ไข้หัวลม

ฤดูแห่งการเปลี่ยนแปลง

เนี่ยเพราะไข้หัวลม เอะได้ยิน สว. ข้างๆปรารภให้ได้ยินแล้วหรอ รู้แต่ได้ยินคุณยายน้านิดพูดให้ได้ยินมาแต่เด็กแล้ว พอฤดูกำลังจะเปลื่ยนจากฝนเป็นหนาว จะเป็นไข้ที่เกิดขึ้นในช่วงเปลี่ยนจากฤดูฝนมาเข้าฤดูหนาว ซึ่งร่างกายของเรายังชินกับความชื้นของอากาศฤดูฝนอยู่แล้ว พอเปลี่ยนมารับอากาศแห้ง ๆ ที่แผ่มาปกคลุมโดยลมหอบมา ร่างกายปรับไม่ทัน ก็มีอันต้อง ปวดหัว ตัวร้อน โบราณเขาเค้าฉลาดนะคะ ยายน้านิดก็เหมือนกัน พอย่างเข้าหนาว ยายก็ไปเก็บดอกแคเอามาต้ม มาแกงส้มดอกแค เอามาให้ไว้ซดน้ำแก้คอแห้ง ไล่ไข้ แหมได้กินกับข้าวสวยร้อน ๆ ปลาช่อนน้ำแห้งคอดแล้ว ใส่เกลือตากสักครึ่งแดด มาทอด กินแกล้ม อร่อย อย่าบอกใครเชียว เอาสะเต็กมาแลกก็ไม่ยอม และเจ้าดอกแคเนี่ย ต้มจิ้มน้ำำพริกแล้ว แกงส้มแล้ว ลองเอามาผัดทั้งดอกสิคะ

ปกติแล้วน้านิดไม่ถนัดเด็ดเกสรทิ้ง ฉีกกลางดอกออกอย่างเดียว เพื่อใส่ลงในหม้อแกงให้กลีบดอกซึมซับน้ำแกงเข้าไป แหม...มันสุดยอด แม่น้านิดน่ะช่างประดิษฐ์ประดอย ค่อยๆเอามีดกรีดที่ด้านบนยาวตลอดดอก และแคะเกสรทิ้งเพื่อไม่ให้ขม แหม..แม่ชอบทิ้งของดีไป อิอิ ลวกจิ้มกับน้ำพริกนะอื้ม หวานอร่อย เก็บจากต้นมาสดๆ นะคะลงหม้อเลย ภูมิปัญญาตายายเราดีจริง ฤดูแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างนี้ พี่ ป้า น้าอา ลูกหลาน ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ เมนูแกงส้มดอกแค สักชาม ช่วยได้เลยค่ะ

ดอกแคต้นนี้ปลูกเมื่อต้นสิงหา ให้ดอกพอหม้อแกงแล้วล่ะค่ะ

เขียนใน GotoKnow โดย สุวรรณา
ใน สุวรรณา

คำสำคัญ (Tags): #ดอกแค#ฤดูเปลี่ยนแปลง#ไข้หัวลม#แกงส้มดอกแค

หมายเลขบันทึก: 309008เขียนเมื่อ 27 ตุลาคม 2009 20:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 พฤษภาคม 2012 01:06 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่าน

ความเห็น (11)

กานดาน้ำมันมะพร้าว

เขียนเมื่อ 3 พฤศจิกายน 2009 19:28 น. ()

สว้สดีค่ะ คุณสุวรรณา

ขอบคูณมากนะคะ ที่รวมบันทึก ของกานดาด้วย ดอกแค นั้น ของโปรด ค่ะ ตอนเด็กๆก็จะช่วย ดึงหรือใช้มีดผ่าตรงขั้วเพื่อเอาที่ขมๆ ออก จนโตก็ยังทำ เวลาจะกินดอกแค จนมาอยู่เชียงใหม่ ที่เชียงใหม่จะลวกทำเป็นมัด ก็สังเกตว่าเขาไม่ได้เอาที่ขมออก แต่กินแล้วทำไมไม่ ขม ตั้งแต่นั้นมาเวลา แกงส้มหรือ ลวกจิ้มน้ำพริก ก็ไม่เอาออกเลยค่ะ ลองดูนะคะ ที่เชียงใหม่มีดอกแคแดงด้วย ทราบใช่ไหมค่ะ ว่า แค ที่มีประโยชน์มากๆ อยู่ที่ยอด ถ้าใครท้อง ให้กินบ่อยๆนะคะ ส่วนเราปกติถ้าไม่ปลูกเองก็จะหากินยากสำหรับยอดแค แล้วเวลาปลูก เจ้าเพลี้ยแป้งชอบเหลือเกิน ยอดแคมีแคลเซียมมาก วิตามินมาก ฯ เกาหลีเหนือ นำต้นแคปลูกเพื่อนำยอด รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง เป็น 1 ใน 15 ขุนพลของเขาที่ไม่มีอะไรแทนเหมือนผักบ้างอย่างที่หาแทนได้ ไทยเราโชคดี มีให้กินตลอด แต่ส่วนใหย่เก็บดอกกิน ยอดไม่ค่อยกินกัน เหมือนมะรุม กินแต่ฝัก ทั้งๆที่ประโยชน์มากๆ อยู่ที่ใบ นี่ล่ะประเทศเราของดีๆทราบที่หลังทุกที ฟักข้าวก็เช่นกัน ของดีมากอยู่ที่เมล็ดแก่ และเยื้อหุ้มเมล็ดสีแดงส้มลูกแก่ ก็ไม่เห็นมีฝ่ายไหนเผยแพร่ให้ประชาชน ทราบ ปล่อยหล่นทิ้งกันหมด กินแต่ลูกอ่อนและยอด จีน ญี่ปุ่น เวียตนาม เขาทราบกันดี เช่น ข้าวที่หุงด้วยเยื้อหุ้มเมล็ดสีแดงเป็นข้าวมงคลของเวียตนาม ประเทศเราจดสิทธิบัตรแล้วโดยม.มหิดล คือ สารในเมล็ดฟักข้าวแก่ มีฤทธิ์ ฆ่าเชื้อ มะเร็งและเอดส์ ส่วนเยื้อหุ้มสีแดงสัมสกัดเป็นส่วนผสมเครื่องสำอางลดรอยเหี่ยว ลึก ของผิวหน้าเป็นต้น ก้ไม่บอกประชาชนเลย คนไทยน้อยคนที่จะทราบ เอา.....คุยไปคุยมา เลยเรื่องดอกแค ได้ลงภาพกล้วยไม้ฝีมือคนไทยเลี้ยงให้ชมนะคะ

แดง

เขียนเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2009 16:48 น. ()

สวัสดีค่ะ แกงดอกแค แก้ไข้หัวลม ภูมิปัญญาไทย เจ๋งค่ะ

ขอบคุณนะคะที่ไปแลกเปลียน 4 เดือน เลี้ยงช้างรอบคอได้สวยจัง

และถูกมากนะคะ ที่ขอนแก่น กำละสองสามต้น ก็ ประมาน 100

เลี้ยงแคทก็เก่งนะคะ ตั้ง หกดอก...นี่5 ดอกก็ว่าเยอะแล้วค่ะ

สุวรรณา

เขียนเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2009 18:48 น. ()

สวัสดีพี่กานดาค่ะ น้องสนใจน้ำมันมะพร้าวค่ะ ดอกแคไม่ขมหรอกค่ะ มะรุมน้องก็ปลูกนะคะ ยังไม่มีฝักน้องก็เด็ดใบลวกกินกับน้ำพริก ทราบว่าแคลเซื่อมที่ใบมีบริมาณมากค่ะ หาซื้อก็ไม่สด มาถึงเราใบก็หลุดจากก้านแล้วค่ะ น้องเลยหามาปลูกได้กินยอดกินใบ ทอดกับไข่ก็อร่อยค่ะ สมุนไพร ประโยชน์มหาศาลนะคะ

สุวรรณา

เขียนเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2009 18:56 น. ()

แคทรียาของอาจารย์สวยมากนะคะ แคทรียาที่ฝากที่บันทึกอาจารย์ดอกไม่สวย แต่หอมมากเชียวค่ะออกซองทีำไรเฝ้าบำรุงให้เค้าค่ะ ลุ้นอีกว่าซองจะปลอมหรือปล่าว น้องจะปลูกในลูกมะพร้าวรู้สึกเค้าชอบความชื้น ผมของลูกสาวที่น้องตัดก็มาขมวดไว้ในกอแคทรียานี่ค่ะ เป็นอาหารให้กล้วยไม้ได้ค่ะ

สามสัก(samsuk)

เขียนเมื่อ 5 พฤศจิกายน 2009 20:48 น. ()

ดีจัง กับสาระความรู้สู่สุขภาพ ที่เกี่ยวข้องกับภูมิปัญญาไทย
ขอบคุณมากครับ ที่นำเสนอสาระดีๆ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ

สุวรรณา

เขียนเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2009 15:59 น. ()

ด้วยความยินดีค่ะคุณสามสัก ยังติดหนี้้เรื่องพรมมิ อยู่นะคะ เนื่องจากวิจัยเรื่องพรมมิหายไปจากชั้นหนังสือ สนใจวิดีโอพรมมิมั้ยคะ อย่างไรก็แจ้งมาอีกครั้งนะคะ