ผมลาออกจากราชการ เปลี่ยนสถานภาพเป็นข้าราชการบำนาญและทำสัญญาเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยอีก ๓ ปีนับแต่ปีที่แล้ว รู้สึกใจหายเพราะนับแต่ทำงานราชการมา ผมคิดว่าผมหยิ่งในความเป็นข้าราชการ
คิดในใจเงียบๆอยู่เสมอว่าผมจะร่วมพิสูจน์และร่วมสร้างทัศนคติของสังคมเสียใหม่ว่าข้าราชการนั้นเก่ง ทำงานหนัก และเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่ดีในที่ซึ่งตนเองรับผิดชอบ แต่ผมก็มีส่วนในการเคลื่อนไหวและขับเคลื่อนการปรับตัวการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐบาล แม้จะเล็กน้อยมาก แต่ก็ต้องถือว่ามีส่วนในการคิดสนับสนุน
พอมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ ก็แทบจะไม่มีคนออกไปอยู่ในระบบใหม่ ผ่านไปนับปีก็ไม่ถึงร้อยละ ๕ ในหน่วยงานผมนั้นยิ่งแล้วใหญ่ ไม่มีเลย ผมจึงขอลาออกเป็นคนแรกและมีน้องอีกคนหนึ่งลาออกตามเป็น ๒ คน ทั้งที่ใจหายมากที่จะต้องอำลาชีวิตราชการ
แต่สังคมต้องเดินหน้า อีกทั้งผมก็อาวุโสและเป็นผู้บริหารด้วย ผู้คนจะอุ่นใจและร่วมมือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆกันได้อย่างไรหากเราเองไม่นำเขา ตอนนี้เลยเป็นข้าราชการบำนาญและเป็นพนักงานสักระยะหนึ่งก่อนอำลากรุงเทพฯเพื่อใช้ชีวิตและเตรียมทำงานอย่างไม่ต้องมีการเกษียณอีก.
เจริญพรคุณโยมอาจารย์วิรัตน์และท่านผู้อ่านทุกท่าน
ขอเจริญพร
พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)
พอทราบว่าอาจารย์ทำงานอยู่ ม.มหิดล ศาลายา เวลาไปเยี่ยมบุพการีที่พุทธมณฑลสาย 4 ก็จะคิดถึงอาจารย์ค่ะ เพราะแค่เลี้ยวหน่อยเดียวก็ถึงแล้ว แต่ก็ไม่เคยมาทำความรู้จักอาจารย์เป็นการส่วนตัวสักที ทั้งๆที่ชื่นชมผลงานผ่านบล็อคมานานแล้ว
สื่ออินเตอร์เน็ตก็ดีอย่างนี้นะคะ อยู่ไกลกันถึงไหน หรือแม้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ก็สามารถชื่นชม ส่งข่าวถึงกันได้
มีความสุขกับสัปดาห์ใหม่นะคะอาจารย์
สวัสดีค่ะ
ดีจังค่ะ ติดตามข้อเขียนอาจารย์มานาน จะมีโอกาสได้รู้จักตัวจริงแล้ว
ขอบคุณค่ะ
อาจารย์ครับ
(๑) บ้านผมอยู่พุทธมลฑลสายสามครับ แวะเวียนไปมาที่มหิดลบ่อย ๆ ทั้งที่ ว.ดุริยางคศิลป์ และ สถาบันวิจัยโภชนาการ
(๒) ผมไม่เคยเป็นราชการ แต่เคยเป้นพนักงานรัฐในองค์การมหาชน เพิ่งลาออกมาเมื่อสองเดือนครับ มิตรสหายตั้งคำถามทั้งต่อหน้าและฝากถามมากมายถึงสาเหตุการออก
(๓) ผมรับปาก อ.สุกรี ว่าจะไปร่วมงานกับท่านในเร็ววันนี้ แต่ก็ยังถามตัวเองถึงคุณสมบัติและศักยภาพของตัวเอง
(๔) ที่สุดแล้ว ลึก ๆ ผมอยากเป็นชาวบ้าน ทำการผลิตเลี้ยงตัวเอง แต่ก็ทำไม่ได้ เนื่องจากทักษะทั้งหลายถูกทำลายจากการเข้าระบบการศึกษา
ขอหนุนให้ไปทำและเรียนรู้อย่างสูงสุดครับ
สวัสดีตอนบ่ายค่ะอาจารย์
อาจารย์ครับ
ความรักและเคารพที่ผมมีให้กับ อ.สุกรี มีมากครับ
เพราะผมรักและเคารพท่านมาก จึงทำให้ผมคิดมาก ว่าผมควรตัดสินใจอย่างไร
ผมมีคุณสมบัติที่เกือบจะเรียกได้ว่าตรงกันข้ามกับสมาชิกของ ว.ดุริยางคศิลป์
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผมหนักใจที่สุด ถึงแม้ว่าการตัดสินใจนั้นจะเป้นการเสียสละ
ยิ่งอาจารย์ให้ความเห็นมา ผมยิ่งคิดหนัก
แต่ก็ขอบพระคุณอย่างสูงในความเห็นสำหรับคนสติปัญญาจำกัดอย่างผมครับ
สวัสดียามบ่ายถึงเย็นเลยครับคุณณัฐรดา บล๊อก GotoKnow เขาปรับหน้าเว็บบล๊อกให้ทุกคนใหม่ไปด้วยเลยได้แวะเข้าไปดูหน้าประวัติของเจ้าของได้ง่าย ถึงได้รู้ว่าคุณณัฐรดาเป็นศิษย์เก่า มอชอ ลูกช้างเหมือนกัน ดีใจครับ
สวัสดีค่ะ หนูเป็นอีกคนหนึ่งที่ปลื้มความกล้าหาญในแบบผู้นำของอาจารย์เป็นอย่างมาก เยี่ยมไปเลย
ได้บทเรียนมากและได้ความรู้สึกต่อตัวเอง ที่ทำให้พร้อมจะให้ความเข้าใจแก่คนอื่นดีมากเลยครับ เป็นประสบการณ์และบทเรียนชีวิตที่ได้ประสบแก่ตนเอง ซึ่งยากจะเข้าถึงได้ด้วยการคาดการณ์หรือฟังการถ่ายทอดจากประสบการณ์ของคนที่เขาผ่านไปก่อน
การลาออกจากราชการนั้น ใครจะมองหมิ่นแคลนราชการอย่างไรผมก็คิดว่ามีมืออาชีพทางราชการและคนที่มีความเป็นข้าราชการอย่างอุทิศตนอยู่จำนวนมากที่หยิ่งในความเป็นข้าราชการและให้คุณค่าการทำงานด้วยความเป็นข้าราชการที่มากกว่าการทำเพื่อการได้เงินเดือนและได้ความสมบูรณ์พูนสุขทางวัตถุอย่างการทำงานเอกชน และเมื่อลาออกก็จะเสียใจ ผมเองก็เป็นอย่างนั้น แต่เรื่องอย่างนี้ก็ป่วยการที่จะไปอาลัยอาวรณ์ มองไปข้างหน้าและเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆได้ทุกเมื่อดีกว่า
พอไปที่ทำงานใหม่ ก็เลยได้ใช้ประสบการณ์กับเรื่องเล็กๆน้อยๆแต่เพราะได้เจอกับตนเองอย่างนี้ ผมเลยคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญ คือ ผมต้องไปนั่งแทนที่อาจารย์อาวุโสท่านหนึ่งที่ท่านเพิ่งเกษียณไปพอดี แต่การเข้าไปของผมจะต้องทำให้ท่านต้องรีบย้ายข้าวของออกจากห้อง ซึ่งผมทำไม่ได้หรอกครับ และเพื่อไม่ให้คนอื่น รวมทั้งหัวหน้าภาคฯซึ่งเป็นผู้บริหารเกิดความลำบากใจที่จะต้องจัดการให้ผม ผมก็เลยบอกให้ทราบว่าไม่ต้องรีบ เพราะเรื่องแค่นี้กับความรู้สึกของคนที่ผูกพันมาทั้งชีวิตนั้น เราควรให้ความสำคัญ หลายเรื่องเรามีโอกาสทำได้ดีกว่าเดิมอีก แต่การทำดีๆต่อกันกับผู้คนที่ได้เจอ แต่ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะได้เจอและทำดีด้วยกันอย่างวันนี้อีกหรือไม่นั้น เราต้องรีบให้สิ่งดีๆต่อกัน
หัวหน้าภาคและเพื่อร่วมงานในที่แห่งใหม่ของผมก็ดีจังเลยครับที่รับฟังเหตุผลง่ายๆนี้ ท่านจัดให้ผมนั่งโต้ะของท่านเองเสียเลย ซึ่งเป็นทั้งเรื่องดีและไม่เหมาะสมสำหรับผม เรื่องดีคือผมเคารพนับถือวิถีวิชาการหัวหน้าภาควิชาซึ่งในอีกโสดหนึ่งนั้น ท่านเป็นอาจารย์ผมเองอีกด้วย ผมอยากนั่งเพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำในชีวิต แต่อีกแง่หนึ่ง ผมมิบังอาจตีเสมอ ไม่ว่าท่านจะอนุญาตอย่างไรหรือไม่ก็ตาม ผมเลยขอนั่งตรงโต้ะที่ท่านจัดไว้ให้นักศึกษาไปพบท่าน ด้านหน้าของโต๊ะท่านนั่นแล้ว ซึ่งท่านก็ไม่ยอม ผมก็ไม่ยอมเช่นกัน ตกลงเลยเจอกันครึ่งทางคือ ผมนั่งให้ท่านเห็นให้ท่านพอใจ เสร็จแล้วก็ขอนั่งทำงานในที่เดิม รอให้อาจารย์อาวุโสอีกท่านหนึ่งท่านได้มีเวลาทำใจเพื่อเปลี่ยนแปลงในชีวิตครั้งใหญ่ในชีวิตการทำงานของท่าน
ตอนนี้ผมมานั่งอยู่ในห้องใหม่ ใหม่สำหรับผมแต่เป็นที่เดิมก่อนเก่าของอาจารย์อาวุโสท่านที่ผมได้กล่าวถึง ซึ่งดูเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก แต่การได้เจอแก่ตนเองนั้น ทำให้ผมรู้ว่าความรู้สึกและสิ่งอันมีความหมายต่อชีวิตของปัจเจกอันเล็กน้อย โดยเฉพาะต่อชีวิตการเป็นข้าราชการนี้ ผมได้ให้ด้วยสำนึกว่ามันสำคัญมากสำหรับผมต่อผู้อื่น ไม่ใช่เพื่อจะให้เขาพอใจผมและมาเคารพตัวตนของผม แต่อยากให้เขาได้ความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง และนำความรู้สึกดีที่ได้รับจากผู้อื่น ไปสร้างสรรค์สิ่งดียิ่งๆขึ้นต่อสังคมที่เป็นใครก็ได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในจิตวิญญาณความเป็นข้าราชการนะผมว่า.
ตอนนี้ มหาวิทยาลัยของผมกำลัง จะออกไปสู่ ม.ในกำกับ
ผมบรรจุรับราชการ ตั้งแต่ ซี 3 จนปัจจุบัน เป็น ผศ.8 ทำงานมา 16 ปี
อีก 8 ปีจะได้บำนาญ และออกนอกระบบ ต้องลาออก เหมือนอาจารย์เลยครับ
รู้สึกใจหายมาก
สวัสดีค่ะ อยากทราบจำนวนประชากรของพนักงานมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐทัังหมด 20 แห่งในปัจจุบัน จะหาข้อมูลได้จากที่ไหนได้บ้างคะ เนื่องจากจะนำข้อมูลมาอ้างอิงประกอบการทำงานวิจัยน่ะคะ
ขอบพระคุณมากนะค่ะ