การล้างพิษด้วยน้ำมะนาว : AAR วันที่ 4


หลังจากที่ผ่านไป 4 วันแล้วสำหรับการล้างพิษด้วยน้ำมะนาว ก็ขอบอกอย่างสั้น ๆ ได้แต่เพียงว่า "สบาย..."

จะลำบากหน่อยก็เป็นวันแรกที่จะ "เมาหัว" เพราะร่างกายกำลังปรับเนื้อปรับตัว

วันที่สองก็ลำบากเรื่อง "ไม่ถ่าย" ก็เลยอึดอัด (คิดไปเอง)

วันที่สามลำบากเรื่อง "ถ่ายมาก" ถ่ายมากแล้วไม่มีแรง เดินตุ้บปั๊ด ตุ้บเป๋ไป

วันที่สี่ไปไหนมาไหนก็สบาย เดินทางไปตรวจเลือด ไปไหน มาไหนก็ไม่เห็นจะมีอะไร ใช้ชีวิตได้ตาม "ปกติ..."

สำหรับตอนกลับมา เมื่อคืน แล้วก็ตอนเช้าก็ไม่มีอะไร...

คำว่าไม่มีอะไรนี้หมายถึง ไม่มีอะไรแปลกไปสำหรับชีวิตนี้ ทุกอย่างเป็นปกติ แทบจะลืมไปด้วยซ้ำว่าไม่ได้ทานข้าวมา 4 วันแล้ว ร่างกายก็ใช้ทำความดีได้อย่างเป็น "ปกติ"

เมื่อวานก็โทรไป "ปั่น" โยมน้องสาว บอกว่ามาอ่านค่าผลตรวจเลือดในบันทึกนี้ (การล้างพิษด้วยน้ำมะนาว : ผลการตรวจเลือดเมื่อผ่านไป 3 วัน) ให้หน่อยซิ

บอกกับโยมน้องสาวว่าไม่ต้องกลัวผิด รู้อย่างไรก็อ่านไปอย่างนั้น รู้แค่ไหนก็ให้ขวนขวายหาความรู้มาเพิ่มเติมให้ได้มากเท่านั้น

วันนี้อากาศดี บรรยากาศ "สบาย ๆ" แดดเริ่มส่องหน้าอีกครั้ง อีกสักพักหนึ่งหลังจากดื่มน้ำมะนาวแก้วแรกแล้วก็คงจะต้องออกไปทำงานต่อ

ตอนนี้ผ่านไปแล้ว 4 วันก็คงจะเหลือวันและเวลาที่จะสามารถล้างพิษด้วยสูตรมะนาวในครั้งนี้อีก 3 วัน

ครั้งนี้เราตั้งใจไว้แต่ครั้งแรกแล้วว่า จะทำเพียง 7 วัน (ตามที่กล่าวไว้ในบันทึกนี้ BAR ก่อนล้างพิษด้วย "น้ำมะนาว..." )

ซึ่งเหตุผลหลักในการตัดสินใจทำเพียง 7 วัน (ตามสูตรแล้วสำหรับคนทั่วไปต้องทำ 14 วัน) ครั้งนี้มีหลายข้อ คือ

  1. เราทานอาหารมังสวิรัติมานาน (รวมระยะเวลาแล้วเกือบ ๆ 3 ปี)
  2. เราทานอาหารวันหนึ่งมื้อเดียวมานาน (รวมระยะเวลาแล้วเกือบ ๆ 3 ปี)
  3. เราไม่ได้ทานเหล้าและสูบบุหรี่ (รวมระยะเวลาแล้วนับไม่ถูก)
  4. เราไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นโรคร้ายแรง (มะเร็ว เบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง ฯลฯ)
  5. น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ปกติ (ความสูง - 110 สำหรับผู้ชาย)
  6.  และที่สำคัญที่สุด เราเข้าคอร์ส Detox ชีวิตตามหลักสูตรของพระพุทธเจ้ามานานแล้วจนชีวิตนี้ทำอย่างเป็นปกติ

ผลในวันนี้คือวันที่ 5 พรุ่งนี้ในวันที่ 6 และ 7 จะเป็นอย่างไร ถ้าหากเรายังมี "ลมหายใจ" อยู่ จะมาถอดบทเรียนแห่งการเรียนรู้ครั้งนี้ให้ทราบกันอีกทีนะ...

 

หมายเลขบันทึก: 305735เขียนเมื่อ 14 ตุลาคม 2009 08:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ

ภายนอกปกติ อืมแสดงว่า สูตรนี้ท่าทาง จะมีคนสนใจ

เอาไปใช้ประโยชน์ได้มากโข

 

วันนี้ พี่ ๆ ที่ทำงานขอสำเนาสูตรที่ท่านสุญญตาให้มากันใหญ่เลยเจ้าค่ะ

สนใจกันหลายท่าน แต่ส่วนใหญ่เป็นคน ฉลาด คิดมาก

แต่ก็แล้วแต่ แต่ละท่านเถิด

หนูมีหน้าที่ให้ ก็ให้ไปตามที่ขออนุญาตท่านนั่นแหละเจ้าค่ะ

 

กราบขอบพระคุณในความเมตตาเจ้าค่ะ

ขอให้ท่านทำสำเร็จโดยที่สุขภาพแข็งแรงดีขึ้นกว่าเดิมคะ

ช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ (วันที่ 5 ของการล้างพิษด้วยน้ำมะนาว)

ตอนเช้าทุกอย่างก็ราบรื่นเป็น "ปกติ" แต่ปัญหามันก็มาเกิดขึ้นในช่วงบ่าย ที่เราดัน "พิเลน" ไปทดลองดื่มน้ำหวานที่มีส่วนผสมหลักเป็น "น้ำกระเจี๊ยบ"

เราต้องการทดลองว่า ถ้าเราดื่มน้ำหวานชนิดอื่นเข้าไปแล้วมันจะเป็นอย่างไร เพราะโดยปกติ เราทานอาหารเพียงมื้อเดียว ในช่วงบ่ายและเย็นนั้นก็มีแต่เพียงน้ำหวานที่ผลเล็กกว่า "มะตูม" และไม่มี "กาก" เจือปนเท่านั้นที่จะดื่มได้

ครั้งนี้เราก็เลยใช้น้ำหวานที่ดื่มกันทั่ว ๆ ไปโดยดื่มเข้าประมาณ 100 CC

ผลปรากฎว่า "เกือบแย่"

เพราะอาการ "หวิว ๆ" เหมือนกับจะเป็นลม คลื่นไส้เหมือนกับจะอาเจียน

ประกอบกับตอนนั้น "เฮียหมู" นำหินอ่อนจากสระบุรีมาส่งให้เพิ่มเติมก็เลย "เจิ่น" ออกไปดูเขาขนหิน ทำให้ช่วงเวลาที่จะต้องดื่มน้ำมะนาวครั้งที่คลาดเคลื่อนออกไปร่วม 4 ชั่วโมง

พอกลับมาจากขนหินลงก็เริ่มรู้สึกว่า "ไม่ค่อยดี" มึน ๆ วิงเวียน คล้ายจะเป็นลม ก็เลยผสมน้ำมะนาวดื่ม แต่ก็ดื่มไม่ได้เพราะว่าจะ "อาเจียน" ดื่มไปได้แค่ "ครึ่งแก้ว" ประมาณ 100 CC ก็ต้องล้มตัวลงไป "นอน..."

อื่ม... ก่อนหน้านั้นระหว่างที่คั้นน้ำมะนาวก็หาข้อมูลเกี่ยวกับ "น้ำกระเจี๊ยบแดง" ไปด้วย ก็ได้ทราบ "สรรพคุณ" ตัวหนึ่งที่น่าจะมีปัญหาคือ "ลดความดันโลหิตสูง" แต่ก็ได้เพียงตั้งสมมติฐานไว้ว่า ความดันของเราลดวูบลงไปเพราะเจ้า "กระเจี๊ยบแดง" นี่หรือเปล่าน๊า...?

เพราะปัญหา "วูบ ๆ" นี้เกิดจากมีท่านหนึ่งที่เคยล้างพิษด้วยน้ำมะนาวนี้ ตอนแรกก็ไม่มีอะไร ดีมากเลยแหละ ทุกอย่างราบรื่น ร่างกายดีขึ้น แต่มีปัญหาเมื่อ "หมอ" ผู้ดูแลรักษาให้ท่านมาเป็นเวลากว่า 20 ปี เป็นหมอประจำตัวเลยก็ว่าได้ แนะนำ (สั่ง) ให้ท่านทานยา "ลดเบาหวาน" เพราะตอนดื่มน้ำมะนาวนี้ยาลดเบาหวานก็ต้องหยุดไปด้วย

พอหมอสั่งให้ทานยาลดเบาหวานปุ๊บ ก็เหมือนจะ "วูบ" ปั๊บ "ยาลดเบาหวานมันมีผลต่อการดึงน้ำตาลในเลือดหรือเปล่าน๊อ...?"

คือก่อนนั้นที่ทำมาเป็นอาทิตย์สองอาทิตย์ที่ไม่ได้ทานยาลดความหวานก็ไม่ได้เป็นอะไรเลย ปกติดี ร่างกายดีขึ้น จนผลตรวจเลือดออกมาหมอยัง "งง" ว่าไปทำอะไรมา ร่างกายถึงดีขนาดนี้...?

แต่ทว่า ตามหลักการแล้ว เคยเป็นเบาหวานก็ต้องทานยาเบาหวาน ก็เลยต้องปฏิบัติตามหลัก ตามการ

สำหรับเรื่องนี้ก็ต้องให้ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญลองวิเคราะห์กันอีกทีว่าจะเป็นอย่างไร ทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้น..?

ตอนนี้ก็เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว ตอนเช้านี้ก็จะทดลองดื่มยาชง "ฟิตเน่" อีกหนึ่งซอง เพราะเราลองสังเกตุว่า คนอื่นที่เขาดื่มฟิตเน่เขาถ่ายกันหลายครั้ง เราดื่มยาชง "มะขามแขก" ไม่ค่อยจะถ่ายกับเขาเลย (เมื่อวานถ่ายไปครั้งเดียว และสิ่งที่ถ่ายออกมามี "สีดำ")

เราลองไปเทียบปริมาณยาชงทั้งสองตัวพบว่า

ฟิตเน่ประกอบด้วย ใบมะขามแขก 1500 มก. ฟักมะขามแขก 500 มก. และ ผลสัมแขก 150 มก. ซึ่งเขาบอกไว้หลังซองว่า "ใน 1 ซองกระดาษชนิดชง มี 2.65 กรัม)

ส่วนยาชงมะขามแขกของเรานั้นเขาก็เขียนข้างห่อไว้ว่า หนึ่งซองมีปริมาณ 1 กรัม (สงสัยจะน้อยไปหน่อย) วันนี้ก็เลยจะลองเปลี่ยนยาระบายดู ถ้าได้ผลอย่างไรจะแจกแจงรายละเอียดให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท