KM: Best Practice in Teaching Basic Nursing Care Course
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2552 สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้ไปศึกษาดูงานเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนในวิชาพื้นฐานทางการพยาบาลและเข้าเยี่ยมชม Learning Resources Center (LRC) ของสำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในการนี้ได้มีการเจรจาที่จะให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อการจัดการความรู้ร่วมกันระหว่าง 2 สถาบันโดย สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาพยาบาลที่ดำเนินการมาก่อนจะทำหน้าที่ Peer assisted ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การจัดการเรียนการสอนในวิชาพื้นฐานทางการพยาบาล จึงใคร่ขอเชิญอาจารย์ที่มีประสบการณ์ในการสอนวิชานี้ได้ใช้พื้นที่นี้ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การสอนที่ดีๆแก่กันและนำสู่การจัดการความรู้ต่อไป
ข้อมูลทีได้จากการศึกษาดูงานซึ่งเป็นสิ่งดีๆเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนในวิชา พื้นฐานทางการพยาบาลและ LRC ซึ่ง อาจารย์พิมพ์รัตน์ บุณยภักดิ์ กรุณาสรุปให้มีดังนี้
การจัดเรียนการสอนในรายวิชาพื้นฐานทางการพยาบาล ของสำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สำหรับนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2 ภาคการศึกษาที่ 1 มีจำนวน 6 หน่วยกิต แบ่งออกเป็นภาคทฤษฎี 3 หน่วยกิต ภาคปฏิบัติ 2 หน่วยกิต และมีรายวิชาสำหรับการขึ้นฝึกปฏิบัติจริงบนหอผู้ป่วยอีก 1 หน่วยกิต รูปแบบการจัดการเรียนการสอน สรุปได้ดังนี้
ภาคทฤษฎี (3 หน่วยกิต)
- การลำดับเนื้อหาเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนจะเริ่มจากเนื้อหาที่ง่ายไปสู่เนื้อหาที่ยากตามลำดับ โดยดำเนินการควบคู่กันไประหว่างเนื้อหาเชิงทฤษฎีกับการฝึกปฏิบัติ
- การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ในภาคทฤษฎี มีการนำเทคโนโลยีการศึกษาเข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพการเรียนรู้ให้กับผู้เรียน อาทิ การทำเทปบันทึกการสอน หรือสื่อสาธิตการปฏิบัติการพยาบาลต่างๆ เป็นต้น
- มีการส่งเสริมให้ผู้เรียนให้มีการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยเฉพาะการจัดการเรียนรู้ในหัวข้อ “การให้คำปรึกษา และการสร้างเสริมพลังอำนาจ” ซึ่งเปิดโอกาสให้นักศึกษาเขียนแผนการสอนภายใต้หัวข้อเรื่องที่นักศึกษาสนใจโดยมีอาจารย์เป็นที่ปรึกษา หลังจากนั้น นักศึกษาจะสาธิตตามแผนการสอน (role play) และมีการประเมินสะท้อนกลับจากอาจารย์และนักศึกษาเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน จุดมุ่งหมายของการจัดการเรียนการสอนในลักษณะนี้เพื่อให้นักศึกษาเกิดทักษะและความเข้าใจในกระบวนการปฏิบัติกับผู้ป่วยมากกว่าการเน้นเฉพาะเนื้อหาเพียงอย่างเดียว เนื่องจากนักศึกษาที่เรียนวิชานี้ยังไม่ได้ขึ้นฝึกปฏิบัติการพยาบาลกับผู้ป่วยโดยตรง จึงมีประสบการณ์เกี่ยวกับการพยาบาลน้อย
