เรื่องของพิธีทำขวัญนาค เป็นประเพณีที่มีมานานกว่า 150 ปี ในสมัยก่อนมีกฎระเบียบที่เคร่งครัดกว่าในปัจจุบันนี้มาก เมื่อถึงวันที่ชายไทยผู้ที่นับถือศาสนาพุทธ มีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์และได้ลงกำหนดการที่จะบวชเอาไว้อย่างแน่นอนแล้ว พ่อแม่พี่น้องญาติผู้ใหญ่ทุกคนจะคอยเฝ้าดูแลและคอยระแวดระวังภัย คอยตักเตือนใจผู้ที่จะบวชเอาไว้ให้หมั่นระวังตนเอง เพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นซึ่งถ้ามีอะไรเกิดขึ้นแล้วเดี๋ยวจะไม่ได้บวช ยิ่งเรื่องผู้หญิงด้วยแล้วต้องตัดโดยเด็ดขาด
ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นี้เอง จึงทำให้พ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย และญาติผู้ใหญ่ของผู้ที่จะบวชหวาดระแวงเกรงว่าลูกจะมีมารผจญ จึงต้องคอยตักเตือนลูกหลานที่จะบวช (ผู้แสวงบุญ) ให้ตั้งมั่นอยู่ในรสพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า อย่าปล่อยให้กิเลสและมารร้ายทั้งหลายตามมาราวี มาบั่นทอนความดี ความตั้งใจที่ได้เป็นที่หวังของเราและญาติทั้งหลายลงได้
โอกาสที่บุคคลจะทำความดี ได้ทดแทนบุญคุณของบิดา มารดา ได้บำเพ็ญตนให้สมกับที่ได้เกิดมาเป็นพุทธมามกะ จะต้องทำใจให้แน่วแน่ ตัดความโลภ สิ่งยั่วยวนทั้งหลายได้ นับว่าเป็นบารมีอย่างแรงกล้าที่จะเพิ่มกุศลผลบุญให้กับตนเองและญาติทั้งหลาย โดยเฉพาะบิดา มารดาได้ปลื้มในกุศลที่ผู้บวชได้สร้างไว้
การทำขวัญนาคเกิดจากความเชื่อของบุคคลที่ว่า คนเราเกิดมา มีธรรมชาติอย่างหนึ่งอยู่ประจำตัว เป็นเครื่องพิทักษ์รักษาตัวตนของทุกคน สิ่งลึกลับที่ว่านั้น เรียกกันว่า “ขวัญ” ถ้าขวัญของผู้ใดอยู่กับตัว บุคคลผู้นั้นจะอยู่เย็นเป็นสุขเป็นปกติ แต่ถ้าขวัญของผู้ใดหนีไปจากตัว มักจะมีอันเป็นไป ทำให้ผิดปกติ ดูแต่เมื่อตอนยังเด็ก ตัวเล็ก ๆ ตกใจร้องไห้ พ่อแม่ก็จะเข้ามาปลอบโยนเรียกขวัญให้ว่า “ขวัญเอ๊ยขวัญมา มาอยู่กับเนื้ออยู่กับตัว”
พอมาถึงวันที่ชายหนุ่มจะเข้าพิธีอุปสมบท จะต้องปลงผม โกนคิ้ว โกนหนวดเคราออกไป ขวัญที่เคยเกาะติดอยู่หัว (ศีรษะ) ก็หายไปด้วย เมื่อไม่มีขวัญ เรียกว่าขวัญหนีไปเสียแล้ว ผู้ที่เป็นเจ้าของก็ย่อมที่จะตกใจ บางทีละเมอเพ้อพบไปก็มี ขวัญเสีย หรือเสียใจ จึงต้องหาผู้ที่มีความรู้มาเรียกขวัญให้ เรียกว่า “ทำขวัญนาค”
หลักการของการทำขวัญนาคนั้น ตามกติกาโบราณ ครูของผม ชื่อ พ่อคุณวัน มีชนะ ท่านบอกว่า “คนที่จะมาสอนคนอื่นเขาได้ อย่างน้อยก็ต้องมีอายุมากกว่า” เรียกว่าอาวุโส หรือเป็นผู้หลักผู้ใหญ่มาประกอบพิธีทำขวัญนาค และเน้นด้วยนะว่าหมอทำขวัญจะต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น (หมอผู้หญิงไม่มี) ต่อมาในยุคปัจจุบันความเชื่อเก่า ๆ ได้เปลี่ยนไป หมอทำขวัญหญิงเข้ามาทำพิธีทำขวัญนาค หมอทำขวัญวัยรุ่น หนุ่ม สาวเข้ามาเป็นหมอขวัญกันมากขึ้น ในส่วนที่ดีคือ เยาวชนคนรุ่นใหม่จะได้มีโอกาสซึมซับ รับรู้เรื่องราวเก่า ๆ และช่วยสานต่อประเพณีทำขวัญนาคเอาไว้ให้ยาวนานต่อไป
คุณสมบัติของหมอทำขวัญ (พ่อคุณวัน มีชนะกล่าวไว้ตอนที่ผมฝึกทำขวัญนาค)
มีเพื่อนครูทั้งรุ่นน้อง รุ่นหลานหลานคนอยากเรียนรู้วิธีการร้องทำขวัญนาคซึ่งในปัจจุบันจะหาหมอขวัญรุ่นครูมาสอนให้ก็หาได้ยาก น้อง ๆ บางคนรับราชการ บางคนทำงานอาชีพอิสระแต่อยากเรียนรู้เพื่อศึกษาเอาไว้เป็นวิชาติดตัว หากมีคุณสมบัติตามที่กล่าวมาข้างต้น ประกอบกับคุณสมบัติด้านเสียงร้องที่พอจะน่าฟังก็น่าที่จะฝึกหัดภูมิปัญญาด้านนี้ได้ ที่สำคัญคือ จะต้องมีใจรักและศรัทธาในพิธีกรรมนี้ เป็นอันดับแรกเสียก่อน
ไฟล์เสียงร้อง บันทึกสดในพิธีทำขวัญนาค บางตอน (เปิดที่บล็อกหน้าประวัติของผม คลิกที่รูปเล็กอยู่มุมบนซ้ายแล้วเปิดไฟล์ล่าสุดทางขวา ไฟล์อัลบั้ม จะเป็นรูปตัวโน๊ต รับฟังเสียงได้ครับ) หรือเลื่อนกลับไปที่ส่วนบนสุด มองที่รูปเล็กด้านบนซ้าย จะมีข้อความใต้รูป ให้คลิกที่ไฟล์ จะสามารถเชื่อมต่อกับไฟล์เสียงที่เป็นรูปตัวโน๊ตมี 3 ไฟล์ ความยาวประมาณไฟล์ละ 20 นาที ครับ (เป็นไฟล์เสียงที่ถูกบีบข้อมูลแล้ว)
ตอนที่ 1 ไหว้ครู (ชุมนุมเทวดา ไหว้ครู)
ตอนที่ 3 ปฏิสนธิ (กำเนิดของคน)
ตอนที่ 6 สอนนาค (คำแนะนำ,นาคขอสมา)
ชำเลือง มณีวงษ์ เข็มเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ รางวัลผู้สร้างสรรค์คุณประโยชน์
ต่อประชาชนโดยส่วนรวมอย่างดียิ่งของจังหวัดสุพรรณบุรี ปี 2552
ได้รับความรู้และมีความเข้าใจในประเพณีด้านนี้มากขึ้น เพราะว่า การที่คนเราจะทำหน้าที่ใด ๆ ก่อนอื่นจะต้องสำรวจตนเองว่า มีความสามารถพิเศษและมีจุดเด่นอะไรที่เหมาะสมกับงานนั้น ๆ บ้าง ขอบคุณ ที่นำสิ่งดี ๆ มาฝาก
อาจารย์ครับผมขอเรียนถามว่า เพลงไทยเดิมที่ใช้ประกอบการแหล่คือเพลงอะไรครับ
ตอบความเห็นที่ 1
ตอบความเห็นที่ 2
สมัยนี้มีแต่วัยรุ่นหญิงเด็กๆที่มาทำขวัญนาคกันเยอะไปหมด ความคิดผมว่ามันไม่สมควรที่จะมีแบบนี้ เวลาทำขวัญนาคแต่ละทีเหมือนไม่ได้ให้ความสำคัญกับการทำขวัญนาคเท่าไร จะสนใจกันการ live สดกันสะมากกว่า การทำขวัญนาค บางคนมาเป็นหมดทำขวัญนาคโดยยังไม่บรรลุนิติภาวะเลย แค่ร้องเพลงได้ก็เป็นหมอได้แล้วครับ ผมว่ามันไม่ควร
คุณสมบัติของหมอทำขวัญ (พ่อคุณวัน มีชนะกล่าวไว้ตอนที่ผมฝึกทำขวัญนาค)
หมอทำขวัญจะต้องเป็นคนดี กระทำกรรมดี มีใจสะอาดและบริสุทธิ์จะต้องเป็นผู้ที่อาวุโสกว่าผู้ที่จะบวช (หมอที่เป็นโหรา)จะต้องเป็นที่นับถือของบุคคลในท้องถิ่น เป็นที่คารพรักและศรัทธาแต่งกายให้ดูสภาพเรียบร้อย (สวมชุดพราหมณ์, ชุดขาว, ชุดสุภาพ)ไม่ดื่มสุราหรือของมึนเมา ไม่เกี่ยวข้องกับอบายมุขทั้งปวง
หมอทำขวัญต้องมีคุณสมบัติตามที่ จขกท.ก่าวมามันถึงจะถูกครับ ผมก็30แล้วแต่ยังไม่ได้บวชเลย ถ้าผมบวชคนที่จะมาทำขวัญผมต้องไม่ใช่แบบสมัยนี้แน่นอนครับ