แนวทางใหม่ในการบริหารบุคลากรยุคใหม่
คนเป็นหัวใจสำคัญขององค์กร และเป็นสิ่งที่บริหารจัดการยากที่สุด การบริหารคนในอดีตที่ผ่านมาได้มีการพัฒนามาหลากหลายรูปแบบ ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง
การบริหารคนในอดีตที่ผ่านมาจะมุ่งเน้นการบริหารเฉพาะคนที่เป็น “คนทำงาน” ไม่ได้บริหารคนทั้งชีวิต ซึ่งจะตรงกับสุภาษิตที่ว่า “ตาบอดคลำช้าง” หมายถึง การที่เรามมองเห็นและบริหารคนเพียงบางส่วนของชีวิตเท่านั้น ถ้าเรามองเพียงค่าจ้างเพียงเดียว เราก็จะทราบเพียงว่าคนทำงานต้องการค่าจ้างที่สูง ถ้ามองเรื่องสวัสดิการ ก็จะทราบว่าคนทำงานต้องการสวัสดิการที่ดี ถ้าเรามองเพียงเรื่องตำแหน่งหน้าที่การงาน เราก็จะทราบว่าคนทำงานต้องการความก้าวหน้าในอาชีพ
แต่ ..... ถ้ามองโดยภาพรวมของคนเรา เขาเหล่านั้นต้องการอะไรที่มากกว่านี้ แล้ววิธีการใดที่เหมาะสมกับการบริหารคนแต่ละแบบเพราะคนบางคนต้องการค่าจ้างที่สูงไม่ต้องการสวัสดิการ เพราะเขาต้องการเงินเดือนที่สูงไปบริหารสวัสดิการด้วยตนเอง คนบางคนต้องการสวัสดิการที่ดีเงินเดือนไม่สูงมากนัก คนบางคนต้องการตำแหน่งหน้าที่การงานที่สูง ๆ เงินเดือนพอประมาณ สวัสดิการไม่จำเป็น
เพื่อช่วยให้ท่านผู้บริหารขององค์กรต่าง ๆ มีแนวทางในการวางแผนการบริหารบุคลากรในปีต่อ ๆ ไป ได้มีผู้เขียนเสนอแนวทางในการนำเอาเรื่องของ 360 Degree HR management มาใช้กับการบริหารบุคลากร ดังนี้
Ð ปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์ในการบริหารคน
องค์กรต้องเริ่มจากการปรับเปลี่ยนมุมมอง วิสัยทัศน์ในการบริหารคนใหม่ จากการที่มองคนเพียงพนักงานเป็นประชากรพนักงาน ซึ่งจะเป็นการมองคนทั้งชีวิต ต้องมองออกไปในวงที่กว้างขึ้น การที่เราจะมองอะไรได้กว้างขึ้นนั้น เราจะต้องถอยห่างจากสิ่งที่เรากำลังมองอยู่ยิ่งห่างมากขึ้น เรายิ่งจะเห็นภาพรวมได้ดียิ่งขึ้น ขอให้ผู้บริหารถอยห่างจากจุดที่มองพนักงานเป็นเพียงพนักงานผู้ที่ช่วยสร้างผลประโยชน์ให้กับองค์กร ไปสู่การมองไกลออกไปอีกว่าพนักงานคือคนที่จะช่วยสร้างผลประโยชน์ให้กับครอบครัวของเขา ชุมชนของเขา และสังคมของเขาด้วย เพราะถ้าทุกองค์กรมองแบบนี้ สุดท้ายทุกองค์กรเห็นความสามารถของบุคลากรที่ซ่อนอยู่ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น การปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้บริหารถือเป็นเรื่องที่สำคัยมาก เพราะเมื่อมุมมองของผู้บริหารในเรื่องการบริหารคนยังเป็นมุมเดียวมุมเดิมอยู่ สไตล์การบริหารก็จะเหมือนเดิม ผลที่เกิดขึ้นก็ไม่แตกต่างไปจากสิ่งที่เคยเกิดขึ้นแล้วในอดีต
Ð ศึกษาวิเคราะห์ เชิงวิจัย
การบริหารคนยุคใหม่จะต้องมุ่งเน้นการศึกษาเชิงวิจัยเกี่ยวกับบุคลากรมากยิ่งขึ้น ในอดีตที่ผ่านมา
เรามักจะทำได้ดีที่สุดก็แค่สำรวจ สอบถาม หรือไม่ก็เป็นเพียงวิทยานิพนธ์หรือผลงานของนักศึกษา ก่อนจบการศึกษาเท่านั้น เหตุผลหนึ่งที่เราบริหารคนยังได้ไม่ดีเท่าที่ควรเพราะเรารู้จักคนของเรายังไม่ถ่องแท้ ควรจะลงทุนในการศึกษาเชิงวิเคราะห์วิจัยเกี่ยวกับคนมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นแล้วศักยภาพของบุคลากรของเราคงจะสู้ประเทศอื่นไม่ได้ และในขณะเดียวกันองค์กรแต่ละองค์กรควรจะต้องทำเรื่องของการวิจัยควบคู่ไปกับการพัฒนาฝึกอบรม
Ð สร้างความสมดุลในการบริหาร
คนเราเมื่อเข้าใจชีวิตของคนแล้ว ควรจะเอาภาพรวมของชีวิตคนมาใช้ประโยชน์ในด้านการบริหารจัดการ ซึ่งเครื่องมือในการบริหารจัดการก็มีให้เลือกมากมาย เช่น การบริหารคนแบบยืดหยุ่น เหมือนกับการจ่ายค่าโทรศัพท์มือถือบางบริษัทเปิดโอกาสทางเลือกให้กับลูกค้าเลือกได้หลายแพ็คเก็จ เนื่องจากชีวิตคนมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ถ้าเราบริหารแบบยืดหยุ่นก็จะช่วยให้คนทำงานแต่ละคนสามารถเลือกแพ็กเก็จการทำงานที่เหมาะสมกับสถานะชีวิตของตัวเองได้ในแต่ละช่วงเวลาได้
Ð สร้างวัฒนธรรมการสะท้อนกลับ
องค์กรจะเริ่มสนับสนุนการสร้างวัฒนธรรมในการให้ข้อมูลย้อนกลับในทุกระดับทั้งระดับองค์กร ระดับหน่วยงาน ระดับบุคคล รวมถึงการกระจายไปสู่บุคคลที่อยุ่วงนอกขององค์กร เช่น ลูกค้า ผู้ค้า สังคม ครอบครัวพนักงาน ทั้งนี้เพื่อให้องค์กรได้รับข้อมูลสะท้อนกลับในทุก ๆ ด้าน และสามารถนำข้อมูลมาศึกษาวิเคราะห์เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการบริหารบุคลากรในภาพรวมได้ดียิ่งขึ้น
นี่คือแนวคิดเล็กๆน้อยๆ ที่จะทำหน้าเสมือนกับเพื่อนช่วยคิดให้กับนักบริหารคนในองค์กรต่างๆ เท่านั้น ดังนั้นแนวคิดบางแนวคิดอาจจะเหมือนหรือต่างจากท่านผู้บริหารคนอื่นก็ได้ ก็คิดว่าคงจะใช้ได้บ้างในบางแนวคิดก็แล้วแต่ท่านที่จะเลือกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับองค์กรของท่าน และถ้ามีไอเดียดี ๆ ก็ช่วยแสดงความคิดเห็นหน่อยนะค่ะ .......
ดีครับผม ขนมถ้วย กล้วยทอด
ใช้ได้นะครับ