พรรณไม้ในพุทธประวัติ - 1 บัว


พรรณไม้ที่มีเหตุการณ์สัมพันธ์กับพุทธประวัติ

เมื่อดิฉันได้หนังสือ ไม้พุทธประวัติ อันเป็นหนังสือในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช ผู้เขียนได้นำพันธ์ไม้แต่ละชนิด และเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องตามพุทธประวัติ เสนอร่วมกันอย่างน่าสนใจ ดิฉันจึงเกิดความคิดอยากเขียนเรื่องเกี่ยวกับพรรณไม้ในพุทธประวัติ โดยเน้นที่เหตุการณ์ตามพุทธประวัติมากกว่าพรรณไม้ ตามหลักฐานที่พอหาได้ อันอาจเป็นสาระที่สร้างความศรัทธาในพระศาสนาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

จึงรวบรวมเนื้อหาโดยยึดเนื้อความหลักจาก สมุดภาพพุทธประวัติ ที่วาดโดยครูเหม เวชกร ซึ่งสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณฯ (ปุ่น ปุณฺณสิริ) สมเด็จพระสังฆราช วัดพระเชตุพน เมื่อครั้งทรงสมณศักดิ์เป็นพระธรรมวโรดมโปรดให้วาดตามหนังสือปฐมสมโพธิ ฉบับสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส วัดพระเชตุพน หนังสือ ไม้พุทธประวัติ ซึ่งเรียบเรียงโดยศาสตราจารย์ ดร. พเยาว์ เหมือนวงษ์ญาติ และเล่มอื่นๆเข้าด้วยกัน แล้วเรียบเรียงระเรื่อยตามเหตุการณ์

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อพุทธศาสนิกชน และการศึกษาศาสนาพุทธบ้างตามสมควรนะคะ

...........................................................................................

1 บัว

บัว เป็นดอกไม้ที่เกี่ยวข้องกับพุทธประวัติอยู่หลายตอน

เหตุการณ์แรก เมื่อพระโพธิสัตว์ ซึ่งต่อมาคือเจ้าชายสิทธัตถะ เสด็จจากสวรรค์ชั้นดุสิตเพื่อเข้าสู่พระครรภ์พระมารดา วันที่เสด็จลงมาบังเกิดนั้น ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8

คืนนั้น พระนางสิริมหามายา พระมาดาทรงมีพระสุบินนิมิตว่า พระนางได้เข้าไปอยู่ในป่าหิมพานต์ ได้มีช้างเผือกเชือกหนึ่ง ลงมาจากยอดเขาสูง เข้ามาหาพระนาง

ปฐมสมโพธิ พรรณนาเหตุการณ์ตอนนี้ไว้ว่า

มีเศวตหัตถีช้างหนึ่ง...ชูงวงอันจับปทุมชาติสีขาว มีเสาวคนธ์หอมฟุ้งตรลบ แล้วร้องโกญจนาทเข้ามาในกนกวิมาน แล้วกระทำประทักษิณพระองค์อันบรรทมถ้วนครบสามรอบแล้ว เหมือนดุจเข้าไปในอุทรประเทศ ฝ่ายทักษิณปรเศว์แห่งพระราชเทวี...

ในขณะนั้น ได้เกิดบุพนิมิตขึ้น 32 ประการ ประการที่เกี่ยวกับดอกบัวคือ มีดอกบัวปทุมชาติหรือบัวหลวง 5 ชนิด อันได้แก่

สัตตบุษย์ หรือ บัวฉัตรขาว

pic

บัวเข็มชมพู

pic

บุณฑริก หรือ บัวหลวงขาว

pic

ปทุม หรือ บัวหลวงชมพู

pic

สัตตบงกช หรือบัวหลวงป้อมแดง

pic

เหล่าปทุมชาติ เกิดดารดาษไปในน้ำและบนบกอย่างหนึ่ง ผุดงอกขึ้นจากแผ่นหินแห่งละเจ็ดดอกอย่างหนึ่ง และต้นพฤกษาลดาชาติ ก็เกิดดอกบัวออกตามลำต้นและกิ่งก้านอีกอย่างหนึ่ง

ต่อมา เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะประสูติ เมื่อทรงก้าวลงจากพระครรภ์ ทรงผินพระพักตร์ไปยังทิศอุดร ชี้พระดรรชนีขึ้นฟ้า แล้วเสด็จดำเนินไป 7 ก้าว แต่ละก้าวมีดอกบัวผุดขึ้นมารองรับ และทรงเปล่งอาสภิวาจา(วาจาอย่างองอาจ)ว่า เราเป็นผู้เลิศของโลก เป็นผู้ใหญ่ที่สุดของโลก เป็นผู้ประเสริฐที่สุดของโลก นี้เป็นการเกิดครั้งสุดท้าย ไม่มีการเกิดใหม่อีกต่อไป

pic

ดอกบัวที่ผุดขึ้นมารับพระบาทนี้ หมายถึงพระองค์จะเป็นผู้บริสุทธิ์ ปราศจากกิเลสโดยสิ้นเชิง (ซึ่งเสถียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิตบอกว่า ในพระไตรปิฎกไม่ได้พูดถึง แต่มีเพิ่มขึ้นภายหลัง)

ราชบัณฑิตยังให้ความเห็นเกี่ยวกับการที่พระพุทธองค์สามารถตรัสได้ทันทีที่ประสูติต่อคำถามที่ว่า เป็นเพียงสัญลักษณ์เปรียบเทียบถึงอะไร หรือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ท่านตอบว่ามีเขียนไว้ในพระไตรปิฎก โดยพระพุทธองค์ตรัสเล่าให้สาวกฟังด้วยพระองค์เอง โดยทรงสรุปสั้นๆว่า เป็นธรรมดาของพระโพธิสัตว์ โดยท่านยกขึ้นเปรียบเทียบกับเด็กชายที่ได้บันทึกไว้ในกินเนสส์บุค คือ คริสเตียน ไฮเนเก้น ที่เกิดมาสองชั่วโมงก็พูดได้ อายุ 4 ขวบ ก็พูดได้ 7 ภาษา พออายุ 7 ขวบ สามารถแสดงปาฐกถาเรื่องอภิปรัชญาชั้นสูงให้ที่ประชุมปราชญ์ได้ทึ่ง

เหตุการณ์ที่สาม เมื่อทรงมีพระชนมายุได้ 7 พรรษา พระราชบิดาโปรดให้ขุดสระโบกขรณี 3 สระ สำหรับให้ทรงลงเล่นน้ำ โดยปลุกอุบลบัวขาบสระหนึ่ง ปทุมบัวหลวงสระหนึ่ง และบุณฑริกบัวขาวอีกสระหนึ่ง

ในภาพ คือทรงทราบข่าวการมีพระประสูติกาลของพระโอรสข้างสระบัว

และเมื่อทรงตรัสรู้ ทรงเปรียบเวไนยสัตว์ อุปมาดังบัวในน้ำ

"[๙] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาค ทรงรับคำทูลอาราธนาของพรหม และเพราะอาศัยความกรุณาในหมู่สัตว์ ทรงตรวจดูโลกด้วยพุทธจักษุ เมื่อทนงตรวจดูสัตว์โลกด้วยพุทธจักษุได้เห็นสัตว์ทั้งหลายที่มีธุลีในดวงตาน้อย มีธุลีในดวงตามาก มีอินทรีย์แก่กล้า ที่มีอินทรีย์อ่อน มีอาการดี มีอาการทราม สอนให้รู้ได้ง่าย สอนให้รู้ได้ยาก บางพวกเห็นปรโลกและโทษว่าน่ากลัวก็มี.

มีอุปมาเหมือนในกออุบล ในกอปทุม หรือในกอบุณฑริก ดอกอุบล ดอกปทุม ดอกบุณฑริก บางดอกที่เกิดแล้วในน้ำ เจริญแล้วในน้ำ ดอกอุบล ดอกปทุม ดอกบุณฑริก บางดอกที่เกิดแล้วในน้ำ เจริญในน้ำอยู่เสมอน้ำดอกอุบล ดอกปทุม ดอกบุณฑริก บางดอกที่เกิดแล้วในน้ำ เจริญในน้ำ ขึ้นพ้นน้ำ ไม่แตะน้ำฉันใด.

พระผู้มีพระภาคทรงตรวจดูโลกด้วยพุทธจักษุ ได้ทรงเห็นสัตว์ทั้งหลาย ผู้มีธุลีในตาน้อย มีธุลีในตามาก มีอินทรีย์แก่กล้า ที่มีอินทรีย์อ่อน มีอาการดี มีอาการทราม สอนให้รู้ได้ง่าย สอนให้รู้ได้ยาก บางพวกเห็นปรโลกและโทษว่าน่ากลัวก็มี บางพวกมักไม่เห็นปรโลกและโทษว่าเป็นสิ่งน่ากลัวก็มี ฉันนั้น"

วิ.มหา.(แปล) ๔/๙/๑๔

ต่อมาคำตรัสว่าบุคคลมี 4 เหล่า จึงมีการนำดอกบัวไปเปรียบกับบุคคลเหล่านั้น คือ

เหล่าที่ 1 อุคคติตัญญูบุคคล คือผู้มีกิเลสเบาบาง มีปัญญา เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถเข้าใจได้ในทันที เปรียบเหมือนบัวที่โผล่พ้นน้ำ พอต้องแสงอาทิตย์ ก็บานทันที

เหล่าที่2 วิปัจจิคัญญูบุคคล กิเลสค่อนบ้างน้อย อินทรีย์ปานกลาง หากได้ฟัง และมีการอธิบายซ้ำอีกครั้งก็จะเข้าใจ เปรียบเหมือนบัวที่อยุ่พอดีกับผิวน้ำ พร้อมที่จะบานในวันต่อไป

เหล่าที่ 3 เนยยบุคคล ผู้ที่มีกิเลสปานกลาง ต้องหมั่นศึกษา คบกัลยาณมิตร จึงจะสามารถรู้ธรรม เปรียบเหมือนบัวที่ยังจมอยู่ในน้ำ คอยวันโผล่พ้นน้ำ เพื่อที่จะบานในวันต่อๆไป

เหล่า 4 ปทปรมบุคคล ผู้ที่ไม่สามารถบรรลุธรรมวิเศษได้ เปรียบเสมือนบัวที่จมอยู่ใต้น้ำลึก ไม่สามารถโผล่พ้นน้ำขึ้นมาได้ รังแต่จะเป็นอาหารของเต่าปลาต่อไป

pic

อีกเหตุการณ์หนึ่งคือ ครหพินน์เจ็บใจที่สิริตุตถ์หลอกอาจารย์เดียรถีร์ของตนให้ตกลงไปในหลุมอุจจาะ จึงคิดแก้แค้น หลอกพระพุทธเจ้าอันเป็นอาจารย์ของสิริคุตถ์บ้าง โดยล่อให้ตกลงไปในหลุมที่ก่อไฟด้วยไม้ตะเคียน ปรากฏว่ามีดอกบัว ผุดขึ้นมารับพระบาทพระองค์

เหล่านี้คือเรื่องราวของ บัว ที่เกี่ยวข้องในพุทธศาสนาค่ะ

ส่วนพรรณไม้ที่เหลืออีก 24 ชนิด โปรดติดตามต่อนะคะ

....................................................

อ้างอิงเรื่อง และรูป

เหม เวชกร สมุดภาพพระพุทธประวัติ ธรรมสภา 35/270 จรัลสนิทวงศ์ 62 บางพลัด บางกอกน้อย กรุงเทพ

เสถียรพงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต สิ่งแรกในพระพุทธศาสนา เกษมอนันต์พริ้นติ้ง 02-809-7452-4

ศาสตรจารย์ พเยาว์ เหมือนวงษ์ญาติ ไม้พุทธประวัติ สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด้จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชวังดุสิต กรุงเทพ

สุปรียา จันทะเหล่า บัว1 อัมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) 65/101-103 ถ.ชัยพฤกษ์ ตลิ่งชัน กรุงเทพ 10170

หมายเลขบันทึก: 296417เขียนเมื่อ 11 กันยายน 2009 08:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 ตุลาคม 2013 10:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

สวัสดีค่ะ

เคยลงแนะนำพรรณไม้บางส่วนไปแล้ว แต่เพราะเขียนหลายชนิดในบันทึกเดียว ความสำคัญของพรรณไม้จึงดูเหมือนถูกละเลย

จึงแก้ตัวใหม่ค่ะ โดยจะทยอยบันทึกพรรณไม้ทั้ง 25 ชนิด เพื่อบันทึกเหตุการณ์ที่พรรณไม้เกี่ยวข้องกับพุทธประวัติอย่างละเอียดค่ะ

สวัสดีค่ะ

แวะมาทักทายตอนเช้าค่ะ

และมาชมดอกบัวสวยๆค่ะ

              

                      นำดอกบัวที่วัดมาฝากด้วยค่ะ

               

 

มาชมได้เห็นความเพียรพยายาม

ดอกบัวสื่อความหมายลึดดีนะครับ

มุมมองหนึ่งคือ...แม้บัวจะอยู่ในโครนตมและน้ำ...แต่แทงยอดออกดอกเบ่งบานไร้โครนตมและน้ำ...คนเราควรทำตัวให้เหมือนดังบัวอย่างนั้นละ...

ขอบคุณความเห็นอันเป็นประโยชน์จากอาจารย์ umi ค่ะ

และขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยียมกันค่ะ

แวะมาเยี่ยมครับ

ชื่นชมความขยันของพี่จังเลยครับ

ขยันบันทึกและหาเรื่องดี ๆ มาแบ่งปันอย่างเสมอต้นเสมอปลาย

ขอบคุณจากใจจริงครับ

ต้องบอกว่าเป็นเพราะความศรัทธาค่ะ จึงอยากทำอะไรเพื่อพระศาสนาให้มากที่สุด

ขอบคุณคุณหนานเกียรตินะคะที่แวะมาค่ะ

สวัสดีค่ะ

แวะมาอ่านพรรณไม้ที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาค่ะ

คนไม่มีรากชอบดอกบัวมากค่ะ ชอบกลิ่นหอมอ่อน ๆ เฉพาะของบัวค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะน้องกอ สุดสายป่าน ขอบคุณค่ะที่แวะมา

กลิ่นหอมอ่อนๆของบัว

ชื่นใจดีนะคะ คุณคนไม่มีราก

เจริญพร โยมณัฐรดา

ได้มีนิสิตปริญญาโทของมหาจุฬาฯ ได้ทำวิทยานิพนธ์เรื่อง "ดอกบัว" ในคัมภีร์พระพุทธศาสนา ซึ่งป็นการอธิบายว่า ดอกไม้สำคัญอย่างไรกับพระพุทธศาสนา เพราะเรามองว่า ดอกบัว เป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ ฉะนั้น จะเห็นว่า ดอกบัวจะเป็นฐานรองรับพระพุทธเจ้าในขณะยืน เดิน นั่ง นอน เพราะต้องการจะสื่อว่า พระพุทธเจ้ายืน เดิน นั่ง นอน อยู่บนความบริสุทธิ์ตลอดเวลา ตรงนี้เป็นปริศนาธรรมที่ใช้สอนชาวพุทธทุกคน

นมัสการพระคุณเจ้า

ขอบพระคุณพระคุณเจ้ามากเจ้าค่ะ ที่เมตตามาเสริมความสมบูรณ์ของบันทึกเจ้าค่ะ

สวัสดีครับ

เพิ่งรู้จักบัวแต่ละชนิดวันนี้เองครับ

ขอบคุณครับ

สวัสดีจ้า 

  • เข้ามาอ่านเรื่องราวดอกบัวที่เกี่ยวข้องกับพุทธประวัติ 
  • เป็นความรู้  เป็นศิริมงคลสำหรับเช้านี้ด้วยค่ะ

 

บัวค่ะพี่ตุ๊กตา..อรุณสวัสดิ์นะคะ....

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท