ชีวิตเป็นเรื่องของการถูกกำหนด ตั้งแต่จากเชื้อชีวิตหรือยีน ถึงโภชนาการ ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา เรื่อยไปจนถึงการเลี้ยงดูจนเติบโต การศึกษา อาชีพ สิ่งแวดล้อม และโครงสร้างทางสังคม วัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจ หล่อหลอมตั้งแต่อยู่ในวัยแบเบาะเริ่มจำความได้ ลักษณะนิสัย พฤติกรรมจะเริ่มก่อตัวตั้งแต่วัยเด็ก จนสู่เข้าวัยเรียนวัยศึกษา จากระดับชั้นประถม มัธยม และอุดมศึกษา ซึ่งลักษณะในตัวบุคคลเหล่านี้ จำแนกแบ่งเป็นประเภทออกเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ 4 ประเภทดังนี้:-
1. พวกฉลาด และขยัน
2. พวกฉลาดแต่ไม่ขยัน
3. พวกไม่ฉลาดแต่ขยัน
4. พวกไม่ฉลาดและไม่ขยัน
พวกที่ 1 ฉลาดและขยัน บุคคลประเภทนี้ไปเกิดเป็นลูกใครหลานใครนับว่าบุคคลผู้นั้นโชคดีไปแล้ว 90 % เพราะพวกที่ฉลาดและขยันนี้ นอกจากจะมีมันสมองแต่เรียนรู้อะไรได้รวดเร็วแล้ว ยังเอาการเอางาน วางแผนการทำงานเป็นระเบียบแบบแผนอยูในกรอบในระเบียบวินัย มีความเป็นผู้นำในตัว ถ้าได้รับการอบรมบ่มนิสัยจากพ่อแม่ผู้ปกครองในทางที่ถูกต้อง มีคุณธรรมจริยธรรมด้วยแล้ว อนาคตบุคคลประเภทนี้จะได้เป็นผู้นำองค์กร รับราชการเป็นแม่ทัพนายกอง เป็นผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานนั้นๆ.
พวกที่ 2 ฉลาดแต่ไม่ขยันหรือหัวดีแต่ขี้เกียจ พวกนี้ในบ้านในเมืองเรามีเยอะ ยิ่งเป็นลูกผู้ลากมากดีที่พ่อแม่อยากให้เรียนอย่างเดียว ไม่ต้องทำงานอะไร พ่อแม่ผู้ปกครองรับทำเสียทั้งหมด นอนดึกตื่นสายตื่นมาแล้วพ่อแม่หากับข้าวกับปลามาประเคนให้ถึงที่ อ่านหนังสือก็ขี้เกียจชอบเล่นแต่เกมส์ ดูโทรทัศน์ ไม่มีการคิดช่วยพ่อช่วยแม่ทำงาน แต่เป็นคนหัวดีเรียนเก่ง ครูอาจารย์สอนหรืออธิบายอะไรจำได้หมด เข้าใจการเรียนในห้องเรียน ช่างซักช่างถามในสิ่งที่ตัวเองไม่เข้าใจสงสัย พวกนี้จบไปแล้วชอบทำงานที่สบายใช้สมองอย่างเดียวไม่ชอบออกแรง พวกเสนาธิการ พวกวางแผน ให้คำปรึกษา ทำงานนั่งโต๊ะ ฝ่ายอำนวยการ
พวกที่ 3 พวกไม่ฉลาดแต่ขยัน พวกหัวปานกลางถึงหัวทึบ แต่เรียนดีเพราะความขยัน มีความขยันในการทำงานทุกอย่าง ไม่เกี่ยงในงานที่ทำขอให้เป็นงานที่สุจริต ไม่ปริปากบ่น มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ มีการวางแผนชีวิตที่ดีเหมือนพวกประเภทที่ 1 แต่เรื่องการเรียนการศึกษาอาจจะต้องฟังอาจารย์สอนหลายๆรอบ ต้องสอบถามข้อสงสัยกับอาจารย์หลายๆครั้ง จึงจะเข้าใจ อ่านหนังสือหลายๆเที่ยวถึงจะจำได้ แต่พวกนี้ส่วนมากมักจะประสบสำเร็จในชีวิตเป็นอย่างดี อย่างผู้ที่รับราชการเป็นครูบาอาจารย์ทั่วไปที่เรียนสายศิลป์-คณิต สายสังคมศาสตร์ มนุษย์ศาสตร์ พวกตำรวจทหารจำประเภทเกรดบี ที่เป็นนายทหารตำรวจชั้นประทวน แต่สามารถสอบแข่งขันเลื่อนตำแหน่งไปถึงขั้นผู้พัน ผู้กำกับ
พวกที่ 4 พวกไม่ฉลาดและไม่ขยัน หรือพวกโง่และขี้เกียจ บุคคลประเภทนี้ก็มีอยู่หลายเปอร์เซ็นต์เหมือนกัน ซึ่งมีทั้งลูกคนรวยและลูกคนจน ถ้าใครมีลูกหลานประเภทนี้ก็ให้เตรียมเนเตรียมทองไว้สำหรับเสียค่าเสียหายหรือค่าทำขวัญเอาไว้ให้ดี รวมทั้งพวกเกกมะเหรกเกเรทั้งหลายแหล่ พวกนี้ไม่มีหัวคิดอยู่ไปวันๆ ชอบความเป็นอยู่ที่สะดวกสบายแต่ไม่ทำงาน เพื่อนชักจูงไปใหนก็ไป ไม่ค่อยเชื่อฟังพ่อแม่ เรียนหนังสือก็ไม่จบ หัวไม่ไป เรียนอะไรไม่ได้มันเป็นสิ่งน่าเบื่อที่สุด ส่วนมากพวกนี้เป็นไพร่พลชั้นเลว เป็นกรรมกร ออกแรง หาเช้ากินค่ำไปวันๆ พวกนี้ไม่สนใจสิ่งรอบตัวขอให้มีข้าวกินอิ่มก็พอ.
สวัสดีค่ะคุณหมอน้อย...ขอเป็นพวกที่ 1 ค่ะ..ทั้งฉลาดและขยัน...จะได้เก่ง
เอาน้ำโอเลี้ยงมาฝากค่ะ
สวัสดีครับคุณVij
สวัสดีครับคุณnuch
สวัสดีครับ หมอน้อย มาทักทายคนบ้านเรา พัดต้าลุง ชาวปากยูนยินดีที่จะได้แลกเปลี่ยนความคิกกับตำรวจครับ
เรียน หมอน้อย
ถ้าเขาเปรียบเทียบ คนทำงานก็คงเหมือน หนูขุดรู
ขุดและอยู่ ขุดไม่อยู่ ไม่ขุดไม่อยู่
ความเป็นจริงในหน่วยงาน จะมีบุคคลทั้ง 4 ประเภท แล้วก็เลือกไม่ได้เสียด้วยซิ ท่านว่าไหม
สวัสดีครับบังหีมวอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei-
ขอบคุณที่บังกรุณามาทักทาย ที่จริงแล้วผมเดินผ่านบ้านบังหีมบ่อย ชอบอ่านงานของบังมาตลอดแต่เนื่องจากงานเขียนของบังจะเป็นวิชาการเสียส่วนใหญ่ ผมเลยต้องเดินตัวลีบไม่กล้าเข้าไปทักทาย บังคงไม่ว่านะ
ผมบรรพบุรุษคือปู่เป็นคนบางแก้ว แถวท่ามะเดื่อนั่นแหละครับ ผมเป็นหลานปู่คนสุดท้องเลยไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับญาติพี่น้องทางบางแก้วเท่าไหร่ ในตอนนี้ผมมีรูปปู่แกถ่ายไว้ในสมัยรัชกาลที่ 5 มาไว้บูชาระลึกปู่ซึ่งเป็นต้นตระกูล"เดชะ"ในอำเภอระโนด ครับ.ท่านวอญ่า.
สวัสดีครับท่านผอ.พรชัย
สวัสดีค่ะ
ขอเลือกพวกที่ 1 ฉลาด และขยันค่ะ
เพราะจะได้มีทั้งสติปัญญาที่ดี และมีความมุ่งมั่น
ที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สำเร็จไปได้ด้วยดีค่ะ^^
ดีครับ ถ้าเป็นรูปปิระมิด ก็จะเป็นส่วนยอดสุด จงมุมานะต่อไปนะครับ.