คุณธรรมจริยธรรมของผู้นำการบริหาร ในยุคคิดใหม่ ทำใหม่
คิดใหม่ ทำใหม่ต่อการบริหารองค์กร (Rethinking Control & Complexity) องค์กรที่เหมาะสมกับการจัดการในยุคปัจจุบัน คือ องค์กรที่จัดวางระบบงานแบบทีมอเมริกันฟุตบอล ที่แต่ละคนในทีมให้ความสนใจอย่างเข้มงวดต่อจุดมุ่งหมายและความรับผิดชอบของตน ทำงานที่ตนได้รับมอบหมายอย่างแข็งขันไปพร้อม ๆ กับการประสานงานกับส่วนอื่น ๆ อย่างเอาการเอางาน โค้ชคือผู้ชี้นำการดำเนินงานทั้งหมดของทีม ด้วยการสนับสนุนของโค้ชทีมรุกและโค้ชทีมรับ เพื่อส่งเสริมความถนัดและพัฒนาความชำนาญของแต่ละคนให้เต็มศักยภาพพร้อมที่จะแสดงบทบาทที่ดีที่สุด มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในชัยชนะร่วมกันของทีม และในโลกยุคข้อมูลข่าวสาร โลกาภิวัตน์นี้ เราต้องพึงตระหนักอยู่เสมอว่าความสำเร็จของวันวาน ไม่ใช่ทางผ่านสู่ความสำเร็จในอนาคตเสมอไป
คิดใหม่ ทำใหม่ต่อความเป็นผู้นำ (Rethinking Leadership) ผู้นำในยุคปัจจุบันต้องสามารถกระตุ้นทีมงานที่ฉลาดและเชื่อมั่นในตนเองให้สามารถร่วมทำงานกันได้ และบริหารจัดการนำเอาความคิดสร้างสรรค์ของคนกลุ่มนี้ออกมาคุณสมบัติที่สำคัญของผู้นำในยุคคิดใหม่ ทำใหม่ ได้แก่
1.ต้องตระหนักในเป้าหมายและวิสัยทัศน์
2.ต้องเป็นนักสื่อสารที่สามารถนำเสนอวิสัยทัศน์ของตนต่อผู้อื่น
3.ต้องเป็นบุคคลน่าเชื่อถือ
4. ต้องเป็นบุคคลที่กล้าได้กล้าเสีย และพร้อมที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์
5.ต้องมีสำนึก และเชื่อมั่นต่อการเปลี่ยนแปลง โดยไม่ต้องรอให้ถูกคุกคามจากความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลง
6.ต้องมีความสามารถในการสร้างสรรค์องค์กรของตน ให้มีช่องทางที่จะสามารถมองพ้นไปจากกรอบขององค์กรของตน
7.ต้องมีความกล้าที่จะสร้างสรรค์องค์กรที่กะทัดรัดเป็นอิสระและจัดการได้ง่าย
องค์กรที่มีประสิทธิภาพในยุคคิดใหม่ ทำใหม่ คือ
1.องค์กรในรูปแบบของเครือข่าย หรือองค์กรในรูปแบบของสหพันธ์เครือข่าย ผู้นำแห่งโลกยุคโลกาภิวัตน์ยุคไร้พรมแดน จึงควรต้องเป็น “ผู้นำของบรรดาผู้นำ”
2.คิดใหม่ ทำใหม่ต่อประชาชน (Rethinking People) เราเหล่าข้าราชการในยุคนี้ ต้องคิดถึงประชาชน ทำงานเพื่อประชาชน สังคมและประเทศชาติเป็นเป้าหมายสำคัญ และเราต้องคิดอยู่เสมอว่าจะทำประโยชน์อะไรให้แก่แผ่นดิน ทำงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์โดยถามตัวเองอยู่เสมอว่า งานที่ทำอยู่นั้นประชาชนได้อะไร
3.คิดใหม่ ทำใหม่ต่อระบบเครือข่าย (Rethinking Networking) พวกเราอาจอยากถามว่า เมื่อมีการยกเครื่องการจัดการ (Reengineering) การลดขนาด (Down Sizing) และการลดจำนวนพนักงาน (Overhead Reduction) ทั้ง ๆ ที่ทีมงานมีจำนวนลดลงแล้วจะเกิดประสิทธิภาพประสิทธิผลได้อย่างไร สิ่งที่จะช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพและประสิทธิผลได้ก็คือ ระบบเครือข่าย โดยต้องทำให้แต่ละเครือข่ายเป็นศูนย์กลางในตัวเอง สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ การสร้างองค์กรที่ลดขนาดลงให้เหมาะสมแล้วมีจิตใจและวิญญาณและความรวดเร็วในการประสานเครือข่ายไปพร้อม ๆ กันด้วย
4. คิดใหม่ ทำใหม่แบบมีส่วนร่วม (Rethinking Participating) พวกเราจะต้องทำงานแบบมีส่วนร่วม การมีส่วนร่วม หมายถึง มีส่วนร่วมจากภายนอก (Outside In) ที่ผ่านมาเราทำงานกันแบบจากภายในสู่ภายนอก (Inside Out) โดยไม่ค่อยรับฟังเสียงจากภายนอก การทำงานในปัจจุบันควรปรับเปลี่ยนให้มีส่วนร่วมให้มากที่สุด
ผู้นำเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญยิ่งในการขับเคลื่อนภารกิจขององค์กร ซึ่งจะต้องทำหน้าที่ทั้งในการวางแผน (Planning) การจัดองค์กร (Organizing) การแต่งตั้งบุคลากร (Staffing) การอำนวยการ (Directing) การควบคุม (Controlling) การประเมินผล (Evaluation) โดยผู้นำจะต้องมีปัญญา มองการณ์ไกล (จักขุมา Conceptual Skill) สามารถจัดการธุระได้ดีและมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (วิธูโร Technical Skill) และพึ่งพาอาศัยคนอื่นได้เพราะมีมนุษยสัมพันธ์ดี (นิสสยสัมปันโน Human Relation Skill)
ผู้นำแต่ละท่านจะบริหารงานในหลาย ๆ รูปแบบ โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว มีอยู่ 3 รูปแบบ คือ
รูปแบบที่ 1 บริหารงานแบบอัตตาธิปไตย คือ การถือตนเอง ความคิดเห็นหรือวิธีการของตนเองเป็นใหญ่ ถือว่าตนเองฉลาดหรือเก่งกว่าใคร บริหารงานแบบเผด็จการ
รูปแบบที่ 2 บริหารงานแบบโลกาธิปไตย คือ การถือคนอื่นเป็นใหญ่ ไม่มีจุดยืนของตนเอง ขาดความเชื่อมั่น และไม่กล้าตัดสินใจ
รูปแบบที่ 3 บริหารงานแบบธรรมาธิปไตย คือ การถือธรรมหรือหลักการและเหตุผลเป็นสำคัญ ทำงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ ยึดเอาความสำเร็จของงานส่วนรวมเป็นที่ตั้ง (RBM : Result Based Management) ยินดีรับฟังคำแนะนำจากทุกฝ่าย
อิสระชน ไผ่สีทอง
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะ