ในขณะที่นักดนตรี และนักประพันธ์ทางยุโรปเพลิดเพลินกับแนวทางการประพันธ์ในรูปแบบ Serialism (Twelve – Tone) ในอเมริกามีนักดนตรี และนักประพันธ์คนหนึ่งที่ชื่อว่า John Cage กำลังพัฒนาแนวทางการประพันธ์ในแบบของตนอยู่อย่างเงียบๆแนวคิดของเขาคือ ทำอย่างไรเพื่อที่จะให้บทประพันธ์นั้นมีความเป็นตัวของตัวเอง และไม่สามารถคาดหมายได้ (Indeterminate)
Cage ไม่ได้จำกัดประเภทของเสียงที่จะนำมาใช้ในงานประพันธ์ เขาพยายามที่จะขยายขอบเขตของการนำเสียงทุกอย่างมาใช้ไม่ว่าจะเป็นเสียงที่ ไม่ใช่เสียงเครื่องดนตรี (Non – Musical Sound) และเสียงที่พบได้ทั่วไป (Found Sound) งานประพันธ์ชิ้นแรกของ Cage ที่นำ Found Sound มาใช้ คือ Imaginary Landscape #1 ประพันธ์ขึ้นในปี 1939 โดยการใช้เครื่องเล่นแผ่นเสียงเป็นอุปกรณ์การทำงาน และตามมาด้วย William Mix ซึ่งเป็นผลงานชิ้นแรกที่ใช้เทปแม่เหล็ก (Magnetic Tape) ในปี 1951 ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง John Cage, Earle Brown, Morton Feldman, Christian Wolf, David Tudor, Louis และ Babe Baron ผลงานชิ้นนี้นำออกแสดงในเทศกาลดนตรีร่วมสมัย ณ มหาวิทยาลัยอิลินอยส์ ปี 1953
งานประพันธ์ของ Cage ส่งผลต่อความคิดของนักประพันธ์ดนตรีในอเมริกาอย่างมากถึงแม้ว่าในช่วงแรกๆจะ ไม่ค่อยถูกรสนิยมของคนส่วนใหญ่สักเท่าไหร่แต่มันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ต่อการพัฒนา และการแตกแขนงในการนำ Found Sound มาใช้ในงานประพันธ์โดยนักประพันธ์ ศิลปิน และงานแสดงทางศิลปะที่กำลังเกิดขึ้นมากมายในช่วงเวลานั้น