สติวิธีคลี่คลายความขัดแย้ง : กระบวนการหัน(วิ)จัยเข้าหากัน


ทางออกของปัญหาความขัดแย้งคือพยายามให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้ามาหากันหันหน้าเข้ามาคุยกัน เพื่อสันติภาพแต่ทว่าหากเพียงแค่หันหน้าแต่มิได้หันใจก็เหมือนการจับมือยิ้มร่าแต่ทว่าซ่อนดาบไว้ข้างหลังเท่านั้น

             ช่วงนี้กวาดสายตาไปบนหน้าหนังสือพิมพ์ ทีไรก็เป็นต้องเจอข่าวม็อบเสื้อแดงเตรียมพร้อม นายกไปไหนจะไปที่นั่น ล่าสุดยังไม่ทันเดินทางไปหนังสือพิมพ์ก็พาดหัวตัวโตว่า เสื้อแดงเตรียมปลาร้าไว้รอรับมาร์ค” ปรากฏการณ์นี้มิใช่เพิ่งเกิดเพียงแค่ช่วงหลังเปลี่ยนเป็นรัฐบาลสายใต้ หากแต่ย้อนไปปีกว่าก็มีข่าวคล้ายกันเพียงแต่เปลี่ยนสีเสื้อเท่านั้น แม้สังคมส่วนใหญ่เสมือนมีคนต้องการความสันติและสามัคคีในชาติ แม้ว่าการให้สัมภาษณ์ของใครต่อใครก็ต้องการให้สังคมสงบสุข สามัคคี สมานฉันท์ แต่กลับตรงกันข้ามกับสถานการณ์ที่ลุกลามเหมือนไฟไม่มีวันหมดเชื้อ หรือว่าความขัดแย้งได้ฝังรากลึกไปยังจิตใจของคนโดยไม่รู้ตัว หรือว่าความต้องการสันติสุขจะมีรากเหง้าเป็นความขัดแย้ง จนคนที่เป็นกลางต้องเลือกข้าง ยกตัวอย่างถ้าเราไม่เห็นด้วยกับการกระทำของเสื้อ เราคือเสื้อเหลือง(จริงหรือ) หรือเราบอกการปิดสนามบินของเสื้อเหลืองไม่เหมาะสมเราคือเสื้อแดง บางทีเราก็ถูกยกให้เป็นคู่ขัดแย้งโดยมิได้เต็มใจเท่าไรนัก

ทางออกของปัญหาความขัดแย้งคือพยายามให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้ามาหากันหันหน้าเข้ามาคุยกัน เพื่อสันติภาพแต่ทว่าหากเพียงแค่หันหน้าแต่มิได้หันใจก็เหมือนการจับมือยิ้มร่าแต่ทว่าซ่อนดาบไว้ข้างหลังเท่านั้น

แต่การจะให้คนเราหันใจมาคุยกันยอมรับคนที่เราเคยรู้สึกว่าเป็นศัตรู เป็นคู่ขัดแย้ง(ซึ่งบางครั้งอาจไม่ได้มีเรื่องบาดหมางใหญ่โต) จึงมิได้เป็นเพียงแค่การใช้เหตุผลคุยกันเพราะกระบวนการรับฟังเหตุผลจะไม่ทำงานถ้าใจยังค้าน ถ้าคนเรายังยึดติดตัวตนเป็นใหญ่ ขณะเดียวกัน “คนกลาง” ต้องทำให้เห็นให้ได้ว่าเป็นคนกลางมิใช่คนกาง(แขนโอบอุ้มฝ่ายใด) และก็มิมีใครสนุกกับบทบาทนี้เพราะมีแต่เปลืองตัวและเปลืองใจ

งานวิจัยเพื่อท้องถิ่นบางครั้งเรามุ่งแก้ไขปัญหาสาธารณะของชุมชนด้วยกระบวนการเรียนรู้ผ่านการใช้ข้อมูลและกระบวนการมีส่วนร่วมในการหาคำตอบ สร้างการยอมรับร่วมกันของคนในชุมชน จนสามารถจัดการกับปัญหาหนี้สิน ปัญหาทรัพยากร ปัญหาเด็กและเยาวชน หรือกระทั้งปัญหาความขัดแย้งในชุมชน แต่กว่าจะถึงการคลี่คลายปัญหาในภาพระดับชุมชน สังคม หลายต่อหลายครั้งที่ต้องผ่านบทเรียนจัดการปัญหาในระดับตัวคน ซึ่งอาจเกิดจากความขัดแย้งเดิมที่สะสมมาก่อน หรือความขัดแย้งที่เกิดจากความมุ่งมั่นตั้งใจในการจะทำนั้นให้สำเร็จด้วยกันทุกคน

พี่เลี้ยงคือตัวกลางที่คอยต้องทำวิจัยซ้อนลงไปในการทำงานวิจัยของชาวบ้านเพื่อคลี่คลายความขัดแย้งเล็ก ๆ ในระดับตัวคนที่มักส่งผลสะเทือนต่อความมั่นคงของทีมวิจัย ต่อความมั่นคงของเป้าหมายงานวิจัย แต่จะทำอย่างไรให้เราเป็นคนกลางที่ต้องทำหน้าที่คลี่คลายงานราษฎร์(เรื่องส่วนตัว)และขับเคลื่อนงานหลวง(เรื่องส่วนรวม)ไปพร้อม ๆ กัน

แม้ผมจะเป็นเพียงพี่เลี้ยงมือใหม่แต่ชุมชนก็ได้ส่งแบบฝึกหัดพี่เลี้ยงใหม่มาท้าทายผมเมื่อเริ่มทำงานได้ปีกว่า ๆ ที่ชุมชนวัดศรีสุวรรณคงคาราม อ.เมือง จ.สมุทรสงครามเป็นการทำงานระหว่างโรงเรียนและชุมชนในการอนุรักษ์ปูแสม สัตว์ตัวน้อยซึ่งเป็นตัวบ่งชี้คุณภาพสิ่งแวดล้อมและตัวสร้างรายได้ของคนในท้องถิ่น ซึ่งเป้าหมายปลายทางคือการอนุรักษ์และฟื้นฟูปูแสมและสร้างการเรียนรู้ระหว่างโรงเรียนกับชุมชนเพื่อส่งผลต่อการจัดการเรียนการสอนกับเด็กในท้องถิ่น ฟังดูตัวเป้าหมายก็น่าจะราบรื่นดีเพราะเป็นประเด็นที่ทุกคนเห็นคุณค่าและความสำคัญและสนใจร่วมมาทำวิจัยแม้ว่าบางคนจะไม่ค่อยจะลงรอยกันเท่าไรนัก ซึ่งนับเป็นนิมิตหมายอันดีในมุมมองของพี่เลี้ยงมือใหม่อย่างผมที่มองปัญหาแค่ชั้นเดียว คิดว่าแค่มาร่วมกันทำงานก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว แต่มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดแม้งานวิจัยจะเริ่มเดินไปตามวิถีของแผนการวิจัยแต่กลับพบรอยร้าวภายในของทีมวิจัย ที่กลับเห็นชัดและขยายวงมากขึ้น เกิดแรงสั่นสะเทือนจนงานวิจัยต้องชะงักไปหลายต่อหลายครั้ง เพราะเมื่อเข้าวงประชุมจะเกิดการประชดประชัน เหน็บแนม ใช้วาจาเชือดเฉือน ไม่ฟังกันแม้ว่ากำลังคุยเรื่องข้อมูลหรือกระบวนการวิจัยเมื่อฝ่ายหนึ่งพูดอีกฝ่ายหนึ่งจะขัด เมื่อถูกขัดก็ต้องเอาคืน ข้อมูลการเรียนรู้ดีดีไม่ถูกนำมาพูดคุยแบบตรงไปตรงมา ยิ่งนับวันความขัดแย้งกลับขยายวงแบ่งพวก แบ่งทีม แยกงานกันทำ สังเกตเห็นได้ชัด จนผมพลอยติดร่างแหไปด้วยเพราะเมื่อเห็นด้วยกับความคิดเห็นของอีกฝ่ายหนึ่งก็ถูกอีกฝ่ายหนึ่งต่อว่าหาว่าเข้าข้าง ให้ท้ายและเสียสภาพการสนับสนุน

ความพยายามแรกๆ คือการเข้าไปเคลียร์คุยฝั่งโน้นที ฝั่งนี้ทีเพื่อชี้ให้เห็นปัญหาของความขัดแย้งตลอดจนชวนมาหาทางออกจากความขัดแย้ง เรียนรู้ชวนคุยถึงรากของปัญหาพบว่าเป็นปัญหาเดิมสะสมมาตั้งแต่ดั้งเดิม

แต่การพูดคุยช่วงนั้นยิ่งคุยกลับยิ่งหนักใจเพราะต่างฝ่ายต่างโทษกันไปโทษกันมา เราเองก็ฟังข้อมูลเพลิน ๆ เผลอไปเออออห่อหมกกับใครเข้าหรือลืมประสานงานใครเข้าก็ยิ่งผูกเงื่อนปัญหาให้แน่นเข้าไปอีก เช่นการโทรนัดประชุมเครือข่ายหากแจ้งหัวหน้าโครงการท่านก็ไม่รู้อะไรบอกกับทีมฝ่ายหนึ่ง อีกฝ่ายก็จะต่อว่าหาว่ามีอะไรทำไมไม่บอกพี่บ้าง จนจำเป็นต้องโทรศัพท์ประสานงาน ๔ คนสำหรับการจัดประชุมครั้งเดียว

ถึงขนาดเขียนรายงานการวิจัยระยะที่ ๑ ยังต้องแบ่งกันเขียนแล้วเอามารวมกัน บรรยากาศมาคุ(กรุ่น)

แบบนี้ทำให้บางครั้งให้คนกลางเสียสติเหมือนกัน ระงับอารมณ์ไม่อยู่ โมโหกับความไร้สาระของผู้ใหญ่ที่ทะเลาะกันเหมือนเด็ก โดยที่เราไม่รู้เลยว่าเรากำลังตกหลุมพรางกับดักความขัดแย้งที่จะพลอยเอาตัวเองไปขัดแย้งกับเขาด้วย

ปลดปล่อยตัวเอง เป็นเรื่องแรกที่ต้องทำโดยเอาคำพี่ปัญญา หัวหน้าโครงการวิจัยชุมชนแพรกหนามแดงบอกตลอดว่าคนที่จะแก้ปัญหาต้องไม่ทำตัวไปเป็นปัญหาเสียเอง มาท่องไว้ในใจแล้วค่อย ๆ ดึงตัวเองออกจากกับดักความขัดแย้งนั้น

มานั่งพินิจพิจารณาจนพบว่า สิ่งหนึ่งที่เห็นได้คือแม้จะขัดแย้งกันมากแค่ไหนแม้ว่าจะไม่อยากเจอหน้ากันแค่ไหน ทั้งสองฝ่ายไม่มีใครยอมถอยจากการเป็นทีมวิจัย (จะเป็นเพราะเสียหน้ากันไม่ได้หรือมุ่งมั่นตั้งใจอันนี้เอาไว้ทั้งสองประเด็น)

เป็นสิ่งเดียวที่เปรียบเสมือนเปลวเทียนในความมืด แต่จะทำอย่างไรให้ทั้งใช้ประเด็นนี้นำไปสู่การเห็นความสำคัญของการใช้ศักยภาพของทุกคนที่มีต่างกันในการนำพาโครงการไปสู่เป้าหมายเดียวกันคือเพื่อสร้างการเรียนรู้ให้เด็กคิดเป็น แก้ปัญหาตัวเองได้ด้วยกระบวนการเรียนรู้ผ่านการอนุรักษ์ปูแสม เหมือนมีม่านบาง ๆ มาบังเป้าหมายร่วมกันของทั้งสองฝ่าย ม่านนั้นทำให้ฝ่ายหนึ่งไม่เห็นอีกฝ่ายหนึ่ง ต่างพากันคิดไปเองว่าเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ เขาคงว่าเราอย่างนั้น เขาคงว่าเราอย่างนี้

การเริ่มต้นด้วยกระบวนการพาสรุปบทเรียนและค่อยๆ ให้เห็นผลของทีมวิจัยช่วยกันสร้างจนเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ตัวเด็ก จนสามารถคิดเป็น แก้ปัญหาเป็นและภาคภูมิใจในท้องถิ่น การพูดคุยซ้ำ ๆ ให้เห็นว่าวันนี้เราทำให้ชาวบ้านที่ไม่สนใจเรื่องอื่นนอกจากการทำมาหากิน หันมาใส่ใจกับคำว่าสิ่งแวดล้อม จนเกิดกระแสการอนุรักษ์ฟุ้งกระจายในคลองมอบลัดและคลองใกล้เคียง

หันมาพูดคุยให้เห็นว่าวันนี้โรงเรียนมีหลักสูตรและกิจกรรมการเรียนรู้ท้องถิ่นที่มาจากความร่วมมือของโรงเรียนและชุมชน และหันมาทบทวนว่าวันนี้ทำไมผู้ปกครองกับโรงเรียนถึงมีความสัมพันธ์อันดีจนมีความพยายามในการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้กับครูและนักเรียนร่วมกัน สิ่งต่าง ๆเหล่านี้เป็นผลที่เราต่างร่วมกันสร้างไม่ใช่ความเก่งของใครคนใดคนหนึ่งคนเดียว และที่สำคัญคือการทำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทีมวิจัยทุกคนให้เห็นถึงมุมเล็กๆของความเป็นห่วงใยที่ทีมวิจัยมีให้กัน เช่นเมื่อผมโทรหาฝ่ายหนึ่งเขาจะถามว่าบอกอีกฝ่ายหนึ่งแล้วหรือยัง

ประเด็นเล็ก ๆ เหล่านี้ทำให้มันยิ่งใหญ่จนทำให้มันเป็นเรื่องปกติของการจะพูดถึงกัน ทำให้มันเป็นสิ่งดีดีที่ต่างฝ่ายต่างรับรู้กันและกันได้ สำทับด้วยกิจกรรมที่ต้องทำร่วมกัน หรือการสร้างสถานการณ์ที่ต้องสื่อสารถึงกัน บนพื้นฐานของความเกรงใจที่ต้องสร้างไว้เป็นทุนตั้งแต่ตั้งต้นด้วยการทำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของเรา

จนวันหนึ่งผมโทรศัพท์เพื่อแจ้งการอบรมพัฒนาศักยภาพทีมวิจัยไปยังพี่คนนึงในทีมวิจัยเมื่อคุยธุระเสร็จสรรพ ผมรีบขอตัวไปโทรแจ้งพี่อีกคนหนึ่งก่อน แต่กลับได้รับคำตอบว่า “ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่บอกให้” ประโยคสั้น ๆ ประโยคนี้เองที่ทำให้ความเหนื่อยความท้อ หายไปเป็นปลิดทิ้งเป็นความอิ่มที่ได้จากเมล็ดพันธุ์ใจที่หว่านอย่างน้อยแม้ไม่เห็นดอกผลที่เป็นรูปธรรมชัดเจน แต่ก็สร้างความชุ่มชื้นหัวใจให้กับคนทำงานไม่น้อยเลยทีเดียว บรรยากาศในการอบรมเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข บรรยากาศที่คุกรุ่นถูกแทนที่ด้วยความถ้อยทีถ้อยอาศัย ความพยายามเข้าอกเข้าใจกันและกันและกันของทั้งสองฝ่าย

แบบฝึกหัดจากชุมชนถือเป็นปฐมบทแห่งการเรียนรู้ที่สำคัญ ที่สอนให้ผมได้มีส่วนช่วยในการคลี่คลายความขัดแย้งในโครงการวิจัย และที่สำคัญยิ่งคือการเรียนรู้ที่จะใช้สติวิธีในการคลี่คลายความขัดแย้งโดยเฉพาะในตัวเอง ก่อนจะไปคลี่คลายความขัดแย้งที่เกิดขึ้นภายนอก กระบวนการหันหน้าเข้าหากันคงเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่ทว่ากระบวนการหันใจเข้าหากัน  หันวิจัยเข้าหากัน เป็นการค่อยๆเรียนรู้อย่างเป็นระบบใช้ข้อมูลและเหตุผล บนฐานของการดูแลจิตใจกลับเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเริ่มทำในทันที แล้วมาค่อย ๆ ย้อนดูเรื่องราวความขัดแย้งรอบข้าง ไปจนถึงความขัดแย้งในหน้าหนังสือพิมพ์ บนความเชื่อมั่นที่ว่า “ถ้าเราทำด้วยใจถึง เราก็ได้อย่างถึงใจ”

หมายเลขบันทึก: 303645เขียนเมื่อ 6 ตุลาคม 2009 14:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2012 18:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท