"Trust" ...


ความไว้เนื่อเชื่อใจเป็นสิ่งที่สังคมไทยเรากำลังขาดนะครับ...

          "Trust" ความไว้เนื่อเชื่อใจเป็นสิ่งที่สังคมไทยเรากำลังขาดนะครับ คำกล่าวนี้ผมได้ยินเมื่อครั้งไปฟังสัมนาเรื่อง "การประเมินโครงการ" ที่งาน Research Expo' 2009เมื่อประมาณสองเดือนที่แล้วครับ...

        

          ซึ่งความไว้เนื้อเชื่อใจนี้มีความสำคัญในทุก ๆ หน่วยของสังคมเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อน โรงเรียน ที่ทำงาน หรือจะเป็นสมาคมหรือการรวมกลุ่มใด ๆ ก็ตาม ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของ "การจัดการความรู้" นะครับ...

 

 

          เพราะหากคนเราเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกันแล้ว การอยู่ร่วมกันก็จะเป็นไปด้วยความสบายใจ เกื้อกูลย์ แบ่งปันกันได้อย่างเต็มที่และเต็มใจ การแสดงออกใด ๆ ก็เป็นไปอย่างธรรมชาติโดยปราศจากการหวาดระแวงใด ๆ นะครับ...

 

          และสิ่งที่จะยึดเหนี่ยวความเป็น "กลุ่ม" "องค์การ" หรือว่า "ครอบครัว" ให้คงอยู่ได้ ก็คือความไว้เนื่อเชื่อใจนี่แหละครับ ซึ่งเมื่อใดที่ความไว้เนื้อเชื่อใจนี่ถูกทำลายลง ความเหนียวแน่นภายในกลุ่มก็จะหมดไป หรืออาจจะสูญสิ้นความเป็นกลุ่มหรือการรวมตัวไปเลยก็ได้นะครับ...

 

          ไม่เฉพาะแค่ความไว้เนื่อเชื่อใจซึ่งกันและกัน ภายในกลุ่ม หรือระหว่างกลุ่มเท่านั้นนะครับ แม้แต่กับตัวเราเอง ความไว้เนื่อเชื่อใจตัวเราเองก็สำคัญนะครับ เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของการเห็น "คุณค่า" และความ "เชื่อมั่น" ในตัวเราเองด้วยนะครับ...

 

 

หมายเลขบันทึก: 305594เขียนเมื่อ 13 ตุลาคม 2009 17:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (30)

สวัสดีค่ะ

Vij เคยได้ยินคำพูดเหล่านี้...ก่อนที่จะเห็นครอบครัวหนึ่งแตกแยก...ก่อนการแตกแยก ภรรยาจะพูดว่า "อย่าทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจ...ที่ฉันมีต่อคุณ" กับอีกครั้งหลังครอบครัวแตกแยก เช่นกันภรรยาพูดว่า "นับจากวันนี้ไปอย่าได้หวัง...ว่าฉันจะไว้เนื้อเชื่อใจคุณอีกต่อไป"...แน่นอนที่สุดว่าการเห็น "คุณค่าและความเชื่อมั่น" ในตนเองของภรรยานั้น ย่อมถูกบั่นทอน-ลดน้อยลง ด้วยสถานการณ์อันเกิดจากความไม่เชื่อใจ

Vij เชื่อมาตลอดว่า "ความไว้เนื้อเชื่อใจกัน" เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ให้เหนียวแน่นและยืนยาว...มนุษย์เราจะต้องการอะไรมากไปกว่าความไว้ใจซึ่งกันและกัน...เขาและเราย่อมมีความรู้สึกไม่แตกต่างกัน...

ขอบพระคุณมากค่ะ

แล้วอะไรเป็นเหตุให้ความไว้เนื้อเชื่อใจลดน้อยลงในสังคมทุกหน่วยรวมถึงครอบครัวด้วย.ล่ะคะ....เพราะว่าสังคมและครอบครัว ขาดความสัมพันธ์ และขาดการสื่อสารกัน..จึงทำให้ฝ่ายหนึ่งคิดไปเอง (ตามเนื้อผ้า)  หรือตามที่เห็น  จึงเกิดการขาดความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน...มีส่วนบ้างไม๊ค่ะ

เรื่องของ Trust เป็นเรื่องที่ ต้องใช้ใจ คิดวิเคราะห์ ด้วยหลัก ตรรก ปัญญา เหตุผล .... ที่สำคัญ มันคงต้องอยู่คู่กับ

" ความซื่อสัตย์" ที่จะเคียงคู่กันไป อย่างสง่างาม ยั่งยืน ...ค่ะ

  • เห็นด้วยตามป้าเหมียว
  • ในสังคมชาวกะเหรี่ยงที่ผมเคยประสบมา - เขามีสัจจะ จริงใจ มีหลายครั้ง ที่เขารับปากรับคำงาน/กิจกรรมใดไว้ ผ่านไปเกือบปี เขายังจำได้ และเขาก็ทำตามที่เขาพูดไว้ โดยไม่ต้องมีสัญญา แต่อย่างใด  ถามว่า....
  • สังคมชาวกะเหรี่ยง..เขาทำได้เพราะอะไร...

