เมื่อยังเป็นเด็ก พ่อแม่ ตายาย ให้ไปทำบุญใส่บาตรที่วัด แต่ไม่ได้สนใจ แต่ก็ต้องตามไปวัดบ่อย ๆ จนเป็นความเคยชิน ที่เห็นทุกคนเขาไปกัน เราก็ไป แต่ไม่เคยรู้ว่าทำบุญทำไม ทำให้ใคร ต่อมาเมื่อโตขึ้น ได้อ่านหนังสือธรรมมะ และได้ฟังคำสั่งสอน ก็ถือปฏิบัติมาโดยตลอด โดยเฉพาะวันพระ คนแก่สอนว่า ญาติทุกคนที่ล่วงลับไปแล้ว เจ้ากรรมนายเวร จะสามารถมารับส่วนบุญส่วนกุศล ได้มากกว่าวันปกติ ก็เลยไปใส่บาตรทุกวันพระ ส่วนการทำบุญปกติ ก็แล้วแต่ว่าจะสะดวกบริจาคซื้อผ้าขาวห่อศพ ถ้ามีคนมาขอรับบริจาค ถ้ารู้ว่าใครจัดทำหนังสือธรรมะแจก ก็ไปขอร่วมทำบุญด้วย เจอคนแก่ เด็ก ขอเงินซื้อข้าวตามข้างทาง ก็ให้บ้าง กลางคืนก่อนนอนก็สวดมนต์ขอพรพระ แผ่เมตตา สรุปว่าการทำบุญนั้นทำได้ตลอดเวลา ผลที่ได้รับคือเรามีความสุขทางกายและใจมากขึ้น มีเมตตาต่อทุกสิ่งมากขึ้น ไม่ค่อยมีความโกทธต่อผู้อื่น ทำให้ส่งผลต่อการปฏิบัติหน้าที่การงานด้วยความสุขตลอดเวลา เต็มใจให้บริการแก่ผู้มาติดต่อขอรับบริการทุกคน
สวัสดีค่ะ แล้วจะนำไปใช้เป็นแนวทางจ๊ะ
อนุโมทนาบุญ น้องพี่ คิดดี ทำดีแล้ว ขอบุญกุศลที่ทำจงเป็นพลังบุญเสริมบารมีให้พบกับความสุขความเจริญตลอดไป สาธุ
สวัสดีค่ะคุณวันวิสา...สิ่งดี ๆ เหล่านี้สามารถใช้เป็นแนวทางในชีวิตประจำวันได้เลยค่ะ...