วราภรณ์
นางสาว วราภรณ์ (ดอกไผ่) ธรรมทิพย์สกุล

มหัศจรรย์เดือนกันยายน


หากนักการเมือง และข้าราชการทุกคนมีจิตวิญญาณที่เสียสละ ..

กราบเท้า    คุณลุงคุณป้าที่เคารพรัก

                  

         วันนี้เป็นวันแรมสิบห้าค่ำ  เดือนสิบค่ะ    ตรงกับวันสารทไทยซึ่งไทยได้รับอิทธิพลความเชื่อมาจากศาสนาพราหมณ์   
การทำบุญในวันนี้ถือว่าเป็นการทำบุญให้กับญาติที่ล่วงลับไปแล้วค่ะ...

         เคยคุยกับนักอ่านท่านหนึ่ง   ท่านพูดให้ฟังน่าคิดว่า  เคยสังเกตไหมว่าเดือนกันยายน    ทำไมถึงตรงกับวันสำคัญของศาสนาต่างๆ  เช่น   พุทธศาสนา  (มีวันสารทไทย )    ศาสนาอิสลาม (ตรงกับเดือนรอมฎอน  เป็นเดือนที่ชาวมุสลิมทั่วโลกถือศีลอด )  ส่วน คริสต์ศาสนา  ( วันที่  29 กันยายน  เป็นวันฉลองทูตสวรรค์  มิคาเอล คาเบรียล และราฟาเอล )   แสดงว่าทุกศาสนาน่าจะมีพระเจ้าองค์เดียวกัน....   ได้แต่รับฟังค่ะ  แต่ที่แน่ ๆ  ศาสนาพุทธเราเป็นศาสนาอเทวนิยม  ไม่มีพระเจ้าแน่นอนนะคะ..

            คุณลุง  คุณป้า คะ    ช่วงระยะเวลาหลายปีมานี้  ประเทศชาติบ้านเมืองของเราบอบช้ำมาก      บางทีการที่ไม่ต้องรับรู้เรื่องราวการเข่นฆ่ากันเองของคนไทย    อาจทำให้ชีวิตสงบเย็น   และมีความสุขมากกว่านะคะ

           วันนี้ตรงกับวันครบรอบสามปีของการทำรัฐประหารในประเทศไทยสิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นไป ล้วนมีเหตุและผลตามกฎแห่งการกระทำ       ซึ่งหากวิเคราะห์ถึงต้นสายปลายเหตุก็คงไม่พ้นกิเลสตัณหาของผู้คนที่หมกมุ่นมัวเมาอยู่ในอำนาจลาภยศ  หากนักการเมือง  และข้าราชการทุกคนมีจิตวิญญาณที่เสียสละ  ทำทุกอย่างเพื่อชาติบ้านเมือง  ประชาชนทุกคนคงมีรอยยิ้มกินอิ่มนอนหลับ    ไม่ต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์เช่นทุกวันนี้

            ช่วงหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา มีกิจกรรมดี ๆ  ที่น่าสนใจอยากเล่าให้คุณลุงคุณป้าฟังค่ะ  

           เรื่องแรกก็คือ      การพานักเรียนไปอบรมตามโครงการยุววิจัยประวัติศาสตร์ท้องถิ่นที่โรงแรมทาวน์อินทาวน์  ในวันที่  ๕  กันยายน   ได้สาระประโยชน์มากมายค่ะการเดินทางค่อนข้างลำบาก  ออกจากโรงเรียนตั้งแต่ ๐๕.๐๐ น.   ไปถึง ๐๗.๐๐ น   เขารับลงทะเบียนตอน  ๐๘.๓๐  น.  ไปนั่งรอตั้งนานค่ะ   แล้วก็เป็นสัจธรรมนะคะที่ว่า  “คนบ้านไกลมักมาก่อน”    หนูหน่อยไปกับนักเรียนอีกสองคนค่ะ      โดยจ้างรถรับจ้างไปค่ะ

 

          งานนี้ได้แนวคิดหลักเกี่ยวกับการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นเป็นอย่างดี   มีการเชิญตัวแทนนักเรียนที่มีโครงการดีเด่นออกมานำเสนอ  ๓  โครงการ  ขอยกตัวอย่าง  เรื่องของ ค้างคาวที่เขาช่องพราน      นักเรียนที่สนใจเรื่องนี้ได้ลงพื้นที่ศึกษาเรื่องราวของค้างคาวนับล้านตัวที่เขาช่องพราน  จ.ราชบุรี    จากเดิมมีปัญหาก็คือ  “มูลค้างคาวท่วมถ้ำ”   ชาวบ้านจึงไปช่วย   และจุดเริ่มต้นนี่เองกลับกลายเป็นรายได้ให้กับทางวัด    และชาวบ้าน     ในแต่ละปีวัดแห่งนี้จะมีรายได้จากมูลค้างคาว   ปีละ เกือบสองล้านบาท โดยชาวบ้านต้องแบ่งให้วัด๖๐ เปอร์เซ็นต์   และวัดก็นำเงินจำนวนนี้ไปพัฒนาวัดและช่วยสังคมสืบต่อไป

 

 

            ค้างคาวจึงเป็นสัตว์ที่มีคุณค่า    ถึงกับปั้นรูปค้างคาวไว้หน้าวัด....

            นอกจากนี้ยังได้ฟังนักคิดนักปราชญ์จากหลากหลายสาขาอาชีพที่ชี้ให้เห็นถึงคุณค่าในการปลูกฝัง ความรัก  ความศรัทธา ตระหนักในคุณค่าของวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ตนมีอยู่  ไม่ว่าจะเป็นการเชิดหุ่น   ศิลปหัตถกรรม  เครื่องจักสาน  ความเชื่อประเพณี  พิธีกรรมต่าง ๆ  ที่เปรียบเสมือนรากแก้วที่มีคุณค่าซึ่งสามารถยึดเหนี่ยวจิตวิญญาณของผู้คนให้มีความรัก  ผูกพันต่อกันไม่รู้จบ

                 

            มีคำพูดของราชบัณฑิตท่านหนึ่งซึ่งท่านกล่าวเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างของ หญ้าแฝกกับผักตบชวาฟังแล้วก็เกิดความเข้าใจชัดเจน  หญ้าแฝกมีรากที่ยาวยึดเหนี่ยวหน้าดิน   รักษาหน้าดินไว้ได้เพราะมีรากที่มั่นคง     ผักตบชวาก็มีรากที่ยาวเหมือนกันแต่ผักตบชวาไม่มีดินยึดเหนี่ยว    คนเราจำเป็นต้องมีราก และรากนั้นต้องมีเครื่องยึดเหนี่ยวจึงจะอยู่ได้อย่างมีคุณค่ามิเช่นนั้นจะกลายเป็นวัชพืช....

           ฟังแล้วก็มองเห็นปัญหาวัฒนธรรมของไทย   ที่นับว่าก็เหมือนผักตบชวาที่ไม่มีดินเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว     หากคนไทยยังหลงใหลในวัฒนธรรมต่างชาติอย่างที่เห็นและเป็นอยู่อย่างกู่ไม่กลับ   ก็น่าเป็นห่วงมรดกทางปัญญาที่บรรพบุรุษเฝ้าสืบสานอนุรักษ์นะคะ

            ตอนกลับได้พบเพื่อนต่างโรงเรียน   ห่างจากโรงเรียนหนูหน่อยเกือบ ๗๐ กิโลเมตร    ชวนเขากลับด้วยเพราะเขานั่งรถประจำทางกลับ  ออกจากห้องประชุมก็ห้าโมงเย็นแล้วค่ะ    นึกเป็นห่วงเขา    ตอนแรกเขาขอลงระหว่างทางถามไปถามมาเขาก็จะไปอาศัยรถข้างหน้า     จึงเหมารถคันที่จ้างมาให้ไปส่งเขาด้วยซึ่งเจ้าของรถก็ยินดี   หนูหน่อยเองก็มีตัวหารค่าใช้จ่ายเพิ่ม   แต่กลับบ้านดึกอีกประมาณเกือบ  ๑ ชั่วโมง   หากแต่เราได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้เขามีความสุขและพ้นทุกข์ก็พึงทำมิใช่หรือคะ ?

 

           เรื่องสุดท้ายที่จะเล่าก็คือการพานักเรียน ชั้น ม.๖ไปเข้าค่ายวิทยาศาสตร์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา  รังสิต   เมื่อวันที่  ๑๘  กันยายน ค่ะ   

           

           นักเรียนที่ไปจะมีเด็กที่เรียนสายวิทยาศาสตร์จริง ๆ  ประมาณ ๗๐ คน  แต่เด็กที่เหลืออีก ๑๒๐  คน เรียนสายศิลป์ – ภาษา  ค่ะ  แต่แปลกที่เวลาทำกิจกรรมแข่งขันกันจริง ๆ  เด็กสายวิทย์กลับแพ้ค่ะ... คณะวิทยากรส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยหนุ่มสาวต่างก็ตั้งใจจัดกิจกรรมเป็นอย่างดี   ทำให้นักเรียนได้ความรู้และสนุกสนาน   สุดท้ายก็ไปชมท้องฟ้าจำลอง   โดยดูภาพยนตร์เรื่อง  “กำเนิดชีวิต”   แสงสีเสียง  ตื่นเต้น  เร้าใจ  ดีมากค่ะ  ในชีวิตไม่เคยเข้าไปชมมาก่อน  นอนมองดูดวงดาว   ดวงจันทร์ก็เพลิดเพลินและมีความสุขดีค่ะ   เสียดายที่จบเร็วไปหน่อยกำลังเพลินเลยค่ะ    (ราคาเข้าชมเพียง   ๓๐  บาท)

       

            ทำให้คิดถึงอุทยานมังกรสวรรค์ที่จังหวัดสุพรรณบุรีที่นั่น  มีพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร   เฉพาะตัวมังกรราคา ๒๐๐ ล้านบาท  ใช้เวลาสร้างหลายปีค่ะ  เกร็ดมังกรเกร็ดละ ๕๐๐  บาท   ตัวพิพิธภัณฑ์อยู่ใต้ตัวมังกรค่ะต่างกันตรงที่ผู้ชมต้องเดินเคลื่อนที่ไปตามห้องต่าง ๆ ซึ่งมีทั้งหมดสิบสี่ห้อง  แต่ละห้องจะมีประตูอัตโนมัติปิดในเวลาที่กำหนด  ต้องรีบเข้าให้เร็วที่สุด   ไปชมแล้วก็ตื่นเต้นเร้าใจ  อยากจะไปอีก  แต่เสียดายค่าชมค่ะ  ตั้ง  ๒๙๙  บาท...

                  

            เล่าไปไกลถึงสุพรรณบุรีเสียแล้ว... กลับมานครปฐมดีกว่าค่ะ   จริง ๆ แล้วก็ถ่ายภาพมาหลายภาพ  แต่อยู่ที่โรงเรียนค่ะไม่ได้นำกล้องมา ต้องขออภัยด้วยค่ะ   ดูภาพจากอินเทอร์เน็ตเท่าที่หาได้ไปก่อนนะคะ

      

            คุยแค่นี้ก่อนนะคะ วันนี้เป็นวันพระหนูหน่อยจะรักษาศีลแปด  ต้องรีบสวดมนต์นอนแล้วค่ะ  พรุ่งนี้ทำบุญตักบาตรตอนเช้าต่อค่ะ

                                    ด้วยความเคารพรัก
                                         หนูหน่อย
                                ๑๙ กันยายน ๒๕๕๒


"เมื่อไม่มีน้ำใจให้ใครก็อย่าหวังน้ำใจจากใคร"
             (พระธรรมกิตติวงศ์)

 

                                                                                    

                       

 

 

หมายเลขบันทึก: 299114เขียนเมื่อ 20 กันยายน 2009 07:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:34 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ที่บ้านมีมหัศจรรย์เดือนกันยายนคือลูกแม่ 4 คนเกิดเดือยนกันยายน

หลานอีก 3 คน ก็เกิดเดือนกันยายน

  • สวัสดีค่ะ  คุณครู ป.๑
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมและทักทายค่ะ
    เปลี่ยนรูปโฉมใหม่   ตามหากันยากกว่าเดิมนะคะ
  • ทั้งลูกทั้งหลานเกิดเดือนกันยายนหมด  เหลือเชื่อและ
    มหัศจรรย์จริง ๆ ค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท