เรื่องเล่าเร้าพลังจากน้องนวลจันทร์ ราชปึ คณะพยาบาลศาสตร์ มมส.


       ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเรียนมหาวิทยาลัย ข้าพเจ้าก็สามารถรับรู้ได้ถึงสิ่งต่างๆที่จะเข้ามาเปลี่ยนชีวิตของข้าพเจ้า จาก มัธยมมาเป็นมหาลัย ซึ่งมันก็มีทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดีปนกันไป แต่เมื่อเราก้าวเข้าสู่ในรั้วของมหาวิทยาลัยแล้วเราก็จะต้องปรับตัวเองให้ เข้ากับมหาลัยให้ได้ในชีวิตประจำวันของข้าพเจ้า 

       ข้าพเจ้ามักวางแผนไว้ว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง?และเมื่อเจอปัญหาข้าพเจ้าจะแก้ได้อย่างไร คือทุกๆวันเมื่ออาบน้ำเสร็จหรือทำกิจกรรมอื่นเสร็จข้าพเจ้าจะมีสมุดหนึ่งเล่มแล้วเปิดเขียนตารางว่าพรุ่งนี้จะทำอะไรบ้าง เช่น วันจันทร์ หลังจากเรียนเสร็จแล้วจะทำอะไรต่อถ้าอ่านหนังสือก็จะเขียนไว้เลยว่าอ่านวิชาอะไร วางแผนกับตารางตัวเองแต่ก็มีบางครั้งที่ข้าพเจ้าไม่ได้ทำตามตารางที่วางไว้ 

       และเมื่อโปรแกรมการอ่านหนังสือที่วางไว้ไม่สำเร็จตอนเย็นข้าพเจ้าก็จะมาทบทวนว่าวันนี้เราทำไม่ได้กี่อย่างและทำได้ตามที่วาง ไว้กี่อย่าง อ่านหนังสือไปแล้วกี่บทที่เรียนมา วิชาไหนที่ยังไม่ทบทวน ข้าพเจ้าก็จะได้รู้ว่าตัวเองพลาดเรื่องไหนไปบ้างแล้วก็หาเวลาทดแทน อาจจะเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะข้าพเจ้ารู้ดีว่าการเรียนพยาบาลนั้นถือว่าหนักพอสมควรและอีกอย่างการเรียนที่มหาวิทยาลัยต่างกับที่เรียนมัธยมปลายมากเราต้องมีความรับผิดชอบตัวเอง เพราะไม่มีใครมาคอยบอกเราเหมือนตอนเรียนมัธยม เราต้องเป็นผู้ใหญ่ให้มากขึ้น อีกทั้งการปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นเพื่อนในคณะและเพื่อนในคณะ และที่สำคัญคือการวางแผนชีวิตตัวเองโดยดิฉันถือหลัก 5 ข้อที่รุ่นพี่แนะนำมาและนำมาปรับปรุงเป็นสูตรที่ตัวเองทำได้ นั่นก็คือ


1.เวลา - เมื่อเรียนหนัก ต้องส่งงานทุกครั้ง เวลาเข้าเรียนทุกครั้ง


2.เพื่อน - ถ้าคบเพื่อนดี ก็ดีไปค่ะ เพื่อนดี นี่แหละ จะพาเราไปรอด ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับตัวเราด้วยการเรียนในมหาวิทยาลัย ต้องคบเพื่อนเป็นกลุ่มค่ะ และต้องช่วยเหลือตัวเองด้วย ไม่ใช่ให้เพื่อนช่วยตลอด


3.งาน - โดยเฉพาะงานกลุ่ม ต้องช่วยกันทำ ไม่ใช่เกี่ยงงานกันทำ รับผิดชอบตัวเองได้ รู้หน้าที่ว่าต้องทำอะไรบ้าง ไม่ใช่ให้เพื่อนทำคนเดียว แบบนี้เพื่อนไม่คบแน่นอน แล้วน้องก็จะอยู่อย่างโดดเดี่ยว จะไปรอดมั๊ยนั่นอีกเรื่องนึงนะ (-_-")


4. ความรับผิดชอบ - ต้องมีความรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา โตแล้ว ควรที่จะรู้เวลา ว่าเวลาไหนควรเรียน เวลาไหนควรเล่น


5.กิจกรรม - การร่วมกิจกรรมต่างๆ ของมหาวิทยาลัย คณะ หรือ ชมรม ถือเป็นส่วนหนึ่ง ที่ต้องเข้าร่วม การร่วมกิจกรรม ทำให้น้องๆได้รู้จักเพื่อนใหม่ หรือ สิ่งเรียนรู้ใหม่ๆ เพราะงั้น เจียดเวลาเข้าทำกิจกรรมมหาลัย

       สรุป - การเรียนในมหาวิทยาลัยนั้น น้องต้องเรียนอย่างหนัก! แต่ไม่ใช่เรียนอย่างเดียวข้าพเจ้าคิดว่าเรา ต้องร่วมกิจกรรมต่างๆด้วย ต้องเอาทั้ง 2 อย่าง ไม่ใช่อย่างใดอย่างหนึ่ง คบเพื่อนต้องคบเพื่อนกลุ่มที่ดีไว้ด้วย ที่ไว้ใจว่าจะพานเราไปรอด และจบไปด้วยกัน ทั้งนี้ เราต้องมีความรับผิดชอบตนเองด้วย ไม่ใช่ให้คนอื่นคอยบอกคอยสั่งตลอดเวลา การทำงานจะต้องทำงานและส่งให้ตรงต่อเวลา อาจารย์จะไม่มีการมาทวงงาน เหมือนตอนมัธยมอีกต่อไปแล้ว การเป็นนักศึกษา ต้องเข้าใจคำว่านักศึกษา คือ มีหน้าที่ศึกษา หาความรู้

       และที่สำคัญทีสุดคือการที่ข้าพเจ้าได้ไปอบรมเรื่องการประกันคุณภาพทีจัดขึ้นเพื่อนิสิตนั้นทำให้ข้าพเจ้าได้นำ หัวใจ  QA  4 ข้อนั้นนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันของข้าพเจ้าให้สามารถดำเนินไปและประสบผลสำเร็จได้ใน 4 ปีรวมถึงการไ

หมายเลขบันทึก: 300371เขียนเมื่อ 24 กันยายน 2009 11:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 02:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

อื้ม มัธยม กับ อุดมศึกษา ต่างกันมาก ต้องขยันเปิดหนังสือมากขึ้น บริหารจัดการเวลามากขึ้น (เงินด้วย)
สรุปต้อง save ทุกอย่าง.......สู้

พยาบาล ปี1 คะ

สมแล้ว ที่เป็น นิสิต แห่ง ตักศิลา แห่งอีสานเฮา

"ถ้าคบเพื่อนดี ก็ดีไปค่ะ เพื่อนดี นี่แหละ จะพาเราไปรอด"

ประโยคนี้ดีคับ แต่เพื่อนดีครบทุกด้านก็คงไม่มีหรอกคับ

แต่ตรง "จะพาเราไปรอด" มันฟังยังไงๆอยู่นะคับ

นวลจันทร์จงคบเพื่อนดีนะคับไม่ใช้เพื่อนที่เห็นแก่ตัว เดี๋ยวนวลจันทร์จะเห็นแก่ตัวเหมือนเพื่อนคับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท