สู่เส้นทางสายไหม๒


ส่วนที่ตุนฮวงเราพักที่ตุนฮวงโฮเตลเมื่อพวกเราจะกลับ สาวๆเจ้าหน้าที่โรงแรมจะมาถ่ายรูปร่วมกับคณะของพวกเราด้วย แล้วรีบออกมายืนเข้าแถวยาวหน้าโรงแรมโบกมือให้กับพวกเรา ผมเห็นหลายคนมองตาละห้อย อย่าให้บอกเลยว่าใครบ้าง มันบาป.....เฮอะๆๆ

โรงแรม   เมื่อเราไปถึงเมืองจีนเขาจัดที่พักให้เราอย่างดี ที่ซีอานเราได้พักที่โรงแรมไฮแอตซีอาน ท่านณัฐวุฒิบอกว่าถ้าอ่านเป็นภาษาจีนต้องอ่านว่าโรงแรม ไหฟัต ฮิฮิ...ที่โรงแรมนี้เมื่อเราไปถึงไม่มีคนมาปรบมือต้อนรับ แต่ที่หน้าโรงแรมจะมีน้ำพุ ผมฟังเหมือนเสียงปรบมือที่ดังขึ้นเรื่อยๆ ผมไม่รู้ว่ามีใครสังเกตบ้างหรือเปล่า

 

          พอเราย้ายจากไฮแอตซีอานไปที่หลานโจวเราพักที่หนิงวูซวงโฮเตล คราวนี้จะมีพนักงานโรงแรมมายืนต้อนรับที่หน้าประตูโรงแรม พอท่านอัยการสูงสุดลงจากรถพนักงานก็จะปรบมือต้อนรับ พอเรากลับก็มายืนเข้าแถวยกมือบ๋ายบาย ที่หลานโจวตึกที่เราพักอยู่ไปทางด้านในสุดดูเหมือนจะยกตึกด้านที่พวกเราพักให้เฉพาะคณะพวกเราเลย เพราะตึกที่เราพักเขาเขียนว่า “VIP BUILDING NINGWOZHUANG HOTEL” ที่เจี่ยยู่กวงและที่ตุนฮวงก็เช่นเดียวกัน ดูค่อนข้างจะให้เกียรติพวกเรามากอย่างที่เจี่ยยู่กวงเราพักกันที่โรงแรมกำแพงเมืองจีนในโรงแรมก็บอกว่าสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ก็เคยประทับ ส่วนที่ตุนฮวงเราพักที่ตุนฮวงโฮเตลเมื่อพวกเราจะกลับ สาวๆเจ้าหน้าที่โรงแรมจะมาถ่ายรูปร่วมกับคณะของพวกเราด้วย แล้วรีบออกมายืนเข้าแถวยาวหน้าโรงแรมโบกมือให้กับพวกเรา ผมเห็นหลายคนมองตาละห้อย อย่าให้บอกเลยว่าใครบ้าง มันบาป.....เฮอะๆๆ

 

        อาหารการกิน การเป็นแขกบ้านแขกเมืองนี่เหนื่อยเอาการเหมือนกัน เพราะแต่ละแห่งจะมีประธานสภาประชาชนมณฑล อย่างต่ำก็รองสภาประชาชน อัยการสูงสุดมณฑลหรือรองอัยการสูงสุดผู้รักษาการมาต้อนรับคณะของเรา ดังนั้นอาหารแต่ละมื้อจึงเป็นอาหารอย่างดี อย่างต่ำจะต้องมี ๑๖ อย่าง อย่างมากถึง ๒๑ อย่าง มีทั้งการเลี้ยงรับรองเป็นทางการและไม่เป็นทางการ แต่ก็เหนื่อยพอๆกัน ก่อนทานอาหารทุกมื้อถ้าเป็นการเลี้ยงแบบทางการก็จะมีการกล่าวต้อนรับกับ “กัมเปย” เหล้าอู่เหลียงเย่ ชนแก้วกันจนร่างกายอบอุ่น เพราะขณะที่เราเดินทางไปตามเส้นทางสายไหม อากาศจะหนาวประมาณ ๑-๑๒ องศาเซลเซียส อาหารที่เขาสั่งมาต้อนรับพวกเราก็จะมีอูฐ แกะ กระต่าย หมู อาหารทะเล ผัก ผลไม้ ผมติดใจผักกรอบอร่อยมาก ทั้งๆที่รู้ว่าเขาใส่ปุ๋ยธรรมชาติ เอิ้ก...

เราทึ่งกับการทำเส้นบะหมี่ที่ใช้มือดึงแล้วออกมาเป็นเส้นเท่าๆกัน ทั้งมีขนาดเล็ก ขนาดกลางและขนาดใหญ่ ที่เมืองหลานโจว ผมแอบไปถามพนักงานเสริฟคนที่น่ารักที่สุดนั่นแหละ แฮ่ะๆๆ ได้ความว่าเขาเรียกว่า “ลาเมี่ยน” ซึ่งแปลว่า “บะหมี่ดึง” ท่านสังเกตไหมว่าชื่อลาเมี่ยนคล้ายๆกับชื่ออะไรที่เด็กไทยยุคใหม่ชินกันดี บะหมี่ราเม็งไง

ที่เมืองฉานซีท่านประธานสภามณฑลฉานซีท่านบอกว่า ที่เมืองนี้แอปเปิ้ล อร่อยที่สุด ผมได้ทดลองแล้วต้องยอมรับว่าเป็นแอปเปิ้ลที่อร่อยที่สุดเท่าที่ผมเคยได้รับประทานมา เพราะทั้งหวาน กรอบและหอม ส้มจักรพรรดิก็อร่อยลูกขนาดหัวแม่โป้งเท้าข้างในไม่มีเมล็ด หวานดี เพราะความที่ชอบทานผมจึงขอสรุปว่าอาหารที่เขานำมาเลี้ยงเราอร่อยทุกอย่าง

เราได้ลองกินอุ้งตีนอูฐ คนอื่นไม่รู้แต่ผมลองทุกอย่างที่ขวางหน้า ทราบแต่ว่าท่านอัยการสูงสุดท่านมังสวิรัติ ท่านพยายามหลีกเลี่ยงเนื้อทุกชนิด ผมได้แต่ภาวนาในใจว่าแม้เจ้าภาพรู้แล้วว่าท่านมังสวิรัติก็อย่าจัดแต่ผักอย่างเดียวมาก็แล้วกัน โชคดีที่เจ้าภาพเขาก็ชอบเนื้อ ฮิฮิ เราก็เลยยังได้ทานเนื้อแต่ว่าก็ว่าเหอะได้อาศัยใบบุญท่าน อสส.จึงได้ทานอาหารดีๆ แพะย่างทั้งตัว,อุ้งตีนอูฐผมว่าคล้ายๆกับคากิ มาถึงเมืองไทยยังนึกถึงล่ามแปลให้ฟังว่าอาหารที่เขายกมาเป็นแพะ ภาษาอังกฤษที่อัยการจีนบอกก็คือ Lamp เรารู้ดีก็เลยว่าอ๋อ แปลว่าแกะ แต่พอกลับมาศึกษาเรื่องราวของเมืองจีนจึงรู้ว่า อาหารขึ้นชื่อที่เขาสั่งให้เราทานคือ “แพะยา”หรือ”ย่าวหยาง” เพราะบนภูเขาดินแดงมีสมุนไพรเยอะ แพะที่ปล่อยให้หากินตามเชิงเขาก็จะกินสมุนไพรพวกนี้เข้าไปเขาก็เลยเอาแพะมาทำอาหารบำรุงร่างกายคนอีกต่อหนึ่ง นี่ดีนะไม่ได้กินหมูสมุนไพร เพราะถ้ากำลังกินอยู่แล้วได้ฟังชื่อหมูที่เอาเข้าปากอาจจะคายทิ้งทันทีเพราะอาหารที่ว่าเรียก “เจวี๋ยหมาจู” ฮ่าๆๆๆ

 

ภาพกลางขวาเป็นแพะยา "ย่าวหยาง"

        ผู้คน เวลาผมไปไหนมาไหน ผมก็ชอบสังเกตไปเรื่อยๆตามสิ่งที่พบเห็นบางครั้งเพื่อนถามว่าสิ่งที่ผมพูดถึงไปเห็นที่ไหนเพราะเขาไม่ได้สังเกต ที่เมืองจีนจะมีผู้คนหลากหลายแต่ผมถ่ายภาพมาไม่หมด เช่น ที่ปักกิ่งจะมีขอทานออกมาเพ่นพ่านตอนกลางคืน เดินตื๊อขอเงินทั้งคนแก่ กลางคนและเด็ก การขอก็ขอแบบไม่สนใจว่าคนถูกขอจะรำคาญหรือไม่รำคาญ ถ้าไม่ให้บางทีก็ถูกหยิก ในกรุงปักกิ่งผมเจอคู่บ่าวสาว ๒ คู่ มาถ่ายภาพงานแต่งงานนอกสถานที่ ก็เลยไปถ่ายภาพกับเขามาด้วยและยังเห็นกางเกงของเด็กจีนจะมีการผ่าหน้าถึงด้านหลัง เวลาเด็กปวดอึก็นั่งยองๆถ่ายได้เลยไม่ต้องถอดกางเกง เด็กชาวจีนทั้งเด็กเล็กเด็กหนุ่มเด็กสาว แก้มจะเป็นสีชมพูที่เขาเรียกว่าแก้มแดงเป็นลูกท้อเพราะอากาศหนาว ผมถ่ายภาพความน่ารักของเด็กมาหลายภาพ บางครั้งก็จะเห็นคนชรามานั่งปล่อยอารมณ์อยู่ในสวนสาธารณะ ไอ้ที่กอดจูบกันตัวเป็นเกลียวบนเก้าอี้นั่งข้างถนนในกรุงปักกิ่งแบบไม่แคร์สายตาผู้คนก็หลายคู่ ชาวจีนเขาไม่มองกันเหมือนกับจะถือว่าเรื่องเอ็งข้าไม่เกี่ยว 

        ดูการแสดง ที่เมืองซีอานเขาพาเราไปทานอาหารเย็นแล้ว พาไปดูการแสดงระบำสมัยราชวงศ์ถัง ต้องยอมรับว่าสวย ที่โรงระบำเขามีให้ทานอาหารด้วย เหมือนดินเนอร์และมีการแสดงไปในตัวโต๊ะจะหันข้างให้กับเวที  ผมแทบไม่ได้นั่งเพราะอยากถ่ายรูป ที่การแสดงนี้ที่ผมประทับใจมากคือการเป่าขลุ่ยจีนลักษณะเป็นแพคล้ายแคนแต่เป่าแบบเม้าท์ออร์แกน เสียงแหลมสูง เป็นความสามารถเฉพาะตัวการแสดงชุดนี้เรียกเสียงปรบมือได้นานที่สุด

 

        อีกชุดที่เราได้ดูคือที่ปักกิ่ง เป็นเหมือนงิ้ว ความสามารถของผู้แสดงดีมาก โฆษกเป็นผู้หญิงมีเค้าว่าสวยมากเมื่อ ๒๐ ปีที่แล้ว ที่นี่เราได้เห็นความสามารถในการเล่นดนตรี เครื่องดนตรีสี่ชิ้น คนเล่นสี่คนแต่ละคนเล่นดนตรีของคนอื่นด้วยเล่นของตัวเองด้วย ไม่รู้เขาแยกประสาทยังไง ระหว่างการแสดงมีการล้อเลียนคนไทยด้วย จบการแสดงยังมีของที่ระลึกให้ท่านอัยการสูงสุดและให้ท่านลงนามในสมุดเยี่ยม

 

หมายเลขบันทึก: 301717เขียนเมื่อ 29 กันยายน 2009 10:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)
  • สวัสดีครับท่านอัยการชาวเกาะ
  • ตามไปเที่ยวเมืองจีนด้วยครับ
  • มีหลายเรื่องที่น่าสนใจ
  • แพะย่างบ้านเขา..หมูย่างเมืองตรังบ้านเราพอสู้ได้ไหมครับ

 

ตามน้องชาย มาเรียนรู้ครับ เกษียณ ต้องไปเที่ยวแน่แน่ ครับ

แอ้ม คนเมืองขนมหวาน

สวัสดีค่ะ คุณลุงอัยการ

มาตามไปเที่ยวและเรียนรู้วัฒนธรรมของจีนต่อค่ะ หนูชอบศึกษาวัฒนธรรมของชาติต่างๆ สนุกดีค่ะ

ใกล้เทศกาลกินเจแล้วมีเพลงมาฝากคะ น่าจะเหมาะสมที่สุด อิอิ

http://daraoke.gmember.com/song-เพลง-มาเจียะฉ่าย-ศิลปิน-โกไข่-mv0400691601

 

แอ้ม เมืองขนมหวาน

สวัสดีครับท่านสิงห์ป่าสัก

เที่ยวเมืองจีนสนุกอีตอนกินนี่แหละครับ แต่ต้องไปกับแขกบ้านแขกเมืองนะครับ ฮ่าๆ กินเสร็จแทบจะลุกไม่ไหว เพราะอาหารที่เขานำมาเลี้ยงเราเยอะมากๆ เรากินข้าวงานเลี้ยงที่บ้านเรา ๘-๙ อย่างเราว่ามากแล้ว แต่กินแบบแขกบ้านแขกเมืองมื้อละ ๑๖ อย่าง แค่คีบอย่างละคำก็อึดอัดแล้ว ฮ่าๆ ยังแถมด้วยน้ำเปลี่ยนนิสัยที่รสชาติร้อนแรง เทเข้าปากกลืนลงท้องร้อนวาบไปตามลำไส้เลย อิอิ เสียดายว่าตอนนั้นผมยังไม่ได้เริ่มเขียนบล็อก ไม่งั้นก็คงมีภาพสรรพเพเหระเรื่องอาหารเครื่องดื่มเพียบแน่นอนเพราะมันก็เป็นเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณี จะไปอีกก็ไม่รู้ว่าใครจะเลี้ยงขนาดนั้น ไม่ใช่อะไรหรอก จะไปถ่ายรูปมาฝาก แฮ่ะๆ

สวัสดีครับอาจารย์ JJ

เมืองจีนมีอะไรให้เราศึกษามากมายเลยครับ แล้วแต่เราสนใจด้านใด เครื่องไม้เครื่องมือก็สำคัญครับ เอากล้องเล็กไปถ่ายสะดวกได้เจ๊าะแจ๊ะหลายจุดไม่หนัก ผมเอากล้องใหญ่ไปเพราะจะไปถ่ายภาพงามๆให้ท่านอัยการสูงสุด ท่านพอใจภาพที่ผมถ่ายมาก แต่เราแบกหนัก อิอิ

ถ้าอาจารย์จะไปเที่ยวเมืองจีน ผมเชียร์เลยครับ

ขอบพระคุณที่แวะมาเยี่ยมครับ

สวัสดีหนูแอ้ม

เพลงมาเจ๊ยะฉ่าย ลุงเป็นคนให้ข้อคิดให้กับโกไข่ในเนื้อหาบางตอนด้วยนะ เช่น มาเจี๊ยะฉ่ายๆๆหลายๆเจี๊ยะฉ่าย คำว่า หลาย หลาย หมายถึง มา มา ตอนทำเดโมไม่มีคำนี้ จึงได้แนะนำโกไข่ไป

ว่าจะออกไปส่งแผ่นซีดีให้หนูแอ้ม แต่ฝนตกทุกวัน ใจเย็นๆนะเดี๋ยวถ่ายรูปมาให้ดูก่อนไหมว่าโกไข่เซ็นให้หนูแอ้มอย่างไร อิอิ

สวัสดีค่ะ คุณอัยการฯ

มาตามไปเที่ยวและเรียนรู้วัฒนธรรมของจีนต่อค่ะ

และมาให้กำลังใจค่ะ

สวัสดีค่ะคุณลุงอัยการ

หนูขอขอบพระคุณที่คุณครูไปเยี่ยมบันทึกของหนู

และหนูหยุดเขียนไปหลายวันค่ะ เพราะสอบปลายภาคเรียน

วันนี้หนูมีเวลามาเขียนบันทึกใหม่แล้วค่ะ

สวัสดีครับครูจิ๋ว

ขอบคุณที่ตามไปเที่ยวและให้กำลังใจ ผมแวะไปเยี่ยมบันทึกครูจิ๋วด้วยเช่นกันครับ และนำบันทึกครูจิ๋วเข้าแพลนเนตแล้วครับ

สวัสดีครับหนานเกียรติ

แวะไปปลูกผักบุ้งกับเฌวามาแล้วครับ อิอิ

สัวสดีหนูนัท

ลุงอัยการไปเยี่ยมบันทึกของหนูแล้ว

หนูนัทพัฒนาการเขียนได้เร็วมาก ลุงชื่นชมด้วยใจจริงนะ..

  • สวัสดีท่านอัยการชาวเกาะครับ อ่านไปเมืองจีนแล้ว เพลินเลย..ขอบคุณความรู้ดีๆครับ
  • ขอบคุณที่ไปเยี่ยมชมบล็อกและร่วมแสดงความเห็นครับ

มาตามดูเส้นทางสายไหมค่ะท่านอัยการชาวเกาะ

ขอบคุณค่ะ

ต้องขออภัยคุณธนิตย์และคุณไก่..กัญญา ที่มาตอบช้า

งานผมสามสี่วันมานี้ล้นโต๊ะเลยครับ

ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท