บทเรียนก่อนตาย


อย่างของหมวยเนี่ยะ ถ้าเราจะมองว่าเราได้ภาวนา เราภาวนาได้เต็มที่แล้วในช่วงเวลาที่ผ่านมา จิตใจจะเบิกบาน พระองค์เนี่ยะท่านก็มองร่างกายมันตาย เพราะฉะนั้นเวลาที่เราจะตายนะ ต้องตั้งสติไว้ ดูกายมันตายลงไป ใจอยู่ต่างหากนะ ฝึกดูอย่างนี้ กายมันตายแล้วใจเราอยู่ต่างหาก ใจไม่ทุกข์ด้วย บางคนก็ได้ธรรมะ พระองค์ที่ท่านเชือดคอเนียะท่านเป็นพระ อรหันต์เลย หรือบางคนไม่ได้พระอรหันต์ แต่ได้ธรรมะดีๆ ไป อยู่ที่นาทีวิกฤติเนียะแหล่ะ

วันนี้ ศิลาได้รับ FW Mail เรื่องเล่าเรื่องจริงที่เพื่อน ๆ ของ "คุณหมวย" ผู้จากไปช่วยกันเผยแพร่และส่งต่อกันมาเรื่อย ๆ  

 

ศิลาไม่ได้รู้จักเธอมาก่อน แต่จากการปะติดปะต่อเรื่องราว ทำให้ทราบว่าเธอเป็นศิษย์หลวงพ่อปราโมทย์ค่ะ 

 

และต่อไปนี้ก็เป็นคำบอกเล่า "บทเรียนก่อนตาย" ของคุณหมวย ที่เพื่อน ๆ ของคุณหมวยบันทึกไว้และเผยแพร่ด้วยความปรารถนาที่จะให้เป็นบทเรียนแก่เราทุกคน เพื่อการเจริญมรณสติค่ะ

                     

                     

---------------------------------------------------------------------------------

หลวงพ่อปราโมทย์

พฤหัสที่ 3 กันยายน 2009

บทเรียนก่อนตาย

หมวยลูกศิษย์หลวงพ่ออายุ 30 กว่าๆเป็นมะเร็ง มากราบลาหลวงพ่อครั้งสุดท้าย ถวายผ้าไตรสังฆทานและปัจจัย

 

(หมวยเสียชีวิตแล้วเมื่อคืนนี้เอง 7 กันยา)

 

นาทีที่ 20..............

กราบนมัสการหลวงพ่อ ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณที่หลวงพ่อ ได้กรุณาส่งไฟล์เสียงไปให้ ตอนที่เข้าห้อง ICU แล้วได้ส่งอีกหลายๆ ครั้งกับความเมตตาที่ หลวงพ่อได้มีให้อีกหลายครั้ง แล้วก็ทางหมวยเองขอโอกาสถามคำถาม เจ็ดข้อสุดท้าย เพราะคิดว่าหมวยคงไม่มีโอกาสได้มาอีกแล้ว (โดยให้ผมเป็นล่ามให้นะครับ)

 

โยม: สภาวะจิตของหมวยตอนนี้มีโมหะ จิตออกนอก แล้วก็ไม่ตั้งมั่น แล้วก็เป็นกลางอยู่ครับ (ลพ ถามว่า อันสุดท้ายอะไรนะ) แล้วก็เป็นกลางอยู่ครับ (ลพ ตอบว่า อือถูกแล้ว)

 

ลพ: อย่าไปกังวลนะว่าจิตจะสว่างหรือไม่สว่าง จิตสงบหรือจิตฟุ้งซ่านสภาวะทั้งหลายเนี่ยะโดยตัวของมันเองเท่าเทียมกัน มันไม่เท่าเทียมกันเพราะว่าใจที่ไม่เป็นกลาง ที่ไปให้ค่า

 

เพราะ ฉะนั้นเวลาเราภาวนา บางทีเวลาโดนยาเข้าไปบ้าง หรือว่าร่างกายทรุดโทรมบ้าง เบลอๆ อย่าไปตกใจนะ เบลอรู้ด้วยความเป็นกลางใช้ได้ ตัวสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าสภาวะอะไรเกิดขึ้น ตัวสำคัญอยู่ที่ว่าเป็นกลางหรือไม่เป็นกลางนะ อย่ากังวลนะ อย่ากังวลใจ

