คุณค่าสูงสุดของการเป็นพยาบาลของข้าพเจ้า


จากบันทึกถึงท่านธรรมฐิต

บันทึกถึงท่านท่านธรรมฐิต  ต่อจากบันทึกเดิมที่บันทึกถึงกระบวนการเดินสู่ ความตายได้ไม่ดีนัก เพราะมีเวลาน้อยรีบบันทึกกันลืม ในห้วงเวลาที่ได้มีโอกาสช่วยเหลือดูแลอาโฮมในการพากลับบ้าน จาก ICUนั้นตนเองก็ยังไม่ได้ศึกษามากนักมีเพียงประสบการณ์เล็กน้อย ในการดูแลพ่อด้วยความรักและปรารถนาดีอย่างเต็มเปี่ยมที่จะให้พ่อสุขสบายและอบอุ่นปลอดภัย ในอ้อมกอดของพระศาสนาในวาระสุดท้ายของพ่อในช่วงสุดท้ายของชีวิต พี่เป็นผู้ดูแลพ่อทุกๆวัน ตื่นเช้าอาบน้ำให้พ่อบนเตียง คุยกับพ่อ ป้อนข้าว อ่านหนังสือธรรมะให้พ่อฟังและไปทำงาน เลิกงาน จ่ายตลาด เลือกซื้อสิ่งที่คิดว่าพ่อจะอยากกินและเป็นประโยชน์ต่อพ่อ กลับบ้านแม่ทำอาหาร พี่นกจะคุยกับพ่อ ป้อนอาหาร เปิดซีดี ธรรมมะ อาบน้ำให้พ่อแปรงฟันให้พ่อ บางครั้งพ่อนอนอยู่บนเตียงนานๆท้องผูก ไม่ถ่ายอุจจาระเพราะลำไส้นิ่งไม่ค่อยได้ขยับตัว ต้องช่วยสวนด้วยน้ำอุ่น พ่อไม่มีแรงเบ่งถ่ายอุจจาระ ต้องช่วยล้วงอุจจาระออกจนหมด มีอยู่ครั้งหนึ่งพ่อบอกว่า ดีจังเลย เหมือนเอาไม้ที่มันอุดอยู่ในรูทวารออกไป ทำให้สบายพุงขึ้นเยอะ พ่อเป็นมะเร็งของท่อน้ำดี สองเดือนสุดท้ายก่อนเสียชีวิต พ่อกินอะไรไม่ได้ พ่อยอมให้แทงเส้นเลือดเพื่อให้น้ำเกลือ แต่พ่อไม่ยอมให้สอดใส่สายยางให้อาหารทางจมูก พ่ออยู่ได้ด้วยพลังงานจากน้ำเกลือและสารอาหารวิตามินเล็กๆน้อยๆจากน้ำเกลือ เส้นเลือดที่ให้อาหารจะคงอยู่ได้แค่เพียง 3-4 วัน ก็ต้องแทงใหม่อยู่บ่อยๆ แต่พ่อก็ไม่บ่น พ่ออดทนมากในการถูกแทงเข็มให้น้ำเกลือ แต่อย่างไรก็ไม่ยินยอมให้อาหารทางสายยาง พี่นกดูแลพ่อเองที่บ้านตลอด ไม่ได้ไปนอนโรงพยาบาล พ่อมีความสุขมากที่ได้รักษาตัวอยู่ที่บ้าน แม้จะป่วยหนักแต่ก็อารมณ์แจ่มใส พูดคุยยิ้มหัวเราะกับญาติๆและลูกหลานอยู่เสมอ  ญาติๆที่มาเยี่ยมทุกคน ประทับใจในความเป็นคนไข้ที่น่ารักของพ่อ คนไข้แม้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แต่ไมเคยมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ไม่มีกลิ่นเหงื่อไคล ไม่เคยมีใจหงุดหงิด ยิ้ม หัวเราะ  ตามการหยอกเย้าของญาติ ญาติๆเห็นได้ว่าพ่อสะอาดทั้งใจและกาย นี่แหละคือข้อดีของการเป็นพยาบาล ข้อดีที่เราจะสามารถดูแลคนที่เรารักด้วยมือเราเองตั้งแต่ต้นจนจบ พ่ออารมณ์ดีแจ่มใสถึงวันสุดท้ายที่มีสติระลึกรู้อยู่ แต่ในวันสุดท้ายพ่อซึมลงจนไม่สามารถพูดคุยสื่อสารได้ แต่เรายังคุยกัน สวดมนต์ก่อนนอนด้วยกันจนถึงคืนสุดท้าย ในนาทีที่พ่อสิ้นใจ.......ไม่มีน้ำตา ไม่มีเสียงร้องให้คร่ำครวญโศกเศร้า

มีแต่ ดวงจิตคารวะต่อคุณงามความดีของพ่อ....... ภาพใบหน้าอันปราณีมีความสุขของพ่อเป็นภาพพิมพ์ทาบอยู่ในใจ  ทุกคนที่อยู่ใกล้ในนาทีนั้นเห็นเราเข้มแข็ง สงบยอมรับ  ก็อยู่ในอาการสงบเช่นที่เราเป็น

ภาพของพ่ออบอุ่นและเป็นสุขอยู่เสมอไม่ว่านึกถึงคราใด การตายไม่ใช่ความสูญเสีย การตายเป็นวาระตามธรรมชาติ ที่เราต้องน้อมใจรับ เพราะความตายไม่เคยงดเว้นต่อผู้ใด ไม่สามารถต่อรองได้ หวังแต่ว่าเมื่อถึงเวลาของเรา เราจะมีกำลังสติเพียงพอต่อการน้อมจิตพิจารณาความตายอย่างสงบระงับ

ดังนั้นเมื่อมีใครต้องการความช่วยเหลือในสถานการณ์เช่นนี้จึงยินดีช่วยเหลือในการร่วมน้อมนำจิตสุดท้ายของผู้ป่วยและญาติให้มีความสงบสุขมากที่สุด เท่าที่ตนเองจะทำได้

กราบขอบพระคุณพ่อด้วยดวงจิต  ในการเป็นผู้ให้แก่ลูกมาตลอดชีวิต  ให้แม้กระทั่งในวาระสุดท้าย  ให้เราได้แสดงออกต่อพ่อว่าเรารักท่านเพียงใด  ให้โอกาสเราได้ดูแลตอบแทนพระคุณอย่างดีที่สุดเท่าที่เราทำได้ 

และประสบการณ์ดูแลพ่อด้วยความรักนี้ได้ถูกแบ่งปัน ผ่องถ่ายสู่ผู้ป่วยและญาติที่ต้องเผชิญสภาวะเช่นนี้ที่ตนเองมีโอกาสได้ดูแล  และผู้ร่วมงานท่านอื่นๆในหน่วยงานต่างก็ร่วมเรียนรู้ที่จะปฏิบัติเหมือนกัน ทำให้เกิดกระบวนการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายในหน่วยงานของเรา   กลายเป็นสมบัติของหน่วยงานไปแล้วนะ  นี่ไงสมบัติผลัดกันชม 

                                                                       "ความตาย"

หมายเลขบันทึก: 300676เขียนเมื่อ 25 กันยายน 2009 12:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 21:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)

นับถือในความเป็นลูกที่ดีและมีจิตใจอันสูงส่งของพี่นกมากๆค่ะ....ไม่ได้มายกยอนะคะ ชมจากใจจริง

 

ความตายอาจจะเป็นสิ่งที่น่ากลัว...แต่สำหรับคุณตาและอาโฮม พี่นกได้เปลี่ยนช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตให้เป็นช่วงเวลาที่งดงาม...

 

ผู้ป่วยของพี่นกทุกคนคงจะรู้สึกขอบคุณในการใส่ใจดูแลและความเอื้ออารีที่มีให้กับพวกเขา เป็นการดูแลผู้ป่วยด้วยใจจริงๆ ค่ะ

 

 ปล.แม้ว่าบันทึกถึงท่านธรรมฐิต แต่ขอมาแสดงความคิดเห็นหน่อยนะคะ คงไม่ว่ากัน ^-^

ขออนุโมทนาในมโนสำนึกที่พี่นกมุมมองในแง่บวกต่อ..ความตาย..

