มีโรคแปลกๆ เกิดขึ้นมากมาย
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งโรคที่น่าสนใจ
แอสเพอร์เกอร์ซินโดรม (Asperger"s Syndrome) โรคแปลกๆ
ที่จะทำให้เกิดความผิดปกติในการเข้าสังคม
ด้วยมีอาการหมกมุ่นกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากกว่าปกติ
ฟังดูเหมือนว่าอาการของโรคนี้จะไม่รุนแรง
หรือออกอาการโดดเด่นเหมือนกับการเป็นออทิสติก ดาวน์ซินโดรม หรือ
ไฮเปอร์ ก็ตาม เพราะโรคนี้จะเกิดขึ้นกับเด็กปกติ
แถมเป็นเด็กที่ เฉลียวฉลาด สติปัญญาดี
สำหรับอาการของโรคนี้ ไม่ได้แสดงออกทางโรคร้าย รูปร่าง หน้าตา
แต่จะไปออกเอาที่พฤติกรรม
อาการที่ว่านี้มีอยู่ 3 ประการ
ด้านภาษา สังคม และพฤติกรรม
ด้านภาษา ที่ว่านี้
ไม่ได้อยู่ที่พูดไม่ชัดหรือติดขัดในเวลาพูดแต่จะอยู่ที่ความเข้าใจในเรื่องที่จะพูด
โดยเฉพาะเรื่องแฝงนัย กำกวม อย่างมุกตลก คำเปรียบเปรย
และคำประชดประชันต่างๆ หรือคำผวน
ด้านสังคม ก็จะออกในแนวที่ไม่ยอมมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น
ไม่ค่อยมองหน้าหรือสบตาเวลาพูดคุย
แยกตัวอยู่คนเดียวไม่ค่อยสนใจบุคคลรอบข้าง
เล่นกับเด็กคนอื่นไม่ค่อยเป็น ไม่รู้จักการทักทาย
ยับยั้งชั่งใจหรือรอคอยไม่เป็น
ส่วนด้านพฤติกรรม จะเห็นได้จากการที่ชอบทำอะไรซ้ำๆ
ระดับที่เรียกได้ว่า หมกมุ่น โดยเฉพาะกับเรื่องที่ซับซ้อน อย่างเช่น
แผนที่โลก วงจรไฟฟ้า ยี่ห้อรถยนต์ ดนตรีคลาสสิก ไดโนเสาร์
ระบบสุริยจักรวาล เป็นต้น
ส่วนต้นเหตุของโรคแอสเพอร์เกอร์นี้ยังไม่ทราบที่มาที่ไป
แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านเชื่อว่ามีหลายปัจจัยร่วมกัน
ทั้งการทำงานที่ผิดปกติทางสมอง พันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม
น.พ.จอม ชุมช่วย จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น โรงพยาบาลมนารมย์
กล่าวถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับเด็กที่เป็นโรคนี้ว่า
บางคนอาจมีปัญหาเรื่องที่ไม่สามารถมีสมาธิกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้นานนัก
หรือมีปัญหาในการจัดลำดับเรื่องต่างๆ
แม้จะมีทักษะในบางเรื่องที่อาจจะดูดีกว่าเด็กอื่นก็ตาม
เด็กเหล่านี้จะไม่ยอมเข้าสังคม
ไม่พูดคุย ไม่ร่วมกิจกรรมใดๆ บางรายถึงขนาดยอมให้ครูตี
เพราะไม่ส่งการบ้าน
ที่ร้ายไปกว่านั้นเด็กกลุ่มนี้จะชอบทำอะไรก็จะทำแบบสุดโต่ง
และจะมีความอ่อนไหวมาก
เวลาที่เขารักใครก็จะรักจริง
สำหรับข้อแนะนำที่จะช่วยเด็กที่มีภาวะแอสเพอร์เกอร์ซินโดรมนั้น
คุณหมอให้คำแนะนำว่า
1.เล่นกับเด็กโดยเอาความสนใจของเด็กเป็นที่ตั้ง
แล้วค่อยๆ ขยายความสนใจไปในมุมอื่นๆ
เพื่อแบ่งความสนใจและอารมณ์ซึ่งกันและกัน
2.สนทนาด้วยคำง่ายๆ ชัดเจน
ถ้ายกตัวอย่างก็ควรให้เห็นในรูปของสิ่งของ สถานการณ์จริงหรือรูปภาพ
เพื่อความเข้าใจและการเรียนรู้ได้เร็ว
3.สร้างบรรยากาศสบายๆ ไม่เครียด
ให้ความอบอุ่นและเป็นกันเอง
4.เพื่อให้เด็กได้คุ้นเคยกับกฎระเบียบควรจัดเป็นกลุ่มเล็กๆ
ก่อนให้เด็กเข้าในกลุ่มใหญ่
5.การใช้คำสั่ง ต้องมีความสม่ำเสมอ
คงเส้นคงวาไม่เปลี่ยนแปลงบ่อย
6.ควรสนับสนุนให้เด็กเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อการปรับตัวใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนอื่นได้
7.สนับสนุนให้เด็กทำกิจกรรมหลากหลายเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ใหม่ๆ
อย่างสม่ำเสมอ
เพื่อหนีความเคยชินที่ซ้ำซาก เป็นหนทางในการช่วยเหลือให้เด็กอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
สวัสดีค่ะ มีละครที่นิวซีแลนด์ที่ตัวละครเป็นโรคนี้แต่เป็นหมอที่ฉลาดมากค่ะ แต่ไม่เข้าใจมุกตลกและขาดอารมณ์ขัน พูดตรงไปตรงมา ตามอาการที่ว่าเลยค่ะ บ้านเราไม่ค่อยเห็นตัวอย่างในทีวีนะคะ http://tvnz.co.nz/content/2548669