ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์เช่นนี้ ความสุขอย่างหนึ่งของข้าพเจ้าคือการได้นั่งจิบกาแฟร้อนกลิ่นหอมละมุนในตอนเช้า ส่วนในช่วงบ่ายก็ต้องกาแฟสดรสชาติกลมกล่อมสักแก้วน่ะสิ....
นอกจากจะหลงใหลในกลิ่นและรสชาติของกาแฟแล้ว......“ร้านกาแฟ” เป็นอีกหนึ่งที่ข้าพเจ้าติดใจในบรรยากาศ ในสมัยก่อนมีสภากาแฟเป็นที่ชุมนุมแสดงความคิดเห็น ปัจจุบันมีร้านกาแฟหลากสไตล์ผุดขึ้นมากมาย แต่บรรยากาศแห่งมิตรภาพก็ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าอัธยาศัยของเจ้าของร้าน หรือแขกมากมายที่แวะมาชิมกาแฟอย่างไม่ขาดสาย สิ่งเหล่านี้ทำให้ร้านกาแฟเป็นสถานที่ที่คนมากมายประทับใจและเลือกที่จะกลายมาเป็นลูกค้าประจำ แม้จะไม่ได้มาซื้อกาแฟก็มักจะมาเยี่ยมเยียนถามไถ่ข่าวคราวกันอยู่เสมอ
ข้าพเจ้ามีร้านกาแฟเจ้าประจำ (คงไม่ต่างกับใครอีกหลายคน) เวลาที่ข้าพเจ้าไปซื้อกาแฟ เจ้าของร้านมักจะใจดีแถมกากกาแฟมาข้าพเจ้านำมาเป็นปุ๋ยใส่ต้นไม้ เนื่องจากเขารู้ว่าข้าพเจ้าชอบปลูกต้นไม้ และก็คงจะเป็นเพราะกากกาแฟนี้เองทำให้ต้นไม้เล็กๆ เจริญงอกงามดี มีผู้รู้บอกว่ากากกาแฟมีไนโตรเจนธรรมชาติอยู่ จึงทำให้ต้นไม้งอกงาม หรือจะเป็นจากสาเหตุอื่นเช่น บางทีเจ้าต้นไม้น้อยๆ ของข้าพเจ้าอาจจะชอบกาแฟเหมือนเจ้าของก็ได้ แต่ที่แน่ๆ เวลาพรวนดินแล้วมีความสุขมาก ได้กลิ่นกาแฟอ่อนๆ โชยมาตามลม
เจ้าของร้านเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่ามีการนำกากกาแฟไปใช้ทำสปา ทำครีมขัดตัว สบู่ บำรุงผิว เพราะกากกาแฟนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยขจัดสารพิษจากผิว และสามารถสลายไขมันใต้ผิวหนังได้ (ตามคุณสมบัติที่เขากล่าวอ้าง แต่ข้าพเจ้าเองก็ยังงงๆ อยู่ว่า กาแฟเข้าไปปฏิกิริยาอย่างไรกับไขมัน จึงสามารถสลายไขมันได้)
อีกความคิดที่น่ารักๆ ที่ข้าพเจ้าชอบคือการนำกากกาแฟไปทำหมอนเข็ม เพราะในกากกาแฟยังมีน้ำมันหลงเหลืออยู่ทำให้เข็มไม่เป็นสนิม นับเป็นภูมิปัญญาที่สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตนเองที่บ้าน (แต่ก็ไม่รู้ว่าปัจจุบันแต่ละบ้านจะยังมีหมอนเข็มไว้สำหรับเย็บผ้าหรือเปล่า เพราะเสื้อผ้าสมัยนี้มักจะซื้อสำเร็จรูป)
วันก่อนได้บังเอิญอ่านพบว่ามีนักวิจัยชาวอินเดียที่สหรัฐอเมริกา ได้ทดลองนำกากกาแฟมาผลิตเป็นไบโอดีเซล ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่ทั่วโลกประสบภาวะขาดแคลนพลังงานน้ำมัน นับเป็นนวัตกรรมที่ดีไม่น้อย แต่ถ้าจะนำมาใช้ในประเทศไทยคงต้องศึกษาวิจัยอีกมาก โดยเฉพาะในเรื่องความคุ้มทุน แล้วก็ไม่รู้ว่าคนไทยจะบริโภคกาแฟกันมากขนาดที่สามารถนำกากกาแฟมาผลิตไบโอดีเซลได้มั้ยนะ
กากกาแฟที่ดูเหมือนไม่มีประโยชน์ อาจจะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อีกมากมาย หากแต่ต้องการผู้ศึกษาค้นคว้าทดลอง....บางสิ่งที่ดูเหมือนไร้ค่าแต่กลับมีประโยชน์มากมายซ่อนอยู่ ขึ้นกับว่าจะมีผู้มองเห็นคุณค่าของสิ่งนั้นหรือไม่!
....บางสิ่งที่ดูเหมือนไร้ค่าแต่กลับมีประโยชน์มากมายซ่อนอยู่ ขึ้นกับว่าจะมีผู้มองเห็นคุณค่าของสิ่งนั้นหรือไม่!
เห็นด้วยๆๆๆๆๆ
ผมต้มกาแฟทุกเช้าแล้วทิ้งกากกาแฟทุกเช้าเลยครับ ไม่เคยทราบเลยว่าสามารถใช้ทำปุ๋ยได้ครับ ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ ครับ
สวัสดีครับคุณblue_star
เป็นข้อมูลที่มีประโยชน์มาก เห็นทีต้องเก็บกากกาแฟบ้างแล้ว ครับ
เราขายกากกาแฟค่ะ คิดกิโล 120 บาท ตากแดด เรียบร้อยแล้ว 081 8083799
เเวะมาดื่มกาแฟครับ ว่าแต่ว่า ต้นอะไรนั่นนะครับอยากรู้จัก
ท่านอาจารย์โสภณ
ด้านซ้ายมือเป็นต้นไฮเดรนเยียค่ะ...ส่วนด้านขวาเป็นต้นดอกอเจอราตุ้ม ^v^
สวัสดีครับ นึกว่าจะได้ชิมกาแฟกับคุณหมอดาว แต่เช้าเลย
รักษาสุขภาพด้วยครับ ขอบคุณสำหรับการแวะไปเยี่ยบ้านด้วยครับ
อธิบาย "ดอกอเจอราตุ้ม" หน่อยครับ ไม่ค่อยจะคุ้นเท่าไร หน้าตาเหมือนคนไม่รู้จักมาก่อน
คิดว่าอาจารย์น่าจะเคยเห็นนะคะ แต่ว่าอาจจะไม่คุ้นชื่อ
เป็นไม้เมืองหนาวค่ะ...ที่เมืองหนาวรู้สึกว่าดอกจะดกเป็นพุ่มสวยเชียว
เชื่อเป็นภาษาอังกฤษเขียนว่า Ageratum ค่ะ
ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบกลิ่น รส ของกาแฟ
ธรรมชาติก็ช่างสร้างสรร เมื่อได้ดื่มก็รู้สึกได้เลยว่าอบอุ่น นุ่มนวล
ตอนนี้ ผมก็เป็นคนหนึ่งที่กำลังทำวิจัยเกี่ยวกับกากกาแฟอยู่ครับ
ไว้วันหลังจะมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังนะครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูล
สวัสดีค่ะคุณ Dogmaijaban
ดาวรู้สึกยินดีปนๆ ดีใจที่มีเพื่อนร่วมก๊วนหลงใหลกาแฟอีกคนค่ะ ^v^
ทำวิจัยเสร็จอย่าลืมมาแบ่งปันเรื่องราวของกาแฟนะคะ...ดาวจะรอฟังประสบการณ์ค่ะ
ขอบคุณเช่นกันที่แวะมาเยือนบันทึก ดีใจที่ข้อมูลพอจะเป็นประโยชน์อยู่บ้างค่ะ
โอโหน้องดาว บันทึกนี้นานมาก อยู่แก่งกระจาน ยังไม่ได้กินเงาะ แต่กินปลาและผักแล้ว ฮ่าๆๆ