ภาคปฏิบัติ (2 หน่วยกิต)
- กำหนดอัตราส่วนระหว่างผู้สอนและผู้เรียนอยู่ที่ 1 : 6
- จัดให้มีการเรียนการสอนภาคปฏิบัติควบคู่ไปกับการเรียนการสอนภาคทฤษฎี
- ในบาง procedures อาจมีการสาธิตรวมกลุ่มใหญ่ก่อนที่จะแยกฝึกปฏิบัติในกลุ่มย่อย แต่บาง procedures เช่น การฉีดยา จะมีการสาธิตให้กับนักศึกษาภายในกลุ่มย่อยเพื่อให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
- มีการเปิดโอกาสให้นักศึกษาจัดกลุ่มเข้าฝึกปฏิบัตินอกเวลาได้ โดยนักศึกษาจะต้องรวมกลุ่มกันให้ได้อย่างน้อย 10 คนขึ้นไปในการขอใช้ห้องปฏิบัติการ
- ห้องฝึกปฏิบัติการพยาบาล นักศึกษาสามารถบันทึกเทปการฝึกปฏิบัติของตนเองเพื่อใช้ในการประเมินตนเอง หรือการประเมินผลของอาจารย์ได้
- ภายในห้องฝึกปฏิบัติ( LRC) จะมีการจัดห้องให้มีความใกล้เคียงกับลักษณะของหอผู้ป่วยมากที่สุดเพื่อให้นักศึกษาเกิดความคุ้นเคยก่อนขึ้นฝึกปฏิบัติการพยาบาลจริงบนหอผู้ป่วย อาทิ ห้องสำหรับวิชาการพยาบาลเด็ก จะมีหุ่นเด็กเพื่อให้นักศึกษาฝึกหัดอาบน้ำเด็ก หรือห้องวิชาการศัลยกรรมจะมีเตียงและอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาลผู้ป่วยออร์โธปิดิกส์ เช่น striker-frame, skeletal traction, slap เป็นต้น
การประเมินผล แบ่งเป็น
- การสอบข้อเขียน 30 %
เฉลี่ยโดยประมาณ 5 คะแนน / 1 procedure
- การฝึกปฏิบัติ 60%
ในการสอบจะเน้น procedures ที่สำคัญ เช่น การสวนปัสสาวะ การฉีดยา การวัดสัญญาณชีพ เป็นต้น
- Pre-test / Post-test 10%
เป็นการเตรียมความพร้อมของนักศึกษาในการทำความเข้าใจเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง และเป็นการสร้างเสริมให้นักศึกษามีวินัยในตนเองไม่เข้าเรียนสาย การประเมินผลในส่วนนี้จะนำคะแนนทั้ง pre-test และ post-testรวมกันและหาคะแนนเฉลี่ย
การเตรียมตัวนักศึกษาก่อนขึ้นฝึกปฏิบัติงานบนหอผู้ป่วย
- การเปิดให้นักศึกษามีโอกาสทบทวนความรู้ก่อนขึ้นฝึกปฏิบัติบนหอผู้ป่วย ในช่วงภาคฤดูร้อนตามความสมัครใจ โดยจะมีพยาบาลพี่เลี้ยงที่อยู่ในหอผู้ป่วยเป็นผู้ทบทวนความรู้ใน procedures ต่างๆ ให้นักศึกษา จะใช้เวลาคนละ 1 – 2 สัปดาห์
- นักศึกษาสามารถขอเปิดใช้ห้อง LRC เพื่อฝึกทบทวน procedures ต่างๆได้โดยรวมกลุ่มนักศึกษาให้ได้ตั้งแต่10 คนขึ้นไป
รายวิชาการฝึกปฏิบัติ (1 หน่วยกิต: 8 วัน)
การเตรียมความพร้อมของนักศึกษาก่อนฝึกปฏิบัติจริงในหอผู้ป่วย มีลำดับขั้นตอนดังนี้
- อาจารย์คัดเลือกผู้ป่วยเพื่อเป็น model case ในการสาธิตให้นักศึกษาดูก่อน โดยเริ่มตั้งแต่กระบวนการสร้างสัมพันธภาพกับผู้ป่วย การซักประวัติและการตรวจร่างกาย
- การสอนให้นักศึกษาทำการศึกษาข้อมูลต่างๆของผู้ป่วยจาก chart ผู้ป่วย
- อธิบายให้นักศึกษาเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติงานต่างๆ บนหอผู้ป่วย
- มอบหมายให้นักศึกษาฝึกปฏิบัติ