ทุกคนรู้ว่าตัวเองต้องตาย..

แต่เหตุไฉนถึงไม่พยายามเรียนรู้ด้วยการฝึกระลึกถึงความตายไว้เล่า

เมื่อโอกาสนั้นเกิดขึ้นจะได้โอบรับมันไว้อย่างนิ่มนวล..

..ความตายอยู่กับเราทุกลมหายใจเข้าออก..

เอวํ  โหตุ.....ขอรับพี่นก...

 

สวัสดีค่ะ น้องดาว

ขอบคุณในคำชมนะคะ แต่สิ่งที่พี่ปฏิบัติต่อพ่อ ไม่ได้เกิดจากจิตใจอันสูงส่งของพี่หรอกค่ะ

เกิดจากความรัก ความผูกพัน การเห็นค่าและรู้หน้าที่ของกันและกันในสัมพันธภาพระหว่างพ่อและลูก

พี่เป็นผลลัพธ์ของความรักที่พ่อฟูมฟักมาตลอดชีวิต และพ่อเป็นกำลังใจ เป็นพลังผลักดันให้ลูกทำแต่ในสิ่งดีๆ

เพื่อให้พ่อได้ภูมิใจในตัวตนของลูกที่พ่อเลี้ยงดูมาด้วยความรัก ดังที่เคยมีผู้กล่าวไว้ว่า

ลูกคืออนุสาวรีย์แห่งความดีงามของพ่อและแม่

ขอบคุณน้องดาวที่เห็นค่าในความรักเล็กๆของเราค่ะ

นมัสการค่ะท่านธรรมฐิต

พี่นกเองไม่ได้กลัวตวามตาย แต่กลัวว่าตนเองจะปฏิบัติไม่มากพอในการกำหนดสติให้ตระหนักรู้พร้อมยอมรับในทุกขณะจิต

กลัวตัวเองจะเผลอสติ แต่ถ้ามีความระลึกรู้ตัวทั่วพร้อม ความตายคงไม่เลวร้าย ไม่น่ากลัวหรอกค่ะท่าน ความตายเหมือนอาภรณ์ติดกายตั้งแต่เกิด เป็นสมบัติติดตัวของทุกผู้คนโดยแท้จริง จะพยายามไม่ลืม ไม่เผลอว่าตัวเองมีสิ่งนี้เป็นเงาตามตัวค่ะท่านธรรมฐิต จะพยายามปฏิบัติต่อเขาด้วยดีดั่งมิตรแท้ค่ะท่าน สาธุ

   Pสวัสดีค่ะ ขอบคุณค่ะที่แวะไปทำความรู้จักกัน

        .

        ทุกคนในครอบครัวคุณเข้มแข็งมากค่ะ ร่วมกันเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน
        .
 
        คุณพ่อดิฉันเคยให้อาหารทางสายจมูก ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นให้ทางหน้าท้อง น้องสาวคนที่ 2 ก็เป็นพยาบาลเช่นกันค่ะ เธอเลยเข้าใจค่ะว่าควรปฏิบัติต่อคุณพ่ออย่างไร  เราเคยหวังว่าคุณพ่อจะอาการดีขึ้น แต่ตอนนี้ เราหวังว่าท่านจะอยู่กับอาการที่ท่านเป็นได้อย่างสงบ     

สวัสดีค่ะ

  • อ่านแล้ว...น้ำตาไหลได้ค่ะ
  • คิดถึงคุณพ่อของพี่คิมเช่นกันค่ะ  ตอนท่านเสียพี่คิมอยู่ขอนแก่นค่ะ
  • ไม่ได้ปรนนิบัตรหรือเห็นใจท่านเลยค่ะ
  • ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ

P

รูปนี้สวยค่ะน้องนก

เกิด แก่ เจ็บ ตายเป้าหมายคือการเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ... การแพทย์ทางเลือก

มหา อ่านแล้วมีความรู้สึกว่าเรายังพร่องสิ่งที่เรารัก

ขอบคุณที่เสนอสิ่งที่ดี ๆๆ

สวัสดีค่ะคุณณัฐรดา

        ขอบคุณที่มาทักทายนะคะ ขอให้กำลังใจต่อการอยู่กับวันที่ดีที่สุดของชีวิต ของคุณณัฐรดา-คุณพ่อและสมาชิกในครอบครัวคุณทุกคนนะคะ

 วันที่ดีที่สุดในชีวิต คือ สันที่เราต้องเดินฝ่าความยากที่สุด ด้วยความเป็นสุขกับสถานะที่เป็น เท่าที่เราจะน้อมใจรับได้

 คุณพ่อของคุณณัฐรดา ท่านคงมีความสุขกับการเจ็บป่วยครั้งนี้ได้ด้วยรักของลูก

 และคุณณัฐรดาและน้องคงเป็นสุขกับปัญหานี้ได้ด้วยการดูแลอย่างดีที่สุดเต็มกำลังความสามารถ

ส่วนอื่นๆนอกเหนือจากนี้ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ตามธรรมชาติ ขอพลังความดีคุ้มครองคุณและครอบครัวค่ะ

และขอเป็นกำลังใจให้ด้วยอีกคนนะคะ

สวัสดีค่ะพี่คิม

ในเหตุการณ์จริงมีอะไรมากกว่านี้เยอะเลยค่ะ

เกิดกระบวนการปรับตัวตั้งแต่ การแสวงหาการวินิจฉัยที่แม่นยำที่สุด

การแสวงหาทางเลือกในการรักษาที่ดีที่สุดที่เราทำได้    

การจัดการภาวะสุขภาพจิตของตนเอง ผู้ป่วย แม่ พี่น้อง

การตัดสินใจเลือกท่านผู้ที่เราจะวางใจ มอบชีวิตพ่อให้จัดการด้านการผ่าตัด

กระบวนการฟื้นฟูสุขภาพหลังการผ่าตัด การเข้ารับเคมีบำบัด

การปรับตัวต่อภาวะแทรกซ้อนหลังรับยาเคมี

การเตรียมใจพ่อ แม่ และตัวเราให้พร้อมยอมรับกับสิ่งที่คืบคลานเข้ามาทุกขณะ

คือ ความตาย อันเป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ทั้งหลายทั้งปวงนี้   

 เราผ่านมาได้จนถึงห้วงสุดท้ายด้วยการยิ้มสู้ค่ะพี่คิม

แม้จะเป็นยิ้มแบบน้ำตาคลอเบ้า(เพราะเราก็แค่ปุถุชน...เนาะ)แต่ก็ยังยิ้มได้ค่ะพี่คิม

 

สวัสดีค่ะพี่เกด

ถูกต้องที่สุดแล้วที่พี่เกดบอกว่า เกิด แก่ เจ็บ ตาย คือ เป้าหมายการเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์

ตามคำกล่าวของแนวคิดการแพทย์ทางเลือก

 เพราะในกระบวนการดังกล่าวทุกลำดับขั้นตอน

 ตัวของเราเองเป็นผู้เลือกที่จะเป็น เลือกที่จะปฏิบัติ ในแต่ละลำดับขั้น

เราทุกคนมีผลลัพธ์เป็นอย่างที่เราเลือกที่จะปฏิบัติ

นกเลือกที่จะดูแลพ่อแบบกลางๆ ไม่ยื้อมากไม่แสวงหาความเป็นเลิศ

 แต่เลือกจุดกลางที่นกและครอบครัวจะเดินเข้าไปน้อมรับการจากพรากด้วยใจที่สงบแล้ว

 ยอมรับแล้วต่อกฏธรรมชาติ ที่เรียกว่า "ตาย"ผลเกิดจากเหตุโดยแท้จริง

สุดท้าย  ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะว่ารูปสวย  พี่เกดคนสวยกว่า

สวัสดีค่ะท่านมหา

     ไม่มีใครพร่องต่อสิ่งใดหรอกค่ะถ้าเรารู้ว่าเราพร่อง  เพราะเมื่อรู้ว่าพร่องเราย่อมรู้ว่าจะเติมตรงไหน

 เป็นเส้นทาง เป็นโอกาสของแต่ละคนในการเลือก

มีนิทานชีวิต 1 เรื่อง นกบรรจุทำงานเมื่ออายุ 19 ปี รัก เคารพ เชื่อฟังพ่อแม่ มาตลอด แต่เป็นเด็กขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ในชีวิตมีแต่เป้าหมายว่า เป็นคนดีเพื่อให้พ่อและแม่ภูมิใจเป้าหมายของชีวิตเพื่อผู้อื่นมาตลอด รับผิดชอบครอบครัวใหญ่ตั้งแต่อายุ 20 ริเริ่มทำธุรกิจหลายๆอย่างเพื่อให้พี่น้องที่ไม่มีงานได้มีงานทำ แต่ละอย่างที่ทำใช้ทุนสูงเช่นการผลิตเสื้อผ้าขายส่ง เปิดร้านขายเสื้อผ้า ขายตรง ที่ไม่ลงทุนเป็นเงินคือขายประกัน มีแต่หน้าที่ที่ต้องทำเพื่อให้ครอบครัวใหญ่อยู่ได้ จนวันหนึ่งจึงได้รู้ว่า เราทำมากเกินไปแล้ว เราดูแลแต่ผู้อื่น จนไม่ได้หันกลับมาดูตนเองเลยว่าตัวเองต้องการอะไร มีประโยชน์กี่มากน้อยในการทำเช่นนั้น พี่ๆ ไม่ได้เรียนรู้ในการพึ่งพาตนเองเลย มีปัญหาอะไรก็จะมาหาพ่อแม่ซึ่งแก่แล้วและไม่มีรายได้เพื่อช่วยเชื่อมประสานว่า "ช่วยพี่เค้าหน่อย" นกก็ช่วยพี่เค้ามาตลอด จนตัวเองแทบไม่ไหวแล้ว จึงได้ทบทวนและเรียนรู้การปล่อยวาง เมื่อเวลาผ่านไปๆอีก 18 ปีถัดมา จึงเริ่มปลดพันธนาการของตนเองเมื่อ 2 ปีมานี้เอง หลังจากที่นกวาง  ทุกคนก็เริ่มรับผิดชอบตัวเอง  เขาก็ดูแลตัวเองกันได้ดี

นกขาดการเรียนรู้ทักษะชีวิตหลายๆด้าน   นกจึงประเมินตนเองและเริ่มกระบวนการจัดหลักสูตรการเรียนรู้ของตัวเอง

ปีนี้หัวข้อการเรียนของนกเป็น การปฏิบัติธรรมร่วมกับการใช้ชีวิตปกติค่ะ

เห็นมั้ยคะท่านมหา นกก็พลาด นกดูแลคนที่เรารักได้ไม่ถูกต้องเลย

นกสอนให้เขาตกปลาไม่เป็น คอยแต่จะให้ปลาเค้า

แต่ท่านมหากลับทำหน้าที่โดยออกไปสู่มหาชน สอนและพัฒนาเค้าให้พึ่งพาตนเอง

 พัฒนาทักษะชีวิตให้กับคนหมู่มาก นี่แหละคือสุดยอดมนุษย์แล้ว

เราทุกคนต่างมีเส้นทางการเรียนรู้ที่แตกต่างแต่  ทุกสิ่งที่เราทำมีคุณค่าในตัวมันเองเสมอ

คนที่ท่านมหารัก ย่อมภาคภูมิใจในตัวท่านมหาเหมือนที่นกเป็นน้องนุ่ง

อยู่กันตั้งไกลไม่เคยเห็นยังภาคภูมิใจและชื่นชมในความดีที่ท่านมหาทำ

 คิดดูสิคะคุณพ่อคุณแม่ของท่านมหาจะมีความภาคภูมิใจอันยิ่งใหญ่มากเพียงใดในสิ่งที่ลูกชายสุดที่รักของท่านทำ 

ชีวิตของคนเรา  ช่างมีเรื่องให้ต้องเรียนรู้มากมายหลายด้านดีจริงเชียว

สวัสดีคะ พี่นก

พอลล่าก็เพิ่งจะเสียคุณพ่อไปประมาณ 1 ปีค่ะ รู้สึกว่ายังไม่ได้ดูแลท่านดีเหมือนกับพี่ที่ดูแลคุณพ่อเลยค่ะ เสียดายที่อุตส่าห์เรียนพยาบาลมากับเขา ..

การสูญเสียเป็นธรรมชาติที่เราต้องพบเจอ แต่เมื่อวันนั้นมาถึงก็ยังมีสติและทำใจ ยากพอควรเลยค่ะพี่

  • สวัสดีค่ะ แวะมาทำความรู้จัก คนก็งาม จิตใจก็งาม

 

สวัสดีค่ะน้องพอลล่า

       จะบอกว่าเสียใจด้วยนะคะก็ไม่ใช่ เราทุกคนต้องพบ ต้องเจอ และต้องยอมรับให้ได้

 เหมือนที่น้องพอลล่าบอกว่า "การสูญเสียเป็นธรรมชาติที่เราต้องพบเจอ แต่เมื่อวันนั้นมาถึงก็ยังมีสติและทำใจ ยากพอควรเลยค่ะพี่"

 แล้วน้องพอลล่าก็ผ่านมาได้ และก็กลับมาสดใสเป็นขวัญใจของพี่ๆ G2K เหมือนเดิมแล้วยังไงเล่าคะ

ที่บอกว่าน้องดูแลคุณพ่อได้ไม่ดี ไม่ใช่เลยค่ะ  สูงสุดแห่งความภาคภูมิใจของคุณพ่อ น่าจะอยู่ ณ วันที่รู้ว่าลูกเติบโตเป็นคนดี    

มีอาชีพสุจริตเลี้ยงตัว สามารถดำรงชีวิตอยู่รอดปลอดภัย   สรรสร้างคุณค่าต่อตนเองและผู้อื่นอย่างเต็มศักยภาพเช่นที่น้องเป็น

อย่างทุกวันนี้ เชื่อเถอะค่ะน้องได้เติมเต็มจิตวิญญาณของคุณพ่อเรียบร้อยไปนานแล้ว 

 แต่โอกาสของการดูแลในระยะสุดท้ายของลูกแต่ละคนก็แล้วแต่เหตุปัจจัยของแต่ละห้วงเวลา  

ไม่มีเหตุให้เสียใจเพราะเราทุกคนล้วนทำสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ในแต่ละนาทีที่ผ่าน

                                                     ยินดีที่แวะมาเยี่ยมนะคะ

สวัสดีค่ะคุณ nana

ขอบคุณที่แวะมาทักทายนะคะ

ขอบคุณสำหรับคำชมด้วยค่ะ

กำลังพยายามปล่อยวางว่ารูปกายก็เท่านั้น

สังขารนี้ไม่เที่ยงค่ะคุณ nana

เรามีการเกิดเป็นธรรมดา เรามีความแก่เป็นธรรมดา เรามีความตายเป็นธรรมดา

สวัสดีค่ะ

  • มาเยี่ยมให้กำลังใจและอ่านสาระดี ๆ ป็นข้อคิดที่เป็นประโยชน์ค่ะ
  • ตอนนี้พี่คิม..อยู่ที่จังหวัดเลยค่ะ
  • มาพักผ่อน...บรรยากาศดีมาก ๆค่ะ

20. Giant bird

เมื่อ อา. 27 ก.ย. 2552 @ 10:03

#1576092 [ ลบ ]

voat แล้วนะคะ มารายงานตัวหลังvoat ค่ะ

.....................................................

ขอบคุณค่ะที่ช่วยกันสนับสนุนโครงการดีๆเพื่อมนุษยชาติค่ะ

พี่คิม อย่าลืมเก็บรูปมาฝากนะคะ

คิดถึงค่ะ

คุณณัฐรดา

ร่วมด้วยช่วยกันค่ะ มีเรื่องใดที่เราทำแล้วเป็นประโยชน์

ย่อมเป็นความภูมิใจที่มีโอกาสได้ทำนะคะ

ขอบคุณที่แบ่งปันโอกาสค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท