รอยรั่วแห่งโคมประทีป


โคมประทีปบางอันมีรอยรั่ว รอยขาดก็ต้องช่วยกันหารอยที่รั่วแล้วนำกระดาษและกาวมาซ่อมแซมปะรอยรั่ว ไม่เช่นนั้นโคมจะไม่สามารถลอยขึ้นไปสู่ที่สูงได้ คิดๆ ดูก็เหมือนกันคนเรา การจะพัฒนาตนเองให้ดียิ่งๆ ขึ้นนั้น จำเป็นต้องรู้จักตนเอง สังเกตว่าตนมีที่ได้รั่ว อะไรที่ไม่ดี อะไรที่บกพร่องจะต้องแก้ไข ปะซ่อมแซมรอยรั่วนั้น ไม่เช่นนั้นโคมชีวิตก็คงจะลอยต่ำลงเรื่อยๆ....
วันออกพรรษา....
 
อันที่จริงข้าพเจ้าไม่ค่อยจะชอบวันออกพรรษาเท่าใดนัก หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไม? วันออกพรรษาถือเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญทางพุทธศาสนา เป็นวันที่ดีสำหรับชาวพุทธ เป็นวันที่พระสงฆ์ได้ปวารณาตน มีการทำบุญถือศีลกัน มีพิธีกรรมต่างๆ มีมากมายตามแต่ท้องถิ่น อันนั้นก็นับเป็นข้อดี แต่สิ่งที่ข้าพเจ้าไม่ชอบก็คือ เทศกาลออกพรรษาเป็นเหมือนออกจากศีล หลายคนถือเป็นวันสิ้นสุดการ “งดเหล้าเข้าพรรษา”  วันออกพรรษานี้เป็นเสมือนวันเฉลิมฉลองของเหล่าคอทองแดงทีเดียว (เอ...ทำไมต้องเรียกพวกดื่มมากๆ ว่าคอทองแดงนะ?)  เป็นวันแห่งน้ำสุราทำให้ขาดสติสัมปชัญญะ มีอุบัติเหตุเพิ่มมากขึ้น มีการทำร้ายร่างกายกัน  มีการเล่นประทัด ดอกไม้ไฟมากมาย...ถ้าเล็กๆ น้อยๆ พอเป็นพิธีก็ดีไป แต่บางคนจุดประทัดแล้วโยนใส่คนอื่น...เสียงดังจนทำให้รถมอเตอร์ไซค์ที่ขับมาตกใจจนประสบอุบัติเหตุก็พบเห็นได้บ่อยครั้ง บ้างก็โดนประทัดระเบิด ไม่นับอุบัติเหตุทางการจราจรที่เพิ่มขึ้นจากการดื่มสุรา
 
เอาล่ะ...ข้าพเจ้าไม่ได้จะมาพูดถึงข้อเสียวันออกพรรษานะเนี่ย...แต่ก็อดที่จะบ่นไม่ได้ (ตามประสาคนขี้บ่น) เพราะพบเจอมาตั้งแต่เช้า อันที่จริงวันออกพรรษาก็มีประเพณีดีๆ ที่งดงามอยู่เหมือนกัน ตอนเช้าพุทธศาสนิกชนที่ดีก็จะไปทำบุญ บ้างก็ไปถือศีลนุ่งขาวห่มขาวกันที่วัด ตอนเย็นก็มีงานประเพณีตามแต่ท้องถิ่นนั้นๆ เช่น ไหลเรือไฟ ฯลฯ และพี่พลาดไม่ได้คือ “งานวัด” ซึ่งถือเป็นงานรื่นเริงของแต่ละชุมชน โดยเฉพาะชุมชนในชนบท
 
งานวัดออกจะสำคัญขนาดนี้ ข้าพเจ้าจะพลาดได้อย่างไรล่ะ ตอนหัวค่ำหลังที่พยายามปลีกเวลาจากภารกิจหน้าที่ ข้าพเจ้าได้มีโอกาสไปเที่ยวงานวัดเล็กๆ...จัดแบบเรียบง่าย มีการสอยกัลปพฤกษ์ จับฉลาก เล่นเกมเล็กๆ น้อยๆและที่ข้าพเจ้ารอดูและตั้งใจไปดู นั่นก็คือ การปล่อยโคมลอย
 
