การพัฒนาตนเองของข้าพเจ้า ตอนที่ 3


การพัฒนาตนเองของข้าพเจ้า ตอนที่ 3

จากที่ผู้เขียนได้เขียนเรื่อง "การพัฒนาตนเองของข้าพเจ้า ตอนที่ 1" และ "การพัฒนาตนเองของข้าพเจ้า ตอนที่ 2" ไปแล้ว สำหรับในตอนนี้ขอใช้ชื่อว่า "การพัฒนาตนเองของข้าพเจ้า ตอนที่ 3" ก็แล้วกันค่ะ...

สำหรับการพัฒนาตนเองในตอนที่ 1 และ ตอนที่ 2 นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเกี่ยวกับการที่ตนเองได้พัฒนาศึกษาหาความรู้ จากการที่ได้รับใบปริญญาบัตร ใบประกาศนียบัตร ฯลฯ (ซึ่งในมหาวิทยาลัยบุคลากรก็จะเน้นตรงจุดนี้กันมากกว่าการได้ทำงานและเพื่อผลงานอย่างแท้จริง) นั่นถือว่าเป็นการเรียนรู้เพื่อตนเองมากกว่าการที่จะได้กระทำประโยชน์ต่อหน่วยงาน สังคม ชุมชน ซึ่งถือว่าเป็นพื้นฐานของการที่จะได้นำความรู้ในสิ่งนั้น เก็บเกี่ยวความรู้เพิ่มเติมเพื่อนำมาเพื่อปฏิบัติต่อการทำงานในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้บรรลุผลสำเร็จ เพราะหัวใจของการพัฒนาตนเองที่แท้จริง นั้น อยู่ตรงที่ตัวเราได้นำความรู้ที่ได้รับนั้นมาบูรณาการ ปรับใช้ในชีวิตการทำงานได้จนเป็นผลสำเร็จ จึงจะถือได้ว่าเป็นจุดสุดยอดของการพัฒนาตนเองอย่างแท้จริง และถือได้ว่า การเรียนรู้ ในยุคปัจจุบันไม่จำเป็นต้องเป็นการเรียนรู้แต่ในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว ความรู้ที่ตัวเราจะเรียนมีอยู่มากมายรอบตัวเรา เรียกว่า "เป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต" ก็ว่าได้ และนอกเหนือสิ่งอื่นใดจากที่เราได้อ่าน ได้เรียนรู้จากหนังสือ ตำรา อาจารย์บอกเล่า สั่งสอนมา ก็เป็นเพียงสิ่งที่ได้รับรู้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือ "จากประสบการณ์ตรงที่ตนเองได้พบเจอ" ซึ่งไม่สามารถที่จะเปรียบเทียบกับประสบการณ์กับผู้อื่นได้ เพราะแต่ละสถานการณ์ แต่ละเหตุการณ์ จะแตกต่างกัน อยู่ที่ตัวเราจะพบเจอสภาพปัญหาแบบใด ในการพบเจอปัญหา นั่นแหละ ปัญหาที่ตัวเราเองแก้ไขได้จะถือได้ว่าเป็น "ครู" ของเราเองว่า ครั้งต่อไป เมื่อเราเจอปัญหาแบบนี้อีก เราจะสามารถแก้ไขปัญหาแบบนี้ได้อีก (ตรงนี้แหละที่เขาเรียกว่า ผู้ปฏิบัติ อย่างแท้จริง ไม่มีใครบอกตัวเราได้นอกจากประสบการณ์)

เนื่องจากสภาพปัจจุบันการบริหารจัดการภาครัฐ ไม่เหมือนกับสมัยก่อน รัฐจะเน้นการกระจายอำนาจในด้านการบริหารจัดการ เพื่อทำให้ส่วนราชการเกิดการยืดหยุ่น ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นผู้บริหารระดับกลาง ในด้านการทำงานถ้าเปรียบเทียบกับสมัยเมื่อก่อน ผู้เขียนจะทำงานตามสั่ง "ทำงานเชิงรับ" เนื่องจากรัฐยังไม่ได้กระจายอำนาจให้ส่วนราชการปฏิบัติ (รวมอำนาจ) แต่สภาพปัจจุบันกลับเปลี่ยนไป ผู้เขียน ต้อง "ทำงานเชิงรุก" (กระจายอำนาจ) ต้องคิดงานเอง ทำเอง หาข้อมูลเอง เนื่องจากมีบุคลากรจำนวนน้อย บางครั้งผู้บริหารหรือผู้ที่ไม่ได้มาสัมผัสงานของผู้เขียน ถ้ามองแค่ผิวเผินจะดูเหมือนว่า ไม่ได้ทำอะไร แต่ความจริงไม่เป็นอย่างที่พวกท่าน ๆ คิด ในการที่เป็นมหาวิทยาลัยใหม่ ความพร้อมในทุก ๆ ด้าน ก็ยังไม่ถึงขั้นกับพวกพี่ ๆ ที่เป็นมหาวิทยาลัย (ใหญ่) กว่า แม้แต่บุคลากรภายในกองก็ดูกระจุ๋มกระจิ๋ม มีแค่ 8 ชีวิต ทำงานตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ แต่นับได้ว่าผู้เขียนโชคดีที่ได้น้อง ๆ เป็นทีมงานที่แข็งแกร่งเพราะพวกเราทำงานเป็นทีม (ยึดสมรรถนะหลักตัวที่ 5 ของข้าราชการ) สามารถนำพางานให้บรรลุผลสำเร็จ ในฐานะที่ผู้เขียนเป็นผู้บริหารระดับกลาง จากที่ได้เรียนรู้จาก e - learning ของ ก.พ. และ ก.พ.ร. ซึ่งความรู้ที่ได้เรียนรู้เป็นความรู้เกี่ยวกับการบริหารงานภาครัฐแนวใหม่ทั้งสิ้น ทำให้นำความรู้ที่ได้รับมาปรับใช้ภายในงานและแนะนำน้อง ๆ ในกองให้ได้เรียนรู้ตาม เพราะถ้าเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ได้เรียน ฯ เขาก็จะไม่ทราบว่าคืออะไร ทำให้การทำงานภายในกองเป็นไปอย่างราบรื่น แต่อุปสรรค อีกอย่างคือผู้ที่ไม่ได้เรียนรู้อย่างที่ผู้เขียนและน้อง ๆ ในกองได้เรียนรู้และจะตอบคำถามของหน่วยงาน (เช่น สมศ. สกอ.และ ก.พ.ร. ที่มาติดตามและประเมินผลได้) เขาจะเกิดอาการต่อต้าน (ไม่ทราบว่าเขาคิดอะไรเหมือนกันอาจจะบวกด้วยวัฒนธรรมองค์กรเดิม ๆ ก็ได้) สิ่งที่สำคัญ ที่จะนำพามหาวิทยาลัยไปสู่เป้าหมายนั้นได้ นั่นคือ ผู้เขียนก็ฝากความหวังไว้กับ "ผู้นำ"

บางครั้ง ผู้เขียนคิดว่า การที่เราคิดงานเชิงรุกฝ่ายเดียวไม่ได้ เพราะถ้าเรารุกอยู่เรื่อย ๆ ก็เป็นจุดที่ถูกเพ่งเล็งได้ ผู้เขียนได้อ่านบทความเกี่ยวกับการบริหารการเปลี่ยนแปลง ได้บอกไว้ว่า การที่จะคิดเปลี่ยนแปลงสิ่งใด ๆ แล้ว ผู้บริหารระดับกลาง มิควรเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลง การนำในการเปลี่ยนแปลงนั้น ต้องปล่อยหน้าที่ให้ฝ่ายบริหารหรือผู้นำองค์กรเป็นผู้กระทำ ผู้บริหารระดับกลางมีหน้าที่ Support ผู้นำ จึงทำให้ผู้เขียนได้สติและเตือนตัวเองว่า ต่อไปนี้ จะหยุดดูหรือเหลียวหลังหยุดรอพวกเขาจะมาถึงเรา เมื่อถึงวันนั้นเราก็จะค่อย ๆ ก้าวและเดินไปพร้อมกัน...และเมื่อใดล่ะ...วันนั้นจะมาถึง...ผู้เขียนเฝ้ารอคอยอยู่...เพราะต้องการเห็นความก้าวหน้าและการพัฒนาของมหาวิทยาลัย...ต่อให้ผู้เขียนต้องการเห็นความก้าวหน้าและต้องการพัฒนามหาวิทยาลัยอย่างไร ผู้เขียนก็ต้องรู้จักคำว่า "อดทน" รอ...

หมายเลขบันทึก: 313316เขียนเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2009 21:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 เมษายน 2016 15:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

พัฒนาตนของข้าพเจ้าเรียงความ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท