เรื่องเล่าของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่บอกต่อมาทางเมล์


ระหว่างเพื่อน

เรื่องเล่าของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่บอกต่อมาทางเมล์

เราเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เคยคิดว่า เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับตัวเองทุกครั้งที่เราได้รับ FWD เมล์มาเราเกิดความรู้สึกรำคาญและกดลบทิ้ง ทำให้เวลามีการเตือนอะไรเราก็ไม่เคยสนใจไม่เคยรับรู้ว่ามี' ภัยสังคมรอบตัว

 

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเราไปรู้จักผู้ชายคนนี้ที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งโดย บังเอิญเราไปกับเพื่อนผู้หญิงหลายคนทั้งๆ

ที่ปกติเราก็ไม่ได้เป็นคนเที่ยวกลางคืนนะ แต่วันนั้นเรามีนัดพบเพื่อนเก่าสมัยมัธยมที่ไม่ได้เจอกันนาน และเสียงโหวตของคนอยากไปที่นี่ก็มากกว่า เราก็เลยต้องไปเจอเพื่อนที่นั่นทั้งๆที่ไม่ได้อยากไปเลย เพื่อนเราหลายคนก็พาแฟนมาเปิดตัวซึ่งเราเองไม่เคยมีแฟน เราไปคนเดียวก็ไม่ได้คิดอะไรมากก็นั่งพูดคุยกันตามประสาคนไม่เจอกันนาน แต่เราก็นั่งได้ไม่นานเริ่มรู้สึกอยากกลับบ้านเพราะว่าเหม็นกลิ่นบุหรี่มาก (เราเป็นภูมิแพ้)และเราก็ไม่ชอบเสียงหนวกหู พูดกันก็ต้องตะโกนอ่ะเลยบอกเพื่อนๆว่า ขอตัวกลับก่อนเอาไว้วันหลังค่อยเจอกันใหม่ แฟนเพื่อนเราคนหนึ่งก็อาสาเดินออกไปส่งขึ้นแท็กซี่ เพราะว่าไม่อยากให้เราเดินคนเดียวออกจากร้านไป เพราะเราไม่คุ้นสถานที่เลย และร้านนี้ก็ไกลจากบ้านมากๆ

 

แต่พอเราเดินออกมาจากร้านไม่นาน รู้สึกตัวอีกที เราก็ตื่นขึ้นมาอีกทีอยู่บนเตียงในโรงแรมแล้ว....

เรามองตัวเอง...ในสภาพเปลือยล่อนจ้อน...เนื้อตัวเป็นจ้ำๆ เรารู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเรายังกะหนังไทยเลยเนอะ

แต่มันคือเรื่องจริงนี่คือตัวเรานี่เราหรือเนี่ย... เราไม่คิดว่าครั้งแรกของเราที่ทนุถนอมมากว่ายี่สิบปีจะต้องมอบให้แก่สัตว์ นรกตัวนี้ เรารวบรวมสติได้ในเวลาอันรวดเร็ว บอกกับตัวเองว่าเราไม่สามารถย้อนเวลาคืนมาได้แล้วเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไร ขึ้นกับเราอีก ถ้าไอ้สัตว์นรกตัวนี้ตื่นขึ้นมา... เราอาจจะถูกมันข่มขืนอีกก็รอบได้ เราเลยรีบแต่งตัวแล้วหวังจะออกจากโรงแรมให้เร็วที่สุดก่อนที่มันจะตื่น เราจะวิ่งๆๆเอาร่างอันโสมมของเราไปให้พ้นจะสถานที่แห่งนี้ให้ได้

เราจะต้องเอาเรื่องมัน เราจะบอกที่บ้านอย่างไรดี.... ป่านนี้พ่อแม่เราจะห่วงขนาดไหนที่ลูกไม่กลับบ้านทั้งคืนโดยไม่ติดต่ออะไร เลยเราจะแจ้งความดีไหมเพื่อนเรารู้หรือยังว่าเกิดอะไรขึ้น สารพัดคำถามที่เกิดขึ้นในใจของเรา

 

ทันใดนั้น..เราก็เห็นโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าสตางค์ของมัน เราเลยรีบคว้าติดตัวออกมาด้วยหวังเป็นหลักฐานให้รู้ชื่อ– สกุลว่ามันคือใครที่อยู่ เบอร์มือถือที่จะติดต่อเอาเรื่องมันได้เมื่อเราแต่งตัวเสร็จ เราเลยคว้าเอาออกมาด้วย

ระหว่างทางที่นั่งแท็กซี่เราร้องไห้ตลอดทางจนคนขับถามเราว่า 'หนูๆเป็นอะไรรึปล่าว'เราได้แต่ตอบไปว่าไม่ได้เป็นอะไร

เพิ่งเลิกกับแฟนเฉยๆ(จะให้เราบอกอย่างไร ว่าเราเพิ่งถูกข่มขืนมา...)

 

ระหว่างนั้นเราได้ยินเสียงคนขับหวังดีคอยพูดปลอบใจเราแต่ฟังไม่ได้ศัพท์ เท่าไรนักเพราะในใจครุ่นคิดแต่เรื่องที่เราจะต้องบอกพ่อแม่เมื่อ เรากลับถึงบ้านให้ได้ว่าเราเป็นอะไร ทำไมไม่กลับบ้านเรา...ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว เราบอกให้คนขับแวะร้านขายยาซื้อโพสตินอร์มา เราไม่เคยคิดเลยว่าเราเองคนนี้นะหรือ ที่เคยรู้สึกภาคภูมิใจกับความบริสุทธิของตัวเอง เรานี่หรือที่เคยรู้สึกเย้ยหยันลูกผู้หญิงด้วยกันเวลาที่พบกระทู้ตามเวบ บอร์ดว่าาอะไรกินป้องกันการท้องหลังการมีเพศสัมพันธ์ได้ เราเคยขยะแขยงคนเหล่านี้เพราะมองแต่เพียงว่า เขาเหล่านั้นไม่รักนวลสงวนตัวรักสนุกเพียงชั่ววูบ แต่ก็เรานี่แหละที่วันนี้ต้องกลับมาเป็นฝ่ายกล้ำกลืนบอกคนขายยาว่าต้องการ ยาโพสตนอร์...

 

คนขายหยิบให้เราด้วยคำพูดว่า'น้อง.. ทีหลังกินยาคุมดีกว่านะมดลูกจะได้ไม่พัง' ด้วยสายตาเหยียดหยามอยู่ไม่น้อย... แล้วเราจะทำอย่างไร..เราจะบอกเขาได้อย่างไร ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับเรา.. เราได้แต่ก้มหน้ารับสภาพไป..... เราขึ้นแท็กซี่คันเดิมที่จอดรออยู่ให้ขับส่งไปถึงที่บ้าน เมื่อถึงบ้านวันนั้นเป็นวันเสาร์ พ่อแม่เราไม่ได้ออกไปทำงานเรารีบบอกพ่อแม่ว่าเป็นลม มีคนนำส่งรพ.ติดต่อพ่อแม่ไม่ได้นี่เพิ่งฟื้นกลับมา พอดีในกระเป๋ามีเบอร์เพื่อนที่รพเขาเลยตามเพื่อนมาได้คนนึง มารับตัวและจ่ายค่ารักษาไปแล้ว เราไม่รู้ว่าเขาเชื่อหรือไม่แต่เราคิดออกได้เท่านี้จริงๆ... และรีบบอกพ่อแม่ว่าขอไปนอนพักที่ห้องนอนก่อน พอขึ้นห้องนอนเรารีบหยิบเอามือถือและกระเป๋าสตางค์ของไอ้สัตว์นรกนั่นออกมาดู แล้วเราก็ต้องตกใจที่พบว่าตัวเองเป็นกำลังเป็นนางเอกคลิปวิดิโออยู่  มัน...มันถ่ายคลิปเก็บไว้เพื่ออะไร

เพื่ออวดคนเพื่อแบลคเมล์เราหรืออะไร.. และไม่ใช่แค่เราคนเดียวยังมีเพื่อนเราในนั้น มีคนอีกเกือบสิบคนที่ตกในสภาพเดียวกับเรา นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เพื่อนเราคนนี้พยายามคะยั้นคะยอนัดพบเพื่อนเก่าเพื่อ

ให้แฟนตัวเองได้ลิ้มรสชาติใหม่ๆหรือปล่าวเนี่ย

 

เราเลยโทรไปถามเพื่อนเรา เหมือนเพื่อนเราจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมันไม่ยอมรับโทรศัพท์ และเลิกติดต่อกับเราอีกเลยเล่ามาถึงจุดนี้ อยากให้เพื่อนๆทุกคนระวังตัวให้ดีอย่าไว้ใจเพื่อนตัวเอง อย่าให้ใครไปส่งเราตามลำพังและหากเกิดอะไรขึ้นต้องมีสติ หากมีโอกาสหยิบมือถือหรือกระเป๋าสตางค์มันออกมาพร้อมกับตัวด้วยก็ ได้เผื่อจะได้มีหลักฐานให้รู้ว่ามันคือใคร

หมายเลขบันทึก: 300668เขียนเมื่อ 25 กันยายน 2009 12:15 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 เมษายน 2012 15:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท