ช่วงเวลาเช่นนี้เชื่อแน่ๆเลยค่ะว่าคงได้ยินเรื่องเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องรหัสลับดาร์วินชีกันอย่างหนาหู ดิฉันเองก็ต้องยอมรับเลยนะค่ะว่าการที่ไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้สืบเนื่องมาจากการที่คนพูดถึงกันมากเลยทำให้อยากดูอยากรู้ว่าเรื่องมันเป็นอย่างไร ทั้งที่โดยส่วนตัวไม่ชอบการดูภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์มากๆเพราะรู้สึกไม่สบายอาจเพราะดิฉันขายาวเวลานั่งจึงจะรู้สึกปวดขามากๆแต่ที่ตัดสินใจไปดูเพราะกระแสและอยากได้คู่มือการดูภาพยนตร์ที่เห็นเขาเล่าผ่านโทรทัศน์ว่าจะแจกค่ะนี้แหละค่ะเหตุผล
โดยส่วนตัวดิฉันเชื่อมั่นและเชื่อว่าทุกศาสนาล้วนแล้วแต่สอนให้คนเป็นคนดีแต่ก็อย่างว่านะค่ะเรื่องของความเชื่อคือทั้งเรื่องการเมืองและเรื่องศาสนาเป็นเรื่องที่อ่อนไหวค่ะจึงได้เกิดปรากฎการณ์เช่นที่เกิดในสังคมขึ้นไปทั่วทุกภูมิภาคของโลก ดิฉันเห็นด้วยนะค่ะที่มีเรียกร้องซึ่งเป็นมุมที่เข้าใจได้ค่ะ เพราะวันที่ไปดูก่อนที่จะมีการฉายมีตัวหนังสือวิ่งระบุชัดเจนว่าเรื่องดังกล่าวเป็นนิยายสร้างจากเรื่องสมมุติ เมื่อเข้าไปดูแล้วก็อยากบอกค่ะว่ามันเป็นนิยายจริงๆค่ะโดยทัศนะของดิฉันเองที่ออกตัวค่ะว่าไม่มีความรู้เรื่องการวิจารณ์ภาพยนตร์ คิดด้วยซ้ำค่ะว่าการดำเนินเรื่องเหมือนภาพยนตร์ต่างประเทศแนวสืบสวนสอบสวนทั่วๆไปคือมีการพลิกกลับไปกลับมาของเรื่อง และตัวละครคือดูแล้วก็สนุกนะค่ะตั้งแต่เริ่มดูแล้วก็มีความรู้สึกแล้วว่ามันคือนิยายคือหนังคือเรื่องสมมุติค่ะ ตัวละครดิฉันจำชื่อแทบไม่ได้หากจะมีใครให้เล่าให้ฟังคงไม่สามารถค่ะคือเล่าให้ฟังไม่ได้ แต่ที่บอกได้อาจจะบอกได้ว่าก็สนุกดีนะค่ะสนุกแบบหนั่งฝรั่งแนวสืบสวนทั่วๆไปค่ะ แต่ที่แน่ๆที่รู้สึกคือรู้สึกกว่าตัวดิฉันเองก็ได้ตกเป็นเหยื่อของกระแสไปเป็นที่เรียบร้อยค่ะทั้งๆที่ไม่ชอบการดูภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์เหตุผลอย่างที่เรียนไปข้างต้นแต่ก็นะค่ะไปดูค่ะ
กรณีศึกษาสำหรับตัวดิฉันเองก็คือการสร้างและการเป็นกระแสมีผลต่อความอยากรู้และอยากเห็นของคนซึ่งกำลังคิดต่ออยู่ว่าหากจะนำไปปรับใช้กับงานที่ทำอยู่คือการจัดคอสร์การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ที่ผ่านการคัดกรองความเสี่ยงจะต้องทำอย่างไรดี หากแค่การทำให้เกิดกระแสคงพอที่จะสามารถทำได้บ้างแต่การที่จะทำให้กระแสคงอยู่นี้ซิค่ะยอมรับจริงๆเลยค่ะว่ากลุ้มใจและคิดไม่ออกเลยจริงๆ
ปล. แต่ที่แน่ๆเรื่องหน้าที่จะยอมปวดขาและไม่พลาดคือก้านกล้วย ช้างไทยที่ดูอย่างไรก็น่ารักจังเลยค่ะ