เข้ามาต่อยอดความคิดเห็นป้าเหมียวอีกรอบค่ะ...เห็นด้วยกับป้าเหมียวอย่างยิ่ง...เพราะฉะนั้น การปฏิบัติให้เห็นกันทั้งสองฝ่าย จึงเป็นสำคัญสำหรับของความไว้เนื้อเชื่อใจของกันและกัน...ใช่ว่าฝ่ายหนึ่งเชื่อใจอีกฝ่าย ในขณะที่อีกฝ่ายทำตัวไม่น่าเชื่อถือ...ดังนั้น เมื่ออยากให้เราไว้ใจใครหรือใครไว้ใจเรา ทั้งเขาและเราจึงต้องทำให้ความเชื่อมั่นเชื่อใจในกันและกัน ว่าเราไม่ได้เหลวไหล ไม่ได้เสเพล...ยังคงเชื่อว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูดเสมอ...แต่ขณะเดี่ยวกัน "คำพูด" ก็เป็นตัวย้ำเพื่อสร้างความเชื่อมั่นของการกระทำด้วยเช่นกัน...แน่นอนที่สุดว่า "การสื่อสาร" ย่อมเป็นตัวเชื่อมโยงในความสัมพันธ์เหล่านั้นเสมอค่ะ...(อิๆๆๆ Vij เข้ามาตอบเสมือนว่าเป็นเจ้าของบันทึกยังไงยังงั้น)

ครับ... P คุณ Vij

ขอบคุณนะครับที่เข้ามาแลกเปลี่ยนพร้อมต่อยอดอีกครั้ง...

ผมว่า...ความเชื่อใจคือจุดเริ่มต้นของครอบครัวเป็นสิ่งที่คนสองคนมีให้กันนะครับ...

และหลาย ๆ ครอบครัวก็จบสิ้นลงเมื่อความเชื่อใจนี้ถูกทำลายลงนะครับ...

ขอบคุณอีกครั้งครับ...

 

อ่านจบ...ครูนกถึงกิจกรรมหนึ่งในค่ายวิทยาศาสตร์...คือรุ่นพี่เขาให้รุ่นน้องผูกตาหมดทุกคน...ปิดไฟ...เคลื่อนไหวและใช้เสียงน้อยที่สุด...แล้วให้รุ่นพี่เข้าไปดูแลน้อง...ให้รุ่นพี่นำทางน้องไปสู่จุดหมายปลายทางที่ผู้นำกิจกรรมได้กำหนดไว้....ซึ่งในช่วงแรกด้วยความไม่สนิท ความไม่รู้จักรุ่นน้องจะไม่กล้าเดินตามไปในทิศทาง...ที่รุ่นพี่นำไป...แต่เมื่อเวลาผ่านไปด้วยคำพูด..หรืออาจจะความอบอุ่นที่ผ่านฝ่ามือไป...ทำให้ความไว้วางใจค่อยเพิ่มๆขึ้น....เพราะฉะนั้นสิ่งที่เสริมสร้างความไว้วางใจได้...ก็น่าจะเริ่มจากการทำความรู้จัก...รู้จักเขารู้จักเรา  แล้วก็ให้โอกาส....เมื่อเวลาผ่านไปความไว้วางใจก็จะเกิดขึ้นได้ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วความสำคัญอยู่ที่เราจะรักษา"ความไว้วางใจ" ในตัวเราและในตัวเขาได้หรือเปล่า...555 อันนี้ก็ยังสงสัยค่ะ

สวัสดีค่ะ

  • ความไว้วางใจ...เป็นปัจจัยให้เกิดความรักและความศรัทธานะคะ
  • พัทลุง...น่าอยู่มากค่ะ  อากาศดี เย็นสบาย

ครับ... P  ป้าเหมียว

ผมว่าความสัมพันธ์และการสื่อสารมีส่วนอยู่มากครับ...

แต่อีกประเด็นที่สำคัญคือ ผู้คนในสังคมให้คุณค่าของมิติแห่งจิตใจลดน้อยลงนะครับ...

เชื่อมั่นในสิ่งต่าง ๆ ภายนอกมากกว่าภายในจิตใจทั้งของตัวเราเองและของผู้คนรอบข้างนะครับ...

ขอบคุณมากครับผม...

 

"Trust" ความไว้เนื่อเชื่อใจ

กว่าจะได้มาจากใครสักคน ยากมากมายหรืออาจใช้เวลานานพอดู แต่ถ้า เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจแล้วก็ยากที่จะเปลี่ยนแปลง

เช่นเดียวกัน กว่าเราจะให้ความไว้เนื้อเชื่อใจกับใครสักคนก็ยากและใช้เวลา แต่ถ้าเราเชื่อใจใครแล้ว ก็จะเป็นเช่นนั้นจนกว่า

ใครคนใดคนหนึ่งทำลายความเชื่อใจที่เคยมีให้หมดไป

แต่ความเชื่อมั่นในตัวเอง อาจจะถูกทำลายทั้งจากตัวเราเองและจากคนอื่น ฉะนั้นเราต้องดูแลรักษาสภาพจิตใจเราให้ดีจะได้เป็นเกราะป้องที่แข็งแกร่งใช่มั้ยคะ

ขอบคุณค่ะ

  • การสร้าง trust ต้องใช้ความดีงาม ความเก่ง ความยุติธรรม เสียสละ อดทน เห็นประโยชน์ส่วนรวม
  • ที่สำคัญ ค่อยๆ เกิด
  • ใช้เวลาด้วยค่ะ

สวัสดีค่ะ ....

เข้าใจว่า สังคมเกิดความเห็นแก่ตัวมากขึ้น มีคำว่าไว้เนื้อเชื่อใจน้อยลงทุกวัน

เพราะปัญหา เกิดจากความระแวง ความกลัวว่าผลประโยชน์ของตนจะถูกผู้อื่นมาเบียดบัง....

หากลดความเห็นแก่ได้ เห็นแก่ตัวลงบ้าง ก็จะมี "Trust" มากขึ้นในสังคมเรานะคะ....

อันที่จริง ความเห็นแก่ตัว นี่ คือ ต้นตอของปัญหาอีกมากมายเลยนะคะ...

.....ยัง...หวัง.....ว่า...จะ...มี..อย่าง...นั้น...ได้..สัก...วัน...

ในภาพของการจัดการความรู้"ความไว้เนื้อเชื่อใจ"

สำคัญมากถึงมากที่สุด...ถ้าไม่..คงไม่เกิดขุมปัญญาแน่ๆ

แต่ในภาพความเป็นจริงในสังคมบ้านเรา

คงหาแทบไม่ได้เลย..ทุกคนต่างอยู่บนความระแวงแคลงใจ

ครับ... P คุณ ตะวันลับฟ้า

เห็นด้วยครับผม...

"Trust" คงต้องใช้ "ใจ" ในการสัมผัสนะครับ...

และต้องมีควบคู่กับความ "ซื่อสัตย์" ด้วยนะครับ...

ขอบคุณครับผม...

 

ครับ... P คุณ สามสัก

ผมมองว่าสังคมกะเหรี่ยงเขามี "สัจจะ" และ "ความไว้เนื้อเชื่อใจ" กันนะครับ...

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยังมีให้เห็นอยู่มากในสังคมชนบทนะครับ...

เป็นสังคมที่เห็น "คุณค่า" ของการ "แบ่งปัน" มากกว่าการ "แข่งขัน" นะครับ...

ขอบคุณครับผม...

อีกครั้งครับ... P คุณ Vij

ยินดีอย่างยิ่งครับที่มาช่วยต่อยอดคุณ P  ป้าเหมียว นะครับ...

หากเราพูดคุยกันมากขึ้น เราย่อมเข้าใจกันได้มากขึ้น ความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกันย่อมเกิดขึ้นได้มากขึ้นนะครับ...

แต่ที่สำคัญทั้งสองฝ่ายต้องมี "สัจจะ" ในสิ่งที่ตนเองพูดด้วยนะครับ...

ขอบคุณครับผม...

ครับ... P คุณ noktalay

เป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ Trust อย่างมากนะครับ...

และเป็นกิจกรรมที่เขามักจะนำมาใช้ในกิจกรรม Team Building ในหน่วยงานหรือองต์การต่าง ๆ ด้วยนะครับ...

เพราะองค์การจะประสบความสำเร็จหรือไม่อย่างไร ความไว้เนื้อเชื่อใจของคนในองค์การก็มีส่วนสำคัญไม่น้อยเลยครับ...

ขอบคุณมากครับ...

 

แวะมาขอบคุณที่ไปไปเยี่ยมเยียนให้กำลังในบล็อก นะครับ
พักนี้ ยุ่งอยู่กับการอบรมหลักสูตรพิเศษ...

ศรัทธา-เชื่อมั่น ในมิตรภาพและชีวิต -เสมอไป

ขอบคุณครับ

ครับ... P พี่ ครูคิม

ใช่เลยครับ...

เมื่อเชื่อใจแล้ว ความรักความศรัทธาย่อมเกิดขึ้นได้ไม่ยากนะครับ...

   3624

เห็นภาพที่ไปเที่ยวพัทลุง (บ้านเรา) กันแล้ว บรรยากาศดีนะครับผม...

ขอบคุณมากครับ...

 

ครับ... น้อง lukpla

ใช่ครับ...

ความไว้เนื่อเชื่อใจไม่ได้เกิดง่าย ๆ นะครับ ในบางครั้งก็สร้างให้เกิดขึ้นร่วมกัน...

เมื่อเกิดขึ้นได้แล้วก็ต้องรักษาให้มันยังคงอยู่ต่อไปนะครับ...

ขอบคุณครับผม...

 

ครับ... P พี่ เกด เกศนี บุณยวัฒนางกุล

เห็นด้วยครับ...

Trust จะเกิดขึ้นได้ต้องใช้องค์ประกอบร่วมหลายตัวเลยนะครับ...

และที่สำคัญอาจต้องใช้เวลา...

ขอบคุณมากครับผม...

ครับ... P คุณ มะนาวหวาน

เรื่องของ "ผลประโยชน์" กับ "ความเห็นแก่ตัว" ในสังคมของเรานี่เป็นบ่อเกิดของปัญหาสังคมหลายอย่างเลยนะครับ...

หวังจะเห็นสังคมของเราดีขึ้นในสักวันเช่นกันครับผม...

ขอบคุณมากครับ...

ครับ... P  คุณ ครู ป.1

ในส่วนของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในกระบวนการจัดการความรู้ หากไม่มี trust การแลกเปลี่ยนอย่างแท้จริงก็ไม่เกิดขึ้นนะครับ...

ในส่วนของสังคมไทยก็ยังหวังเห็นสังคมที่ดีขึ้นอยู่นะครับ...

ขอบคุณครับผม...

ครับ... P คุณ แผ่นดิน

เช่นกันครับผม...

ศรัทธา-เชื่อมั่น ในมิตรภาพและชีวิต -เสมอไป

ขอบคุณมากครับ...

ก็ต้องเริ่มที่บ้านแต่ละคน แต่ละครอบครัว

ดังคำที่ผู้ใหญ่ ชอบสอนในวันแต่งงานทั้งหลายว่า

เอาเข้าไว้ ให้หนักๆ

แต่ก็ใช้กับทุกคนทุกเรื่องได้นะครับ

....

เอา เอาใจกัน

เข้า เข้าใจกัน

ไว้ ไว้ใจกัน

..

ทำดังนี้กับคนรอบข้างรอบตัวเรา ทุกวันทุกเวลา ก็พอแล้ว อิอิ

ครับ... P คุณ หยู

เป็นคำสอนที่ฟังดูจั๊กจี้สำหรับคู่บ่าวสาวดีนะครับ...

แต่มีความหมายสำหรับการครองเรือนได้ดีแท้ ๆ เลยครับ...

เห็นด้วยครับว่าเริ่มต้นได้จากตัวเราและครอบครัวเรานะครับ...

ขอบคุณมากครับ...

trust คำสั้น ๆ แต่มีความหมายมากนะค่ะ

ครับ... P คุณ ศรีวิรัตน์

ใช่เลยครับ...

เป็นคำสั้น ๆ แต่มีความหมาย...

ขอบคุณมากครับ...

รบกวนหน่อย ค่ะ อะไรบ้างที่เป็นปัจจัยหรือตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อ trust ความเชื่อมั่นบ้างคะ

ครับ...คุณ eve
ปัจจัยที่มีผลต่อความเชื่อมั่นที่มีหลายอย่างเลยนะครับ...
ที่สำคัญคือ "ความจริงใจ" นะครับ...
เพราะหากได้รับความจริงใจแล้ว ย่อมสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นได้นะครับ...
ขอบคุณมากครับ...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท