“ 7 Hurdles ” กลไกขับเคลื่อน PBB
PBB: Performance – based Budgeting เป็นระบบการบริหารงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงาน ที่แสดงถึงความเชื่อมโยงระหว่างทรัพยากรที่ใช้กับผลงานที่เกิดขึ้นว่า มีความเชื่อมโยงสัมพันธ์กันอย่างไร คุ้มค่ามากน้อยเพียงไร ทำให้หน่วยงานของรัฐได้รับข้อมูลทางการเงินและการจัดการที่บ่งบอกถึงผลผลิต (Outputs - สิ่งของและบริการ) ที่จัดทำโดยส่วนงานนั้นๆ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการได้มาซึ่งผลผลิตนั้น และความเชื่อมโยงของผลผลิตและผลลัพธ์ (Outcoms -ผลที่ตามมา ผลกระทบและผลสำเร็จ) ที่รัฐบาลต้องการ โดยแนวทางนี้การตัดสินใจในการจัดสรรทรัพยากรจึงอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลด้านผลผลิตและผลลัพธ์ที่สอดคล้องกันกับวัตถุประสงค์ของนโยบาย
นอกจากนี้ PBB ยังเป็นระบบการทำงานที่ผสมผสานระหว่างการวางแผนการจัดทำงบประมาณ การตรวจสอบติดตามทบทวนผลงานซึ่งหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณหรือทรัพยากรต้องรับผิดชอบผลงานที่เกิดขึ้น
ผลผลิตหรือผลผลิตหลัก
คือสิ่งของหรือบริการที่เป็นรูปธรรมหรือรับรู้ได้
ที่จัดทำหรือผลิตโดยหน่วยงานของรัฐเพื่อให้บุคคลภายนอกได้ใช้ประโยชน์
ผลผลิตคือการตอบคำถามได้รับอะไรจากการดำเนินงานผลิตหรือ
ให้บริการหรือจัดซื้อ สำหรับผลผลิตของสถานศึกษานั้นได้แก่
การจัดบริการการศึกษาให้นักเรียนประเภทต่างๆ
นอกจากนี้ผลผลิตยังรวมถึงผลผลิตที่เกิดจากการจัดกิจกรรมที่หน่วยงานนั้นได้ทำขึ้นโดยตรงและเกิดขึ้นทันทีทันใดหลังเสร็จสิ้นกิจกรรม
เช่น ครูที่ผ่านการอบรม
หนังสือและเครื่องเขียนแบบเรียนที่ได้จัดซื้อและนักเรียนที่ได้รับอาหารเสริม
เป็นต้น เรียกผลผลิตประเภทนี้ว่า ผลผลิตภายใน
(Intermediate outputs)
เป็นผลผลิตที่เกิดขึ้นในระหว่างการดำเนินงาน โดย Intermediate
outputs จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดผลผลิตหลัก
ผลลัพธ์ เป็นผลงาน
ผลกระทบที่มีต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม (ลูกค้าเป้าหมาย)
จากการได้ใช้ประโยชน์จากสินค้าและบริการ (ผลผลิต)
ที่เกิดจากการดำเนินงานโดยหน่วยงานของรัฐ
ผลลัพธ์จะตอบคำถามว่าทำไมจึงมีการดำเนินการผลิตหรือให้บริการนั้น
เช่น การมีงานทำหรือการเรียนต่อของผู้สำเร็จการศึกษา
ความสามารถในการพัฒนาตนเอง
เพื่อการเรียนรู้ของนักเรียนภายหลังที่จบการศึกษาจากโรงเรียนไปแล้ว
การกำหนดผลลัพธ์รัฐบาลและหน่วยงานทางด้านนโยบายเป็นผู้ร่วมกำหนดแล้วมอบหมายให้หน่วยงานระดับรองลงมาแปลงเป็นผลผลิตต่อไป
มาตรฐานการจัดการทางการเงิน
การจัดทำงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงาน จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพนั้น สถานศึกษาต้องมีกลไกขับเคลื่อนไปในทิศทางที่ถูกต้องโดยอาศัยแนวทางการพัฒนาตามมาตรฐานการจัดการทางการเงิน 7 ด้าน หรือที่เรียกว่า “ 7 Hurdles ” ดังนี้
1. การวางแผนงบประมาณ (Budgeting Planning) เริ่มต้นจากการวางแผนกลยุทธ์ของหน่วยงานประกอบด้วย วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ ผลผลิตหลัก กลยุทธ์ โครงสร้างแผนงาน ตัวบ่งชี้ความสำเร็จ ของผลงานและการวางแผนงบประมาณระยะปานกลาง (MTEF)
2. การกำหนดผลผลิตและการคำนวณต้นทุน (Output Specification and Costing) ในขั้นนี้เป็นการคำนวณต้นทุนในแต่ละผลผลิตที่ได้กำหนดมาแล้วว่าจะใช้ต้นทุนต่อหน่วยงานผลผลิตเท่าไร ซึ่งมีการคิดทั้งต้นทุนทางตรงและต้นทุนทางอ้อม
3. การจัดระบบการจัดซื้อจัดจ้าง (Procurement Management) เป็นการพัฒนาระบบการจัดซื้อจัดจ้างให้มีประสิทธิภาพ การจัดซื้อเน้นความคุ้มค่าของการใช้จ่ายเงิน
4. การบริหารทางการเงินและการควบคุมงบประมาณ (Financial Management / Fund Control) หน่วยงานจำเป็นต้องกำหนดรายการและโครงสร้างทางบัญชี เอกสารหลักฐานที่จำเป็น การปรับระบบบัญชีจากเกณฑ์เงินสดไปสู่ระบบเกณฑ์คงค้าง มีระบบการควบคุมการเบิกจ่าย และบริหารจัดการงบประมาณที่มีประสิทธิภาพ
5. การรายงานทางการเงินและผลดำเนินงาน (Financial and Performance Reporting) ในกระบวนการรายงานต้องมีการกำหนดดัชนีชี้วัด กรอบและโครงสร้างการประเมิน และรายงานผลที่ชัดเจนและมีการรายงานทั้งการเงินและผลการดำเนินงาน
6. การบริหารสินทรัพย์ (Asset Management) หน่วยงานมีระบบบริหารสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพ แสดงให้เห็นถึงการบริหารสินทรัพย์
7. การตรวจสอบภายใน (Internal Audit) หน่วยงานต้องมีฝ่ายที่รับผิดชอบในการตรวจสอบภายใน มีอิสระในการดำเนินงาน มีการกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบที่ชัดเจน การตรวจสอบเน้นการตรวจสอบทางการเงิน และการตรวจสอบผลการดำเนินงาน
การบริหารจัดการทรัพยากรของอค์กรเป็นสิ่งที่ทุกองค์กรต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องการจัดสรรงบประมาณที่เหมาะสม การพิจารณาเลือกกิจกรรมที่มีควาทสำคัญก่อนกลัง การกำหนดระบบการปฏิบัติงานและระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการควบคุมดูแลและการตรวจสอบภายในที่ชัดเจน จะช่วยให้กิจกรรมต่างๆขององค์ดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดและบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ การนำเอาระบบการบริหารและจัดการงบประมาณที่เหมาะสมเข้ามาใช้ในองค์กรเป็นสิ่งที่ผู้บริหารระดับสูงจะต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งแนวคิดในการบริหารจัดการงบประมาณได้เปลี่ยนจากระบบควบคุมการเบิกจ่ายที่เข้มงวดมาเป็นการบริหารงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงาน(PBB) ซึ่งเน้นพันธกิจและ วัตถุประสงค์ มีการกำหนดผลผลิต ผลลัพธ์ และตัวชี้วัดในการดำเนินงาน “7 Hurdles” จึงเป็นแนวทางที่จะช่วยให้การบริหารจัดการงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด
ในวงการศึกษาก็ได้นำระบบการบริหารงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานมาใช้แล้วแต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควรเพราะ
1 ผู้บริหารระดับนโยบาย ต้องการเพียงผลักดันสิ่งที่ตนประสงค์ให้บรรลุผลสำเร็จแต่ขาดการวิเคราะห์ความเหมาะสมกระบวนการจัดทำงบประมาณรายจ่าย
2 ผู้บริหารระดับสูง ไม่ได้ให้ความสำคัญการปรับปรุงระบบงบประมาณปล่อยให้เป็นภารกิจประจำ
3 ความรู้ด้านการจัดทำงบประมาณของบุคลากรที่รับผิดชอบแตกต่างกันทำให้ไม่สามารถปรับปรุงระบบงบประมาณได้
4 ผู้ปฏิบัติให้ความสำคัญกับการได้งบประมาณเพื่อปฏิบัติตามภารกิจและกิจกรรม แต่ไม่ค่อยให้ความสำคัญ กับการติดตามประเมินผลการทำงาน
5 ผู้ปฎิบัติใช้ภารกิจประจำและงบประมาณ เป็นตัวตั้งในการเริ่มคิดเพื่อวางแผนและจัดทำงบประมาณ มากกว่าการแปลงเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ ตัวชี้วัด สู่ผลผลิต/โครงการและกิจกรรม
6 ส่วนราชการยังยึดติดกับระบบงบประมาณแบบเดิม (line item) เพื่อส่วนราชการรับทราบกระบวนการ/ขั้นตอน เครื่องมือใหม่ๆ ของระบบงบประมาณก็ใช้เป็นเพียงกลไกเสริมไม่ใช่กลไกหลัก
7 ขาดแผนและเป้าหมายความสำเร็จในการปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติงานเพื่อรองรับระบบงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานตามยุทธศาสตร์
8 แบบฟอร์มในคู่มือการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี ยังไม่สะดวกต่อการตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างเป้าหมายข้อมูลต่างๆ ของเครื่องมืองบประมาณ เช่น MTEF การทบทวนผลผลิต กิจกรรม ผลการประเมินจาก PART
9 ขาดระบบการให้ความช่วยเหลือ ทำให้หน่วยงานต่างๆ เมื่อได้รับเอกสารคู่มือที่เกี่ยวข้องกับวิธีงบประมาณ และขาดความเข้าใจไม่สามารถปรึกษาได้
10 การจัดการงบประมาณ วางแผน จัดทำ ติดตามและประเมินผล ยังคงเป็นแบบต่างคนต่างทำ ทำให้ไม่สามารถแปลงเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ ตัวชี้วัด สู่ผลผลิต โครงการ กิจกรรม อย่างมีประสิทธิภาพ
11 ข้อมูลประกอบการจัดทำงบประมาณ วางแผน จัดทำ ติดตามประเมินผล กระจัดกระจายอยู่ตามแหล่งต่างๆ ทำให้ยากต่อการใช้งาน
12 ราชการส่วนภูมิภาคยังคงจัดการงบประมาณแบบเดิม เพราะขาดความรู้และทักษะในการจัดการงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานตามยุทธศาสตร์
13 ขาดการบูรณาการข้อมูลระหว่างราชการส่วนภูมิภาค ส่วนกลาง ส่งผลให้ขาดข้อมูลประกอบการจัดทำคำขอและวิเคราะห์งบประมาณที่มีประสิทธิภาพ
14 การจัดทำคำขอ จะใช้ความเดือดร้อนและความไม่คล่องตัวในการปฏิบัติงานเป็นตัวตั้งขาดความชัดเจนในการวิเคราะห์ที่เชื่อมโยงสู่เป้าหมาย
ที่มา :
-วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
-สรุปรายงานการประชุมเรื่อง “การใช้คู่มือการปฏิบัติงานที่ครบวงจรงบประมาณ”โครงการศึกษาแนวทางการปรับปรุงระบบงบประมาณ โดยสำนักงบประมาณ สำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน 2551
จากบทความที่ข้าพเจ้านำเสนอ พวกเราชาวบริหารการศึกษาคงพอที่จะเห็นแนวทางที่จะนำข้อค้นพบเหล่านี้ไปปรับปรุงการบริหารงบประมาณของหน่วยงานของพวกเราให้ประสบผลสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้นะคะ
แวะมาร่วมเรียนรู้ ขอบคุณมากครับ
สวัสดีจ้ะ แวะมาขอความรู้เพิ่มเติม
ขอบคุณสาวโรงงานนะคะ ที่นำบทความมาร่วมเผยแพร่ให้สมาชิก G2K ได้เก็บเกี่ยวกันคะ
แวะมาเยี่ยมชม หาความรู้ใหม่ๆ จ้า
เป็นการวางแผนงานที่ยากยิ่งสำหรับโรงเรียนที่ยังขาดงบประมาณสนับสนุนเหมือน............ของเรา
ดีครับผม ขนมถ้วย กล้วยทอด ดีนะ
ทำการเงิน.................เก่งอยู่แล้วครับไม่ว่าจะเป็นการบริหารแบบไหนมาเถอะ............ง
ได้ครับพี่ ดีครับผม
การเผยแผ่ความรู้นี้
เป็นประโยชน์มากกับผู้ที่สนใจ
อยากให้คนไทยหันมาสนใจในการศึกษาให้มากขึ้นคะ
มีภาคเอกชนนำไปใช้บ้างมั้ยคะ
มีใครรู้บ้างค่ะว่า “ 7 Hurdles ” เป็นหลักการของนักวิชาการท่านใด รบกวนช่วยตอบด้วยค่ะ
ขอบคุณมากนะค๊ะ
หัวข้อ PBB ที่น่าสนใจ มีคนหน้าคุ้นๆทั้งนั้น