 

โยม: ข้อที่สองครับ ตอนที่หมวยเข้า ICU หมวยเค้าก็เห็นทุกขเวทนาเยอะมาก ในทุกนาที แต่จิตมีกำลังตั้งมั่น มีตัวรู้ และก็มีขันธ์ห้ากระจายออก ตอนนั้นหมวยไม่ได้ทำสมถะเยอะ ไม่ได้ทำตามรูปแบบเยอะ เพราะว่าเข้าโรงพยาบาลประมาณเดือนนึงแล้ว

 

คราวนี้หลังจากออกจาก ICU เห็นแต่ความไม่เป็นกลางของจิตเพราะจิตเกิดโทสะ เพราะว่ามีแต่ได้รับทุกขเวทนาตลอดเวลา (คนที่เป็นล่ามให้เริ่มเสียงเครือ แล้วพูดต่อไม่ได้ ต้องให้คนอื่นมาเป็นล่ามแทนให้) .....จิตที่ไม่ตั้งมั่นเกิดจากตอนที่ออกจาก ICU แล้วได้รับทุกขเวทนาเนี่ยะ (ล่ามคนใหม่) ได้รับทุกขเวทนามาก เพราะได้รับยาปฏิชีวนะทุกขนาดแต่อาการไม่ดีขึ้นมีแต่ทรุด

จนหมอบอกจะอยู่ได้อย่างมากก็หนึ่งเดือน (ลพ แล้วนี่อยู่มาตั้งนานแล้ว)

 

โยม: ข้อสี่ค่ะ ตอนนี้พักอยู่ที่โรงพยาบาล ด๊อกเตอร์โบว์ ทำงานอยู่ ไปอยู่ตั้งแต่วันที่ 25 เห็นจิตที่ชอบ ไม่ชอบ เห็นจิตที่ไม่เป็นกลาง เห็นจิตที่ไม่เป็นกลางขณะที่ไปเห็นการเปรียบเทียบของหมอโรงพยาบาลสองโรงพยาบาล

 

โยม: ข้อที่ห้านะคะ

 

ลพ: คือการภาวนานะอย่างไปกังวลจนเกินไป อันดับแรกเจริญเมตตา เมตตาร่างกายเรื่อยๆ นะ ร่างกายนี้ได้รับความลำบากน่าสงสาร เพราะฉะนั้นอย่าไปรังเกียจมัน พอใจเราเจริญเมตตาใจเราก็ร่มเย็น ใจร่มเย็นนะ ก็ค่อยๆ ดูมันไป ดูมันเจ็บ ดูมันตาย เรา ก็ทำเป็นแค่คนดูแค่นั้นแหล่ะ บางครั้งพอเวลาเวทนารุนแรงเนี่ยะ สติเราตามไม่ทัน โทสะมันขึ้น พอโทสะเกิดขึ้นมาเนี่ยะอย่าไปตกใจกลัวมัน

 

พยายามเจริญเมตตากับร่างกายมันนะ เป็นกลางกับมันนะ ดูไปเรื่อย ตัวสำคัญอยู่ที่ความเป็นกลางหล่ะนะ แล้วอย่าไปกังวลกับมัน ถ้า เกิดจะตายจริงๆเนี่ยะ อย่างตอนเรายังไม่ตายโทสะมันขึ้นได้ แต่เกิดนาทีวิกฤติจริงๆ นะเวลาจะตาย เนี่ยะ โทสะมันจะไม่ขึ้นหรอก สติปัญญามันจะขึ้นมาแทน เพราะฉะนั้น ไม่ต้องไปกังวลตรงนั้นหรอก เพราะจิตที่เราฝึกมาจนถึงขนาดนี้นะ ขันธ์มันแตกตัวออกไปหมดแล้ว พอเราฉุกเฉินขึ้นจริงๆ มันจะทำงานอัตโนมัติ

 

ตอนที่มันทำงานอัตโนมัติเนี่ยะจะเห็นขันธ์แยกออกไป นี่บอกล่วงหน้าไว้เลยนะ ขันธ์มันจะแยกออกไป ขันธ์มันตายนะ แต่ใจที่เป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบานเนี่ยะมันอยู่ต่างหาก ไม่เสียทีหรอกนะ อย่าไปกังวล อย่างไรก็ไม่เสียทีหรอกจิตที่ฝึกมาถึงขนาดนี้

 

เมื่อก่อนมีองค์นึงนะ อาจารย์วันชัย เจริญรอยเดียวกันเลย นี่ภาวนาแข็งกว่าอาจารย์วันชัยอีก

 

ล่าม: อยากจะถามอีกนะคะ ข้อห้าค่ะ

หมวย: จะถามว่าเลิกการประคับประคอง คือ ไม่ขอปั้มหัวใจ ไม่ขอ...(ฟังไม่ถนัดว่าพูดอะไร) ไม่ขอเข้า ICU และไม่ต้องการยาปฏิชีวนะ เลิกที่จะให้มอร์ฟีน บรรเทาความเจ็บปวด แต่อีกอันนึงคือ การเลือกที่หมอเลือกให้ เหมือนตั้งใจจะเริ่มรักษาใหม่ให้ดีที่สุด เผื่อว่าจะสามารถแก้ไข สถานการณ์ได้ แต่ว่าต้องเริ่มใหม่ แต่ต้องเริ่มให้ยาเคมีบำบัดใหม่หมดเลยค่ะ

 

ลพ: จุดสำคัญนะ ร่างกายเนี่ยะทิ้งมันไป ให้หมอเค้าดูแลไปนะ หน้าที่เรามีอันเดียวคือรักษาใจเราไว้ เอาใจไว้นะ ร่างกายปล่อย ให้หมอเค้าทำหน้าที่ของเค้าไป

 

หมวย: เพราะฉะนั้นการที่หนูเลือก เลิกการประคับประคองครั้งสุดท้ายไว้ ถือว่าหนูเลือกทำอนันตวิบากหรือมีเจตนาฆ่าตัวตาย หรือเปล่าคะ

 

ลพ: ไม่ได้ฆ่าตัวตายหรอก มันตายเอง

หมวย: ถ้าอย่างนั้นหนูเลือก เลิกการประคับประคอง คือ หนูเลือกเอง อย่างนี้ได้หรือเปล่าคะ มีเจตนาฆ่าตัวตายหรือเปล่าคะ

 

ลพ: เปล่า ไม่ได้อยากฆ่าตัวตายเลยนะ

 

หมวย: คือ ไม่อยากรับยาปฏิชีวนะ ยาคีโมค่ะ

 

ลพ: ได้ เราเลือกวิถีชีวิตเราได้นะ ชีวิตเราเนี่ยะสั้นนิดเดียวนะ สั้นนิดเดียว ครูบาอาจารย์ท่านก็กลับวัดนะ ไม่ใช่ว่าท่านกลับมา ฆ่าตัวตายซะที่ไหนหล่ะ ตายเอง

 

ครูบาอาจารย์หลายองค์นะ มีองค์หนึ่งชื่อว่า หลวงปู่จัน เขมมฺปัตโต องค์นี้ภาวนาเก่งนะ เพราะว่าท่านยังเหลืออีกนิดหน่อย มาไม่สบายอยู่กรุงเทพเนี่ยะ เสร็จแล้วพอท่านจะตายนะ ท่านกลับหนองคาย พอไปถึงวัดนะ เดินจงกรมได้ เดินจงกรมนะ ตายกระดูกเป็นพระธาตุเลย

 

งั้นไม่ใช่ว่าให้หมอเลิกรักษาแล้ว คือ ฆาตกรรม ไม่ใช่ คือดูแล้วมันรักษาไม่ไหว มันรักษาไม่ได้ เราก็ไปรักษาจิตของเราไว้ แต่อย่างหมอเนี่ยะ ถ้าเค้าจะช่วยได้บ้าง คือ ช่วยบรรเทา ทุกขเวทนา ฉีดให้ฉีดมอร์ฟีนให้ อย่างเนี่ยะมันก็ไม่เป็นไรหรอก

 

ล่าม: ขอเมตตา หลวงพ่อให้คำแนะนำอันสุดท้ายว่ามีอะไรยังติดอยู่หรือเปล่า

 

ลพ: ไม่มีอะไรน๊า ไม่ต้องไปกังวลอะไรหรอก

 

ล่าม: ข้อสุดท้ายข้อเจ็ดค่ะ ข้อสุดท้ายแล้วค่ะ

 

หมวย: ขอตั้งใจถวายสังฆทาน

 

ล่าม: ขอกราบถวายสังฆทาน และปัจจัยเข้าวัด เป็นโอกาสสุดท้ายที่มาที่นี่ ขอกราบอโหสิกรรมหลวงพ่อ (ลพ อือ อ้าวดูจิตไป) และทุกคนที่นี้ด้วย ถ้ามีการล่วงเกิน แต่ไม่มีเจตนา

 

ลพ: อ้าวอโหสินะ เอวัง โหตุ เอวัง โหตุ ........

รักษาใจอย่างเดียวนะ....(ถวายสังฆทาน)

เป็นบทเรียนนะ บทเรียนคนพึ่งภาวนา เวลาเจอสภาวะอย่างนี้มันสู้ไหวนะ คนที่ไม่ได้ฝึกไว้เนี่ยะ สู้ไม่ไหวหรอก

 

อย่างบางคนเวลาจะตายนะให้ญาติมาบอกว่า พระอรหันต์ มันไม่หันหรอกนะ กินแต่หมูหันแทน

 

เนี่ยะถ้าใจเราฝึกเอาไว้ดีแล้วไม่ว่าอะไรเกิดขึ้นนะ มันจะเห็นนะ ขันธ์มันจะแตกออกมา ขันธ์อย่างไงมันก็แตกอยู่แล้ว เราก็จะเห็นขันธ์ที่มันแตก แต่ใจยังเป็นกลาง ถ้าใจไม่ยึดกับขันธ์นะ ใจไม่ทุกข์กับขันธ์นะ บางคนพ้นไปเลยก็มี

 

ในสมัยพุทธกาลนะมีพระองค์หนึ่งท่านภาวนา ทำอย่างไรก็ ไม่สำเร็จ พอวันหนึ่งท่านรู้สึกว่า จิตใจดีกว่าวันอื่นนะท่านเชือดคอตัวเอง เชือดคอแล้วยืนพิงฝานะ รู้สึกน้อยใจตัวเอง เราบวช ตั้งชาตินึงนะ แล้วไม่ได้อะไรติดตัว แต่ท่านมานึกได้ว่าตลอดเวลาเนี่ยะท่านรักษาศีลอย่างดี พอคิดว่าเรามีศีลที่ดี จิตใจเบิก บานขึ้นมา

 

อย่างของหมวยเนี่ยะ ถ้าเราจะมองว่าเราได้ภาวนา เราภาวนาได้เต็มที่แล้วในช่วงเวลาที่ผ่านมา จิตใจจะเบิกบาน

 

พระองค์เนี่ยะท่านก็มองร่างกายมันตาย เพราะฉะนั้นเวลาที่เราจะตายนะ ต้องตั้งสติไว้ ดูกายมันตายลงไป ใจอยู่ต่างหากนะ ฝึกดูอย่างนี้ กายมันตายแล้วใจเราอยู่ต่างหาก ใจไม่ทุกข์ด้วย บางคนก็ได้ธรรมะ พระองค์ที่ท่านเชือดคอเนี่ยะท่านเป็นพระอรหันต์เลย หรือบางคนไม่ได้พระอรหันต์ แต่ได้ธรรมะดีๆ ไป อยู่ที่นาทีวิกฤติเนี่ยะแหล่ะ

 

หลวงปู่ดูลย์เคยสอน ตกกระไดพลอยโจน ท่านสอนสำหรับคนที่ภาวนานะ แต่มันยังไม่จบ ในนาทีที่มันจะตายนะ เห็นกายมันตายไปยอมรับสภาพไป อย่าไปโกรธ อย่าไปเกลียดมันนะ ดูเฉยๆ เฝ้ารู้เฝ้าดูไป พอมันถึงเวลามันก็ต้องตายไป จิตอยู่ต่างหากนะ จิตไม่เกี่ยวหรอก

                               

        --------------------------------------------------------

   ผู้มีปัญญาย่อมเรียนรู้จากบทเรียนของผู้อื่น

 

 

ขออนุโมทนาบุญแด่เพื่อน ๆ ของคุณหมวย และกัลยาณมิตรที่ส่งบทเรียนก่อนตายนี้มาด้วยค่ะ และขอให้คุณหมวยไปสู่สุคติ สู่จุดหมายปลายทางที่ตั้งมั่นไว้ก่อนตายค่ะ

หมายเลขบันทึก: 296317เขียนเมื่อ 10 กันยายน 2009 20:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (33)

สวัสดีค่ะ

  • มาหยุดอยู่ที่บันทึกนี้นานเป็นพิเศษ
  • เศร้าจังค่ะ สงสาร หมวย
  • ขอให้ดวงวิญญาณของหมวยสุ่สุคติ
  • ขอคุณ คุณศิลาค่ะ  มีความสุขเสมอ ๆ นะคะ
  • หยุดนาน...ทุกตัวทุกบรรทัด..
  • ซึมซับ..เพราะคิดว่าเป็นตัวอย่างที่เราคงเข้าถึงได้ยาก..
  • ขอบคุณ..

ขออนุโมทนาบุญกับคุณหมวย         ที่อำนวยเรื่องของท่านงานบุญใหญ่

ให้สติมนุษย์สุดบรรยาย                    เป็นความดีครั้งสุดท้ายก่อนวายปราณ

ปัจฉิมโอวาทองค์ศาสดา                   ทรงเตือนว่าอย่าประมาทอรรถแตกฉาน

กรรมมีจริงกรรมมีผลคนพบญาณ     รอวันนั้นอาจสายให้สร้างบุญ

สร้างให้เร็วสร้างให้ไวให้นึกรู้             ให้เป็นผู้ตื่นเบิกบานไม่ผ่านสูญ

มรณาสติของหมวยนี้มีถึงคุณ         มาสร้างบุญตั้งแต่นี้มิสายเกิน

 

  • ไม่ทราบว่า ชาตินี้จะเข้าใกล้ๆ กับเขาได้ไหม
  • ขอให้คุณหมวยสู่สุขคติภพ
  • ขอบพระคุณครับ..

มาระลึกและตระหนักรู้ เรื่องการจากลาค่ะพี่ศิลา

ขอให้คุณหมวยไปสู่สุขคติ มั่นใจคุณความดีค่ะ

 

  • ขอบพระคุณคุณครูอิงค่ะ กับความรู้สึกที่มีให้แก่คุณหมวย  ศิลาอ่าน FW mail นี้และก็ทวนถ้อยคำบางคำด้วยความรู้สึกสะเทือนใจเช่นกันค่ะ
  • นอกจากเห็นใจในชะตากรรมของเพื่อนมนุษย์ที่เวียนว่ายในวัฎสงสารเดียวกันแล้ว ก็ยังอยากให้เราที่มีชีวิตอยู่ได้บทเรียนนี้ร่วมกัน ยิ่งเราเพียรเจริญสติเพื่อตัวเราเองเท่าไหร่ คุณหมวยก็จะได้กุศลผลบุญนี้ด้วยค่ะ เพราะได้ให้คุณค่าความตายนี้เป็นบทเรียนแก่กัลยาณมิตรทุกท่านค่ะ

 

สวัสดีครับอาจารย์  ขอให้คุณหมวยจงไปสู่สุคติ... อ่านแล้วดูหดหู่ เศร้าใจ แต่พวกเราทุกคนก็หนีไม่พ้นและก็ไม่รู้ว่าจะมาถึงตัวเราเมื่อใด..ท่านพุทธทาส บอกไว้ว่า" ตายเสียก่อนตาย"..สั้นๆ แต่ทำยากจริงๆ สำหรับเรา......