การปล่อยโคมลอยมีในหลายพื้นที่ เท่าที่ทราบก็จะมีประเพณี ยี่เปงทางภาคเหนือ ส่วนทางอีสานก็พบบ้างในบางพื้นที่  ที่อุบลบ้านเกิดของข้าพเจ้าไม่ค่อยมีให้ดู  เพราะที่อุบลจะมีการลอยกระทงและไหลเรือไฟในวันออกพรรษา ที่เมืองดอกบัวน่ะ เค้า ลอยกระทงกันสองครั้งค่ะ ครั้งแรกในวันออกพรรษา ตามประเพณีลาว ส่วนอีกครั้งก็วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ตามประเพณีของไทยเรา มาพูดถึงการปล่อยโคมต่อดีกว่า  การปล่อยโคมบางแห่งเค้าก็ว่าเชื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ (เท่าที่ไปสังเกตวันนี้มีการเขียนชื่อและเบอร์โทรไว้ที่โคมด้วย ไม่รู้ว่าจะเป็นการสะเดาะเคราะห์เจ้าของเบอร์โทร หรือว่าคนปล่อยจะแอบหวังให้โคมจะลอยไปติดบ้านหญิงสาว เมื่อเห็นเบอร์แล้วจะได้โทรกลับ?) บ้างก็ว่าการปล่อยโคมประทีปนี้เป็นสัญลักษณ์ เพราะวันออกพรรษาพระสงฆ์ไม่ต้องอยู่ประจำที่วัด สามารถเดินทางจาริกเพื่อเผยแพร่พุทธศาสนาได้ การปล่อยประทีบจึงเปรียบเสมือนแสงประทีปแห่งพุทธศาสนาได้เผยแพร่ไปยังที่ต่างๆ
 
ด้วยความสงสัย ข้าพเจ้าจึงได้ถามพระอาจารย์ที่วัดว่าการปล่อยโคมลอยของวัดนี้ต้องการที่จะสื่ออะไร...พระอาจารย์ท่านตอบว่า จำเรื่องประเพณีไม่ได้ว่าเป็นมาอย่างไร แต่ที่ท่านทำโคมขึ้น เพื่อสอนเรื่องความสามัคคี เพราะการทำโคมจะเป็นการรวมลุ่มวัยรุ่นของแต่ละหมู่บ้านให้มาช่วยกัน พอหัวค่ำเมื่อได้ฤกษ์งามยามดีในการปล่อยโคม ทุกคนก็จะมาช่วยกันลุ้นว่าโคมที่ตนสร้างขึ้นจะลอยไปได้หรือไม่ (สามัคคีกันดีจริงๆ)
 
 
 
โคมประทีปบางอันมีรอยรั่ว รอยขาดก็ต้องช่วยกันหารอยที่รั่วแล้วนำกระดาษและกาวมาซ่อมแซมปะรอยรั่ว ไม่เช่นนั้นโคมจะไม่สามารถลอยขึ้นไปสู่ที่สูงได้ คิดๆ ดูก็เหมือนกันคนเรา การจะพัฒนาตนเองให้ดียิ่งๆ ขึ้นนั้น จำเป็นต้องรู้จักตนเอง สังเกตว่าตนมีที่ได้รั่ว อะไรที่ไม่ดี อะไรที่บกพร่องจะต้องแก้ไข ปะซ่อมแซมรอยรั่วนั้น ไม่เช่นนั้นโคมชีวิตก็คงจะลอยต่ำลงเรื่อยๆ....
 
 
วันออกพรรษานี้
ท่านได้สำรวจโคมประทีปของตนหรือยังว่ามีรอยรั่วที่ใดบ้าง?
 
หมายเลขบันทึก: 303332เขียนเมื่อ 4 ตุลาคม 2009 23:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

ก่อนขยับปีกโผบินแวะมาดูโคมไฟซะหน่อย

แต่ละประเพณีมีมุมมองให้เราได้แกะรอยกับสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่

ก็ถือเป็นปรัชญาอย่างหนึ่งที่เป็นกระบวนการให้เราได้นำมาคิด

เพื่อประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันให้ได้

และแต่ละทัศนะคติของแต่ละคน  นั่นแหละคือ  ปรัชญาที่ได้จากประเพณีนั้นๆ

สาธุๆๆ

  • อ่านเรื่อยๆเพลินๆมาถึงท่อนนี้

    "คิดๆ ดูก็เหมือนกันคนเรา การจะพัฒนาตนเองให้ดียิ่งๆ ขึ้นนั้น จำเป็นต้องรู้จักตนเอง สังเกตว่าตนมีที่ได้รั่ว อะไรที่ไม่ดี อะไรที่บกพร่องจะต้องแก้ไข ปะซ่อมแซมรอยรั่วนั้น ไม่เช่นนั้นโคมชีวิตก็คงจะลอยต่ำลงเรื่อยๆ...."

  • ต้องรีบกลับมาสำรวจตนโดยพลันซะแร้ว
  • ก่อนที่โคมชีวิตจะลอยต่ำ แต่ดูๆแล้วท่าจะเปลืองอุปกรณ์ปะผุ
  • ต้องเตรียมอุปกรณ์เยอะหน่อย

กราบขอบพระคุณท่านธรรมฐิตสำหรับข้อคิดปรัชญาจากประเพณีเจ้าค่ะ

พี่นกคะ...ถ้าพี่นกว่าพี่นกต้องเตรียมอุปกรณ์ปะโคมเยอะ มาดูโคมของดาวก่อน...เริ่มปะเยอะขึ้นจนโคมเริ่มจะหนัก...ชักไม่แน่ใจว่าโคมจะลอยขึ้นไหวหรือเปล่า ต้องรอลุ้นๆ ^-^

มาเยี่ยมคะ มาจากบล็อค GAINT BRIED มาให้กำลังใจเช่นกันคะเห็นรูปนั่งอยู่โดดเดี่ยวคะ น้องเขียนเรื่องออกพรรษาได้ข้อคิดมากเลยคะ เรื่องคนงดเหล้าก้จะเริ่มใหม่  แทนที่จะงดเหล้าเข้าพรรษา  ออกพรรษาเลิกเลยก็จะดีไม่น้อยนะคะ  แล้วก้เรื่องปะทัดเสียงดัง ตกใจ ขับรถมอเตอร์ไซค์ก็กลัววิ่งหลบ เกิดอุบัติเหตุได้  ยังไม่พอ อุบัติเหตุที่เกิดจากการเล่นปะทัด ไม่ถูกวิธี ก็เป็นอันตรายได้

และข้อคิดสำหรับโคมไฟ ถ้าโคมไฟรั่วมาก ก็หมายถึงเรายังไม่พร้อมต้องแก้ไขอีกมากมาย ต้องเสียเวลาปะมัน  เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการปะ  เราก็ต้องตั้งใจทำให้ดีๆ ไม่มีที่ติตั้งแต่เริ่มต้น เราก็ไม่ต้องเสียเวลามาแก้ไขใช่ไหมคะ คนดี พี่สุไปหละคะ แวะเยี่ยมบทให้กำลังใจได้นะคะ  หรือจะดูหมอลำ หรือจะดูฮาพระพยอม มีหลายรสชาติคะ เอากำลังใจดีกว่ากดตามนี้เลยนะคะhttp://gotoknow.org/blog/lelaxy/303467  พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ของชีวิตคะ

P ขอบคุณค่ะ พี่สุทีแวะมาเยี่ยมทักทายกัน ในรูปนั่งโดดเดี่ยวแต่จริงๆ แล้วก็มีเพื่อนอยู่ค่ะ ไม่ได้โดดเดี่ยวเท่าไหร่นัก กัลยาณมิตรพอมีกะเค้าบ้างเหมือนกันค่ะ

 

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับกำลังใจนะคะ...ตอนนี้อาการเหนื่อยดีขึ้นแล้ว แต่ช่วงนี้ภาระกิจมาก กว่าจะพ้นแต่ละวันได้ เหนื่อยจริงๆ ค่ะ แต่พักสักคืนก็กลับมีชีวิตขึ้นมาใหม่แล้วล่ะค่ะ ^-^

ขอบคุณค่ะ

สำหรับข้อคิดในวันออกพรรษา

อรุรสวัสดิ์ด้วยค่ะ

น้องดาวฟ้า

        โอ๊ะโอ...ประโยคสุดท้ายทำให้เห็นรอยรั่วของตัวเองเต็มไปหมด แต่ทำไงได้...ขี้เกียจปะ 5555

        นำโมเดลล่าสุดมาฝาก เห็นคุณนกยักษ์ Giant Bird ว่าอยากพับลุงซานต้าตัวแดง

  

 

นี่ครับ ยืนหนาวเหน็บอยู่เดียวดาย....

ลุงซานต้า...ยืนหนาววววว

 

ตามพี่ชิวมาเยี่ยมครับ

การทำโคมในเมืองเหนือเปลี่ยนไปแล้วครับ

ไม่มีใครมานั่งทำแล้ว ซื้อสะดวกกว่า

กุศโลบายในโคมห็หายไปด้วย

คนปล่อยโคมด้วยเหตุผลเพียงความสวยงาม ตื่นเต้น

  • คุณดาว
  • เรียบเรียงเปรียบเทียบได้เยิ่ยมจริง..แต่
  • เพิ่งรู้น๊ะเนี้ยะ..ว่า       
  • อดที่จะบ่นไม่ได้ (ตามประสาคนขี้บ่น)
  • เรื่องที่แจ้งไป
  • ส่งมาทางEmailแล้ว
  • ขัดข้องประการใด กรุณาแจ้งด้วยครับ

P พี่ชิวคะ....

 

อย่าเอาแต่โมเดลมาอวดดิ...เอาวิธีพับมาด้วย

ส่งซานต้ามากระตุ้นตัณหาความอยากให้พับกระดาษนะเนี่ย...

ถ้าดาวพับเป็น เดี๋ยวส่งซานต้าไปเที่ยวทะเลดีกว่า อิอิ

 

 

P คุณหนานเกียรติ

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชม (แม้ว่าจะตามพี่ชิวมาก็เถอะค่ะ 555)

เคยมีโอกาสไปเที่ยวทางเหนือ เห็นเค้าปล่อยโคมกันเยอะ...คงทำเป็นพาณิชย์แล้วก็เพื่อการท่องเที่ยวซะมากกว่า แต่ดาวว่าส่วนของพิธีกรรมบางอย่างก็ยังหลงเหลือให้เห็นบ้าง กุศโลบายในการปล่อยโคมคงยังไม่หายไปหมดซะทีเดียวหรอกมั้งคะ

P คุณสามสัก...ขอบคุณมากๆสำหรับคำแนะนะคะ

ดาวน่ะเป็นคนขี้บ่นค่ะ...แล้วอาชีพก็ส่งเสริมให้บ่นด้วย 555

 

แต่ละเรื่องในโลกนี้มีวิธีคิดที่ต่างกันนะคะ
ให้มองโลกในแง่บวกนะคะ
สิ่งดีๆวันออกพรรษาก็มีมากมายนะคะ
เป็บบทบัญญัติทางศาสนานะคะ สาะสำคัญให้มีวันออกพรรษาคงทราบแล้วนะคะ

แต่เรื่องราวที่จุกจิกกวนในคุณมิใช่เรื่องทางศาสนานะคะ
เป็นเรื่องของมนุษย์ในสังคมคะ
เรื่องการดื่มสุราเป็นเรื่องเฉพาะตนของคนคนนั้นนะคะ
ศาสนามิได้กำหนดอย่างนั้น

อย่าคิดเรื่องคนอื่นเลยคะเพราะเราไม่สามารถไปบังคับเขาได้
ถึงอย่างไรเทศกาลเข้าพรรษาและเทศกาลออกพรรษาก็ยังคงมีอยู่ต่อไปนะคะ

รักษาสุขภาพนะคะ

 

 

P คุณดวงกมล ขอบคุณนะคะสำหรับความคิดเห็นดีๆ

อันที่จริงวันเข้าพรรษาก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ดี เป็นวันสำคัญทางศาสนา สิ่งดีๆ สาระดีๆ มีมากมาย แต่ก็ยังมีคนอีกหลายคนที่ถือเป็นวันออกจากศีล (อันนี้ไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายนะคะ แต่เป็นความจริงคือมีทั้งลบและบวก) เรื่องราวเกี่ยวกับมนุษย์ที่จุกจิกกวนใจเนี่ย ก็พยายามทำใจคิดว่าเราไปเปลี่ยนอะไรเค้าไม่ได้ แต่ด้วยหน้าที่การงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับพวกเค้าโดยตรง ทำให้บางครั้งอดหงุดหงิดใจกับพฤติกรรมที่บั่นทอนสุขภาพไม่ได้ค่ะ

คุณดวงกมลเองก็รักษาสุขภาพเช่นเดียวกันนะคะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท