ
โทรศัพท์หาผมเพื่อฟังเสียงของผม
วินาทีนั้นน้ำตาของผมไหลอาบแก้ม
ผมพูดอะไรไม่ออก มือและตัวของผมสั่น
คืนนั้นผมเลือกที่จะคุยกับแฟนผม ดีกว่าที่จะคุยกับแม่ของผม
"แม่" ผู้หญิงคนเดียวในโลก ที่คุยกับผมเป็นคนแรกในชีวิต
ผู้หญิงคนเดียวที่ผมสามารถที่จะคุยกับเธอได้ทุกเวลา
โดยที่ผมไม่ต้องเตรียมบทพูดใดๆ
ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะประทับใจหรือไม่
ไม่ต้องมีมุข ไม่ต้องมีคำหวานใดๆ
คนเดียวในโลกที่โทรมาหาผมเพียงแค่ฟังผมพูดประโยคเดิมๆ
คนเดียวในโลกที่ไม่ว่าโทรศัพท์เธอจะโปรโมชั่นแพงแค่ไหนก็ยังโทร หาผม
และคนเดียวในโลกที่เลือกคุยกับผมในวินาทีสุดท้ายในชีวิต
ในบางครั้งประโยคที่ว่า 'ไม่มีคำว่าสาย หากเราคิดที่จะแก้ตัว'
มันก็ไม่เป็นความจริง 'เพราะบางปรากฏการณ์ในโลกเกิดขึ้นได้แค่ครั้งเดียว'
อาจเป็นเพราะเวรกรรมของผม
หลังจากนั้นไม่นานแฟนผมที่ผมใช้เวลาคุยกับเธอวันหลายๆชั่วโมงคุ ยกับเธอก็ทิ้งผมไป
วันนี้ผมเริ่มเข้าใจชีวิตมากขึ้น
หลายๆอย่างที่คนส่วนใหญ่ทำ มิได้หมายถึงสิ่งที่ถูกต้องเสมอไป
เพราะตัว เราเท่านั้นที่เป็นผู้ต้องรับผลการกระทำของเราเอง
'เราจะรู้ว่าสิ่งใดสำคัญก็ต่อเมื่อเราต้องเสียมันไป'
ทุกวันนี้ผมนั่งมองโทรศัพท์
รอที่จะตอบคำถามเดิมๆ ให้ผู้หญิงคนหนึ่งฟัง
แต่ผู้หญิงคนนั้นคงไม่มีอีกแล้ว .....
กราบคาระวะขอรับอาจารย์..
เขามาหาความรู้จากอาจารย์ขอรับ
ที่เชียงใหม่คงหนาวแล้วนะขอรับ..
กราบนมัสการค่ะท่าน
พูดไม่ออกค่ะท่าน มันมีก้อนแข็งๆจุกอยู่ที่คอหอย ....... เหตุการณ์แบบนี้มันเป็นเหตุการณ์ที่คล้ายกันกับดิฉันเมื่อเช้า ประมาณ8โมง ตากผ้าอยู่ที่ราวข้างบ้าน เสียงโทรศัพท์บ้างดังขึ้น ในใจคิดว่าคงจะเป็นคนที่ร้านโทรมาให้เอาของที่บ้านออกไปให้ จึงไม่ได้สนใจที่จะไปรับสายกะว่าจะให้สายตัดไปแล้วให้เขาโทรมาใหม่ หลังจากที่ตากผ้าเสร็จ แต่ณ ตอนนั้นภาพต่างๆก็ผุดขึ้นมาว่าอาจเป็นโทรศัพท์จากญาติพี่น้องที่กำลังได้รับอันตราย หรือจากลูกสาวที่เรียนอยู่ในตัวเมือง หรือจากโรงพยาบาล จากสถานีตำรวจ ..สารพัดที่ใจนึกไป เสียงกริ่งก็ยังดังอยู่ มองผ้าในตระกร้าที่เหลืออีก2-3ชิ้น รอไม่ได้แล้วค่ะดิฉันรีบวิ่งอย่างเร็วเข้าบ้านเพื่อให้ทันเสียงโทรศัพท์กริ่งสุดท้าย พอยกสายปรากฎว่าเป็นเสียงของคุณพ่อของดิฉันเองบอกว่าเมื่อเช้ายังไม่ได้เอานมใส่กระเป๋านักเรียนให้หลานเตรียมไว้ให้ด้วย จะกลับไปเอา ค่อยโล่งใจไปค่ะ ที่ไม่มีอะไรร้ายแรงเหมือนที่เห็นอยู่ในมโนภาพ