  • สวัสดีค่ะคุณ เกษตร(อยู่)จังหวัด เรามีความรู้สึกร่วมกันนะคะ เมื่อศิลาเห็น FW mail นี้ก็หยุดนาน อ่านทีละตัวอักษร เสมือนว่าจะเอาตัวเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ และพิจารณาตัวเองไปด้วยว่าถ้าอยู่ในสถานการณ์เดียวกันนี้ จะผ่านพ้นไปได้อย่างไร
  • ขอบพระคุณมากค่ะที่มาร่วมไว้อาลัยการจากไปของกัลยาณมิตรร่วมโลก ซึ่งเราต่างก็ไม่เคยรู้จักเหมือนกันค่ะ

สวัสดีวันหยุดค่ะคุณศิลา

อ่านอย่างพินิจ พิจารณา ...

ความตาย ไม่ได้อยู่ไกลเลย เราตายทุกวัน ทุกเวลา ทุกนาที...

ขอบคุณสำหรับมรณานุสติค่ะ

พักผ่อนมากๆนะคะ

คิดถึงค่ะ

(^___^)

  • ขอบพระคุณ ท่านอาจารย์ วิโรจน์ พูลสุข มากค่ะที่ประพันธ์บทกวีได้ซาบซึ้งใจมาก เกินกว่าจะบรรยายค่ะ เพราะ "บทเรียนก่อนตาย" ที่ส่งต่อถึงกัลยาณมิตรนี้ เป็นงานศิลป์ที่ทุกคนต้องลงมือปฏิบัติเอง การที่ท่านอาจารย์บรรจงรังสรรค์เป็นกลอน ย่อมเข้าใจและเข้าถึง จึงไม่มีคำพูดใด ๆ มาเสริมต่อค่ะ

 

มาอ่านอีก

อ่านหลายรอบแล้วค่ะ

 

ชื่นชมความกล้าหาญต่อความตายของน้อง ชื่อ หมวยค่ะ

ว่าง ๆ มาอ่านและพูดคุยอีกค่ะอาจารย์ศิลา

สวัสดีค่ะ  อ่านอย่างช้าช้า  แล้วเราก้หนีไม่พ้น

เป็นกำลังใจให้นะคะ  ไม่ได้มาทักนานมากคิดถึงค่ะ

  • สวัสดีค่ะ คุณ สามสัก บทเรียนเรื่องจริงของคุณหมวยเป็นการบ้านของผู้ที่มีชีวิตอยู่ทุกคนเลยนะคะ
  • ดูไว้เป็นแบบอย่าง มันไม่ไกลตัว ทันทีที่มีชีวิตเกิด ความตายก็อยู่ในชีวิตนั้นแล้ว อ่านแล้ว หวังว่าเราจะมีความกล้าหาญด้วยกันทุกคนค่ะ  

 

สวัสดีค่ะพี่ศิลา

คนยังไม่ตายก็เลยได้อ่านบันทึกแบบนี้

ภาพพ่อหลวงค่ะ กอยังจำได้ว่าพี่ศิลาเคยอยากให้กอวาดภาพให้

หากไม่รบกวนพี่ศิลา พี่ศิลาช่วยส่งภาพพี่ศิลาที่เห็นหน้าชัด ๆ มาให้กอด้วยน่ะค่ะ

ที่อยู่ 26 หมู่ 1 ซอยบัณฑิต 1 ตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล 91000

เป็นกำลังใจให้พี่ศิลาค่ะ พี่ศิลาเก่งด้วย ใจเย็น ยังไงก็สู้ ๆ เข้าไว้ค่ะ

 

  • น้อง สุดสายป่าน พี่จะหาภาพที่ดูเป็นธรรมชาติล่าสุดส่งไปให้ค่ะ ดีใจที่ยังจำได้ค่ะ แต่ถามนิดหนึ่งนะคะ ว่าหากส่งเป็น file ภาพทาง email จะสามารถทำได้ไหมคะ หรือว่าอาจจะมีปัญหาตอน print ออกมาไม่ได้ เออ เน๊อะ น่าจะเป็นอย่างนั้น (ถามเอง เออเอง) ถ้าอย่างนั้น จะส่งไปทางไปรษณีย์ค่ะ  รอพักหนึ่งนะคะ พอดีช่วงนี้ พี่ศิลาออกไปนอก office บ่อย ๆ เพื่อประชุม (ขาขวิด)  และอีกไม่กี่วันก็จะไปต่างจังหวัด อาจจะหาโอกาสในสัปดาห์ค่ะ
  • สวัสดีคุณsila
  • เป็นคติเตือนใจสำหรับผู้อยู่เบื้องหลังจะได้นำไปเป็นอนุสติ ยอมรับว่าน้องเขาฝึกจิตได้ดีมาก ยังสามารถประคองจิตในยามที่ขันธ์จะแตกสลาย
  • ขออานิสงค์จากการให้วิทยาธรรมเป็นทานดังกล่าว จงเป็นพลวปัจจัยหนุ่งส่งให้คุณหม่วยไปสู่สุคติ เทอญ
  • ขอบคุณ

สวัสดีค่ะอาจารย์ ความตายพระพุทธเจ้าบอกกับพระอานนท์ว่าให้คิดถึงความตายบ่อยๆใช่ไหมคะ...

พี่แดงก็อยู่กับเด็กๆที่จากไปก่อนวัยอันควร...บางคนเพิ่งป่วย ยังไม่ถึงเดือน แล้วอายุก็แค่ สองปี...กำลังน่ารัก เป็นมะเร็งเลือดออกในสมอง...ทั้งที่เมื่อวานยังดูดีๆ...

ชีวิตนี้แสนสั้น เหมือนน้ำค้างยามเช้า...พี่แดงเคยไปซ้อมตาย...เตรียมตัวตายอย่างมีสติ...ไม่อยากจากไปแบบทรมาน...

ขอให้ดวงวิญญาณของคุณหมวยไปสู่สุคติ....

 

  • ขอบพระคุณพี่แดงค่ะที่มาร่วมไว้อาลัยคุณหมวย สิ่งที่เราได้และนำไปปฏิบัติจะเป็นผลบุญให้กับคุณหมวยด้วยค่ะ
  • การเจริญสติภาวนาจะช่วยทำให้ใจไม่เจ็บปวดค่ะ หากเด็กที่ป่วย อายุมากพอที่จะรู้เรื่อง (7 ขวบขึ้นไป) ลองเปิดธรรมะของหลวงพ่อปราโมทย์ให้ฟังเล่น ๆ ไปเรื่อย ๆ นะคะ หากเขาไม่ชอบก็ปิด  ไม่ไปบังคับค่ะ
  • อย่างน้อยก็เป็นความปรารถนาดีจากผู้ให้และห่วงหาอาทรค่ะ

ขออนุญาติส่งเมล์ต่อให้เพื่อนได้ไหมครับ

อ่านแล้วควรไม่สุข ไม่ทุกข์ ไม่ร้อน ไม่เย็น

ขอบคุณครับ ;)

สวัสดีครับ

ขอบคุณสำหรับบันทึกดีๆครับ

อย่างนี้หรือเปล่าครับ ที่เรียก มรณานุสติ (เคยได้ยินเขาว่ามา)

  • เราที่ยังมีชีวิตอยู่คงรู้สึกเหมือนกันนะคะ น้อง poo การมีชีวิตอยู่ด้วยความรู้ตัว ไม่ประมาท จะเป็นการอยู่ที่ไม่ตายค่ะ
  • ตายเสียก่อนตาย ทำยากจริง ๆ อย่างที่คุณ หนุ่ม กร~natadee กล่าวมาค่ะ ขอให้รู้ว่าควรทำ ก็ตื่นได้ขณะหนึ่ง ก็ยังดีแล้วล่ะค่ะ ขอบพระคุณอีกครั้งมากค่ะสำหรับหนังสือธรรมะที่ส่งมาให้
  • เชื่อว่าคุณหมวย คงไปอยู่ในที่ที่ดีแล้วแน่นอนค่ะ คุณ Phornphon เหลือก็แต่เรานะคะ
  • รู้สึกเช่นเดียวกันเลยค่ะ คุณ ภูสุภา ศิลามองเห็นถึงความกล้าของคุณหมวยเด่นชัดมาก และย้อนดูตัวเองว่าจะทำได้อย่างที่เธอทำหรือเปล่า กายป่วย ใจอาจจะป่วยตามไปด้วยก็ได้ค่ะ ทุกถ้อยคำของเธอมาจากการเพียรปฏิบัติอย่างน่ายกย่องค่ะ
  • ขอบพระคุณค่ะ คุณ คนไม่มีราก ช่วงนี้เป็นรอยต่อของการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร มีเรื่องมากมายให้ขบคิด ทำให้เข้าใน G2K ไม่ได้นาน ๆ แต่ก็ list กัลยาณมิตรในใจที่อยากแวะมาฝากรอยไว้อย่างสม่ำเสมอค่ะ
  • การได้มาเห็น "ความตาย" จะด้วยทางไหนก็ตาม อย่างสม่ำเสมอ ทำให้เราหยุดพินิจได้ว่าบางครั้งสิ่งที่เราเครียดเรื่องงานนั้น เทียบเท่าไม่ได้กับการอยู่ระหว่างความเป็นความตายค่ะ
  • รู้สึกตัวเช่นนี้ ทำให้ลดทุกข์ภายในได้เป็นกอง

คุณ sila ครับ

คงเป็นบันทึกสุดท้าย สำหรับ คืนนี้ ที่นี่

การได้อ่านบันทึกนี้...ทำให้รู้สึกอีกแล้ว ครับว่า.....ความตายไม่เคยทรยศต่อเราเลย

รู้สึก...อบอุ่นใจ ครับ ที่ได้อ่านบันทึกนี้ก่อนกลับบ้าน

ชีวิตคนเรา...ก็เพียงเท่านี้

จากไป...ก็มีเพียงเท่านี้  ปล่อยวาง ว่างเปล่า ไม่ยึดติด

เวลาที่เราจะตายนะ ต้องตั้งสติไว้ ดูกายมันตายลงไป ใจอยู่ต่างหากนะ ฝึกดูอย่างนี้ กายมันตายแล้วใจเราอยู่ต่างหาก ใจไม่ทุกข์ด้วย

คุณ sila เชื่อมั้ยครับว่า...ทุกวันนี้ 

ผมมีชีวิต ...แบบปล่อยวางมากขึ้น  อาจเป็นเพราะการได้เรียนรู้ รู้จักรับ และให้ อย่างมีเหตุผล

มาด้วยความระลึกถึง ครับ

  • ขอบคุณน้อง Phornphon ที่แวะมาเยี่ยมบันทึกนี้ค่ะ
  • ศิลาก็ทึ่งคุณหมวยมากเลยค่ะ พี่ภูสุภา P การมีสติรู้ตัวก่อนตาย ไม่ธรรมดาเลย ศิลาฟังเทปม้วนหลังเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ หลวงพ่อปราโมทย์ท่านได้กล่าวถึงตอนที่คุณหมวยไปทำบุญที่วัดหลวงพ่อและอธิษฐานจิตจะขอเกิดเป็นมนุษย์เพื่อมาปฏิบัติธรรมอีก ตรงนี้ ท่านให้ข้อคิดว่าควรระลึกรู้ลงปัจจุบัน ไม่ใช่ห่วงอนาคต

สวัสดี ครับคุณ sila

เข้ามาอ่านบทเรียนชีวิตบทนี้ นะครับ

save ข้อมูลไปอ่านที่บ้าน นะครับ

ด้วยความระลึกถึง

คิดถึง...จึงมาหา..

สวัสดียามเช้าค่ะ อ. Sila Phu-Chaya


เอาต้นปรงญี่ปุ่นมาฝากค่ะ

ปลูกไว้หน้าบ้าน เพื่อเตือนสติ ...ตัวเอง

ก่อนออกจากบ้านในยามเช้า และกลับเข้าบ้านในตอนเย็น ..

เพื่อทำใจให้ปลง...และปล่อยวาง

....ชีวิตก็เป็นเช่นนี้ค่ะ

  ผู้มีปัญญาย่อมเรียนรู้จากบทเรียนของผู้อื่น..

...อาจารย์สบายดีนะคะ

คิดถึงเสมอค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ...^_^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท