ถ้าอยู่เฉยๆแล้วอะไรๆจะดีขึ้นได้ ก็นับว่าแปลกแล้วละ
ถ้าตะบี้ตะบันตะบันทำ ก็ใช่ว่าจะเป็นคำตอบสุดท้าย
ถ้าปรับแก้ย่ำแย่ซ้ำรอยเดิม ตาบอดสี ก็ยากที่จะแยกแยะอะไรออก
สถานการณ์ไทยก็อยู่ประมาณนี้
รู้ทั้งรู้แต่ก็แก้ได้แค่ถูลู่ถูกัง
เป็นอาการเดียวกับเกลือไม่พอใส่ปลา
จะเก็บไว้ก็ไร้ประโยชน์ จะโยนทิ้งก็ทำไม่ได้
ในเมื่อตกอยู่ในจุดเซ็งสุดชีวิต
ไม่ใคร่ได้ใคร่ดีอะไร
ราชการใจดีเลี้ยงไว้ดูเล่น ให้อยู่ได้อยู่ดีมีเงินเดือนใช้จ่าย
ก็ยังมีพฤติกรรมบกพร่องทำให้เกิดความเสียหายให้ตนเอง
กินเหล้าเล่นไพ่เที่ยวเตร่เฮฮา
แล้วมาถามว่าทำอย่างไรเด็กถึงจะมีคุณธรรมจริยธรรม
อีโธ่อีถังเอ๋ย..
มีความจริงที่พูดไม่ได้ไอไม่ดัง
สมมุติว่าบุคลากรในสถาบันแห่งหนึ่ง
แบ่งคุณภาพออกเป็น 3 เกรด A B C
เกรด A มีความสำนึกดี รู้หน้าที่ มีความรับผิดชอบ 20%
เกรด B เอาไหนเอาด้วยช่วยบ้าง ยังอยากได้อยากดีถ้ามีสิ่งจูงใจ 30%
เกรด C ฉันจะทำยังงี้แหละ เบี้ยวตะบันราด เหลวไหลบ้าๆบอๆ 50%
ลองนึกดูเถิด ผลลัพธ์ ผลงานจะเป็นอย่างไร
ผลกระทบ ผลพวงอะไรจะตามมา
ถ้าเป็นการงานหน้าที่ส่วนตนจะรอดไหม
ถ้าเป็นกิจการบริษัทห้างร้านเอกชนจะรอดไหม
ถ้าเป็นหน่วยงานหรือองค์กรของรัฐจะเป็นยังไง
ข้อแรกข้อสองผ่าตัดได้
แต่ข้อสุดท้าย..จะทำอย่างไร Thailand เอ๋ย..
ถ้าพิจารณาจดหมายท่านอาจารย์หมอประเวศเขียนถึงดูไบก็มีเค้านะ
ถึงตอนนั้น..วิชาหลบเป็นปีกหลีกเป็นหางก็ใช้ไม่ได้หรอก
ร้องเพลง..ไอ้หวังตายแน่ได้อย่างเดียว
ถ้าจะหาที่ทางขุดรูอยู่
ท่านไร้กรอบก็บอกว่าโลกจะเย็น น้ำจะท่วม
โยกเยกน้ำท่วมเมฆกระต่ายลอยคอ..
ทางรอดเท่ารูเข็มอยู่ที่ไหน
ปลูกใบบัวบกปลูกไว้กินแก้ช้ำใน
แต่โรคช้ำใจไม่รู้จะกินอะไร อิ อิ..
มาช่วยตามหายาใจค่ะ
ช้ำใน กินใบบัวบก
ช้ำใจ กิน ใบก้อน อิอิ
= ชมเล่น เช่นลม เก่งทั้งคู่
ใบก้อน อิอิ
ตามหายาใจ อิอิ เข้าใจคิดจริ๊งจริง