แล้วก็มาต่อในเอกสารแผ่นที่ 4 ที่มีอยู่ตอนนี้ ซึ่งในวันนี้จะนำข้อมูลขององค์กรที่เกี่ยวกับกฎหมายสูงสุดของประเทศ และเป็นองค์กรที่ดูแลกฎหมายสำคัญที่สุดด้วยนั่นคือ ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหน่วยงานในระบบยุติธรรมที่ต้องคอยตรวจสอบการบังคับใช้ไม่ให้บุคคล หรือนิติบุคคลใด กระทำหรือใช้กฎหมายใดที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญไม่ได้ เป็นองค์กรทางด้านกระบวนการยุติธรรมที่เพิ่งเกิดได้ไม่นาน แต่สำคัญมากองค์กรหนึ่ง
ศาลรัฐธรรมนูญ
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า รัฐธรรมนูญถือเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ เป็นกฎหมายที่บัญญัติถึงหลักเกณฑ์ในการปกครองประเทศ ขอบเขตอำนาจหน้าที่ขององค์กรการเมืองต่างๆ ตลอดจนสิทธิ เสรีภาพของประชาชน และยังเป็นที่มาของกฎหมายที่มีสถานะที่สูงกว่ากฎหมายอื่นๆ กฎหมายอื่นย่อมขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญไม่ได้ และเพื่อเป็นการป้องกันมิได้มีการล่วงละเมิดรัฐธรรมนูญได้ เพราะหากปล่อยให้มีกฎหมายที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับได้อยู่ความเป็นกฎหมายสูงสุดของรัฐธรรมนูญก็เป็นอันไร้ผล เนื่องจากการวินิจฉัยว่า กฎหมายใดขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญเป็นปัญหาที่ละเอียดอ่อนและมีผลกระทบในหลายด้านทั้งในด้านสังคม เศรษฐกิจและทางการเมืองอย่างสูง จึงควรต้องพิจารณาโดยละเอียดรอบคอบ ในหลายประเทศจึงได้มีการจัดตั้งองค์กรพิเศษขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่นี้โดยเฉพาะเรียกว่า ศาลรัฐธรรมนูญ
องค์กรของศาลรัฐธรรมนูญ จะต้องมีหลักประกันความเป็นอิสระและการเป็นกลางทางการเมือง
ทั้งยังต้องทำให้ศาลรัฐธรรมนูญสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งสามารถวิเคราะห์ได้จาก
1. ที่มาของตุลาการรัฐธรรมนูญ
จะประกอบด้วยคณะตุลาการรัฐธรรมนูญจำนวนหนึ่ง เช่น 9 คน หรือ 15 คน เป็นต้น ซึ่งต้องมีที่มาที่เป็นหลักประกันมิให้ตุลาการรัฐธรรมนูญตกอยู่ภายใต้ความครอบงำของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ หรือฝ่ายบริหารโดยให้หลายฝ่ายมีสิทธิเลือกตุลาการรัฐธรรมนูญ หรืออาจแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากหลายฝ่ายให้เป็นองค์กรที่พิจารณาหรือคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมจะเป็นตุลาการรัฐธรรมนูญแล้วเสนอรายชื่อให้ประมุขของประเทศเป็นผู้แต่งตั้ง
นอกจากนั้นวาระในการดำรงตำแหน่งจะต้องกำหนดแน่นอนและมีระยะเวลาที่ยาวพอสมควร เช่น 9 ปี หรือ 12 ปี รวมทั้งการให้ตุลาการรัฐธรรมนูญดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว อันจะเป็นหลักประกันที่จะทำให้ตุลาการรัฐธรรมนูญไม่อาจกระทำการใดอันจะทำให้ได้รับตำแหน่งใหม่อีก รวมทั้งในหลักการประกันความอิสระโดยมิให้ฝ่ายนิติบัญญัติ หรือฝ่ายบริหารถอดถอนตุลาการรัฐธรรมนูญออกจากตำแหน่งก่อนหมดวาระ หรือให้คุณให้โทษใดๆ แก่ตุลาการรัฐธรรมนูญได้
คุณสมบัติของตุลาการรัฐธรรมนูญนั้น ไม่จำเป็นจะต้องเป็นบุคคลที่มีความรู้ทางนิติศาสตร์เท่านั้น อาจจะเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในด้านอื่นๆ เช่น ด้านเศรษฐศาสตร์ เป็นต้น เนื่องจากปัญหาในการวินิจฉัยว่ากฎหมายใดขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญนั้นส่งผลกระทบต่อสังคมในวงกว้างจึงต้องการผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์ที่หลากหลายรวมทั้งมีสายตาที่กว้างไกลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นจากการวินิจฉัยนั้นด้วย นอกจากนั้นตุลาการรัฐธรรมนูญจะต้องไม่เป็นนักการเมืองทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น ไม่สังกัดพรรคการเมือง ไม่เป็นข้าราชการประจำหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ ยกเว้นอาจารย์ในสถาบันการศึกษาและเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถรวมทั้งประสบการณ์ในการบริหารราชการแผ่นดิน หรือเคยมีประสบการณ์เกี่ยวข้องกับรัฐธรรมนูญ เป็นต้น
2. อำนาจหน้าที่
นอกจากศาลรัฐธรรมนูญจะมีอำนาจในการพิจารณาวินิจฉัยว่าร่างพระราชบัญญัติหรือพระราชบัญญัติฉบับใดมีข้อความขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญยังอาจมีอำนาจอื่นๆ เช่น อำนาจในการวินิจฉัยว่าร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ อำนาจในการตีความรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่าสมาชิกภาพของสมาชิกวุฒิสภา หรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือรัฐมนตรีสิ้นสุดลงหรือไม่ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ ชี้ขาดข้อพิพาทระหว่างองค์กรของรัฐหรือข้อพิพาทระหว่างรัฐกับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ควบคุมการเลือกตั้ง นอกจากนั้นอาจทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่ประมุขของประเทศตามกิจการที่รัฐธรรมนูญของประเทศนั้นๆ กำหนด ศาลรัฐธรรมนูญในแต่ละประเทศอาจมีอำนาจหน้าที่แตกต่างกันได้ขึ้นอยู่กับระบบการปกครอง ระบบกฎหมาย ประวัติความเป็นมารวมทั้งจารีตประเพณีของแต่ละประเทศด้วย
3. วิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ
ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ศาลรัฐธรรมนูญสามารถพิจารณาคดีได้อย่างอิสระและเป็นธรรมแก่คู่กรณีที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ควรบัญญัติวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญไว้ในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ควรแบ่งบทบัญญัติว่าด้วยวิธีพิจารณาทั่วไปและวิธีพิจารณาเฉพาะให้สอดคล้องกับแต่ละประเภทแห่งคดีด้วยรวมทั้งเปิดโอกาสให้คู่กรณีโดยเฉพาะจำเลยได้มีโอกาสชี้แจง แสดงหลักฐานให้ตุลาการ รัฐธรรมนูญพิจารณาด้วย ผลของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันองค์กรทุกองค์กรไม่ว่าจะเป็นรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาลทั้งหลาย และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
จะเห็นได้ว่าศาลรัฐธรรมนูญเป็นองค์กรที่สำคัญองค์กรหนึ่งในระบบกฎหมายรัฐธรรมนูญ นอกเหนือจากองค์กรนิติบัญญัติ องค์กรบริหารและองค์กรตุลาการ ซึ่งจะทำหน้าที่ในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญมิให้ถูกละเมิดโดยองค์กรอื่นๆ อันจะทำให้รัฐธรรมนูญคงไว้ซึ่งความเป็นกฎหมายสูงสุด
อ้างจากการเรียบเรียงโดย อาจารย์สุรีรัตน์ ประจนปัจจนึก
จัดทำขึ้นโดย อนุกรรมการวิชาการและวางแผนการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปการเมือง คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปการเมือง
ไม่มีความเห็น