สวัสดีครับ ห่างหายกันนานกับเรื่องเล่าใน blog ช่วงนี้ผมต้องเดินทางเยอะมาก เมื่อต้นเดือน(1-3 กันยายน 2552) ที่ผ่านมาผมต้องไปร่วมเป็นกระบวนกรเพชิญความตายอย่างสงบที่พุทธิกาจัดให้กับ รพ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ เกล็ดเล็กเกล็ดน้อยของกิจกรรมที่ทางกระบวนกรจัดให้เป็นดังรูปครับ...พี่สุ้ยคนที่ยืนถือไมโครโฟน
คำถามแรกครับ "คุณคิดว่าคนไข้ระยะสุดท้ายถ้าเลือกได้อยากเสียชีวิตที่ไหน?" ถ้าที่บ้านซ้ายมือ ถ้า ที่ รพ.ขวามือ
อย่างที่เห็นครับ...ชิดซ้ายกันเป็นแถว!
พอมาคำถามที่ 2"ความเป็นจริงคนไข้ระยะสุดท้ายต้องเสียชีวิตที่ไหนเป็นส่วนใหญ่?"
ความจริงปรากฏว่าชิดขวา(เสียที่ รพ.)
จะเห็นได้ว่าเรื่องจริงกับความฝันมันต่างกันลิบลับ.....ความต้องการผู้ป่วยกับความเป็นจริงห่างกันไกล ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น...ในกลุ่มถกเถียงกันอย่างกล่าวขวาง ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยทางร่างกายที่อาการป่วยรุนแรง คนไข้ทำใจไม่ได้.....ปัจจัยทางสังคมที่คนส่วนใหญ่หวังพึ่ง รพ.
ส่วนตัวผมเองมองว่า "เสียชีวิตที่ไหนไม่สำคัญเท่าเสียชีวิตอย่างสงบหรือไม่...ตรงเจตนารมณ์ผู้ป่วยหรือไม่.....เราจะคาดหวังว่า รพ. มีสถิติที่น่าภูมิใจว่าเสียชีวิตที่ รพ.0% แต่.....มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าเสียชีวิตที่บ้านอย่างทุกข์ทรมาน"
"บริบทสังคมเปลี่ยนไป...ความเชื่อเปลี่ยนแปลง แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงคือ การเสียชีวิตอย่างสมศักดิ์ศรี"
หวังเหลือเกินครับว่า กิจกรรมดีๆ จะมีส่วนสอนคนให้เข้าใจความจริงต่างๆ ได้มากขึ้นโดยไม่ต้องชี้นำ....ขอบคุณพุทธิกาและชาว รพ. หล่มเก่าที่เปิดโอกาสให้ผมได้เรียนรู้เรื่องดี ๆ ครับ
มาเยี่ยมคนตากครับ...
มีหนังสือจากเครือข่ายพุทธิกาอยู่หลายเล่ม
ยังมิมีเวลาเปิดอ่านเลยครับ
สวัสดีครับ อ้าย
มาร่วมเรียนรู้ค่ะคุณหมอ
ขอมอบตัวเป็นศิษย์ในประเด็นนี้นะคะ
ตอนนี้พยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อผู้ป่วยในเรื่องนี้อยู่
หวังว่าอาจารย์คงรับเป็นศิษย์นะคะ
คารวะด้วยน้ำชา 1 จอก คำนับ 3 หน
พี่ bird ครับ...ยินดีแลกเปลี่ยนครับ
พี่สุ้ยก็มาด้วย ชื่นชมในงานที่ทำค่ะ เพื่อน pal (ขอใช้คำ อ. เต็มค่ะ)
ขอบคุณพี่เกตครับ