ทำบุญให้คนตาย..


บุญที่ท่านทำอุทิศให้คนตายย่อมสำเร็จผล

               การทำบุญให้แก่บุพพการีชน ญาติพี่น้อง หรือผู้ที่เรารัก ซึ่งล่วงลับไปแล้วนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่ชาวพุทธได้ทำกันสืบมานาน  แต่การทำอย่างนี้มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ใครทำก่อน หรือมีตัวอย่างที่เล่ากันบ้างไหม..วันนี้อาตมาภาพอยากจะขอนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวกับการทำบุญอุทิศให้แก่คนตาย

               การทำบุญอุทิศให้แก่ผู้ตายนี้ ท่านเรียกว่า ปุพเพเปตพลี  เริ่มมีมาในครั้งพุทธกาลสมัยที่พระเจ้าพิมพิสารสร้างวัดเวฬุวันถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมสัมพุทธเจ้า  แต่พระองค์ยังไม่กรวดน้ำอุทิศบุญให้พระญาติของพระองค์ที่ล่วงไปแล้ว  ตกเย็นมาเหล่าเปรตที่เคยเป็นพระญาติของพระองค์ในชาติก่อน ๆ ก็มาปรากฏให้เห็นในพระสุบินหรือความฝัน  พระเจ้าพิมพิสารก็ตกพระทัยกลัว  รุ่งเช้าเสด็จไปที่วัดถวายภัตตาหารและทูลความฝันนั้นให้พระพุทธเจ้าทรงทราบ  พระพุทธองค์ตรัสว่า  เปรตเหล่านั้นเป็นพระญาติของพระองค์ในชาติก่อน  มาปรากฏให้เห็นเพื่อที่จะขอส่วนบุญจากพระองค์  ลำดับนั้นพระเจ้าพิมพิสารก็ได้กรวดน้ำอุทิศส่วนบุญที่พระองค์ได้ทำให้แก่ญาติที่เป็นเปรตเหล่านั้น  จนเป็นธรรมเนียมของการกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญไปให้แก่ผู้ตายของชาวพุทธเราจวบจนปัจจุบันนี้  นอกจากนั้น..ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับการทำบุญให้แก่ผู้ตายอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะเล่า  คือ  เศรษฐีทำบุญให้ลูกชาย 

               เล่ากันมาว่า..ในเมืองแห่งหนึ่ง  มีเศรษฐีคนหนึ่งซึ่งมีลูกชายที่เป็นที่รักคนหนึ่ง  ด้วยความเป็นลูกที่ว่านอนสอนง่าย  น่ารักน่ายินดี  เศรษฐีก็รักลูกตนเป็นอย่างมาก  แต่อยู่มาวันหนึ่งลูกชายกลับเป็นโรคร้ายที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้  สุดท้ายลูกชายก็จากลาเศรษฐีไป  เศรษฐีมีความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง  และได้สั่งคนให้สร้างศาลาขึ้นเฉพาะไว้เพื่อบรรจุศพของลูกชายตนที่ป่าช้า  และได้สั่งให้คนใช้นำอาหารไปให้ทุก ๆ วัน  เพราะกลัวว่า  ลูกชายนี้เมื่อตายไปอยู่ในปรโลก แล้วจะไม่มีอะไรดื่มกิน  และเชื่อว่า  วิญญาณของลูกคงจะได้กินอาหารที่นำไปให้นั้น 

              แต่อยู่มาเช้าวันหนึ่ง  ในขณะคนใช้กำลังจะนำอาหารไปให้ลูกชายเศรษฐีที่บ้านนั้นเหมือนทุก ๆ วัน  ก็ปรากฏว่าฝนตกลงมาอย่างแรง  นางก็ไม่สามารถไปที่บ้านนั้นได้  เพราะทางไปยากลำบากมากนัก  จึงตัดสินใจเดินกลับ  แต่ในขณะเดินกลับบ้านก็เห็นพระรูปหนึ่งท่านเดินรับบิณฑบาตอยู่  ก็ได้ถวายอาหารของลูกชายเศรษฐีให้แด่พระรูปนั้น  แล้วได้อธิฐานขอพรนั้นว่า  ขอบุญส่วนนี้จงแผ่ไปให้แด่ลูกชายเศรษฐีด้วยเทอญ 

              ตกเย็นมา..เศรษฐีก็ได้เกิดนิมิตฝันเห็นลูกชายของตนมาบอกว่า  พึ่งจะได้กินข้าวของพ่อในวันนี้นี่เอง  ทำไมพ่อไม่นำอาหารมาให้กินบ้าง  เช้ามาเศรษฐีก็โกรธมากเข้าใจว่า  คนใช้คงไม่ได้นำเอาอาหารไปให้ลูกชายของตน  จึงเรียกนางมาถามสาเหตุ  นางคนใช้ก็ตอบไปว่า  นางนำไปให้ทุก ๆ วัน  แต่เมื่อวานไม่ได้นำไปให้เพราะฝนตกอย่างแรง  และหนทางไปไม่สะดวกไปไม่ได้  เลยนำอาหารไปถวายพระรูปหนึ่ง  แต่ได้อธิฐานนำส่วนบุญนั้นไปให้แด่ลูกชายท่านเศรษฐี  จากนั้น  เศรษฐีเองได้เดินทางไปวัดเพื่อถามความนั้นกับพระ  พระท่านจึงได้อธิบายความเป็นมาและหลักของการทำบุญอุทิศให้แก่คนตายให้เศรษฐีฟัง  เศรษฐีเกิดความเข้าใจแล้วจึงได้ทำบุญให้ลูกชายของตนเรื่อยมา 

              เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า  บุญที่ท่านทำอุทิศให้คนตายย่อมสำเร็จผลอย่างแน่นอน  ดังที่ปรากฏเป็นบทคาถาบาลีในการให้พรที่พระท่านว่า  "ยถา วาริวหา ปูรา ปริปูเรนฺติ สาครํ  เอวเมว อิโต ทินฺนํ เปตานํ อุปกปฺปติ .. แปลเป็นไทยได้ว่า  "ห้วงน้ำที่เต็มย่อมยังสมุทรสาครให้บริบูรณ์ได้ฉันใด ทานที่ท่านอุทิศให้แล้วแต่โลกนี้ย่อมสำเร็จประโยชน์แก่ผู้ที่ละโลกนี้ไปแล้ว ฉันนั้น"  ดังนั้น  เมื่อเรานึกถึงคุณความดีของผู้ล่วงลับไปแล้ว  ก็ควรทำบุญอุทิศให้ผู้ตายโดยเฉพาะพ่อแม่พี่น้องหรือญาติ ๆ ที่มีอุปการคุณแก่เรา  เราควรตอบแทนบุญคุณท่านด้วยการทำบุญไปให้  เป็นหน้าที่อีกอย่างของบุตรธิดาที่ต้องทำเมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว  เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทิตา  ถ้าท่านได้รับทุกข์ก็จะได้พ้นทุกข์  ถ้าท่านรับความสุขก็จะสุขยิ่งขึ้น ๆ ไป นะโยม..


MusicPlaylist
MySpace Playlist at MixPod.com

หมายเลขบันทึก: 294805เขียนเมื่อ 5 กันยายน 2009 22:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 21:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

มีญาติผู้ใหญ่ที่เคารพรัก ท่านเสียไปหลายปีแล้ว

ก็ตั้งใจทำบุญไปให้ท่านทุกปีค่ะ

นมัสการ ค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ....ทำบุญให้บ่อยๆค่ะ หวังว่าญาติที่เสียชีวิตจะได้รับส่วนบุญนะคะ

ดนตรีที่ประกอบเพราะมากๆค่ะ ผ่อนคลายจังเลย

การได้อ่านธรรมะ ก็ช่วยจรรโลงใจเหลือเกิน....

นมัสการค่ะ

ตั้งใจทำบุญเหมือนกันค่ะ

แต่ส่วนมากจะทำสังฆทาน

นอกจากจะทำบุญให้ญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว

ยังทำให้จิตใจสงบดีด้วยค่ะ

นมัสการค่ะ อ่านแล้วได้ข้อคิด และต้องไปทำบุญให้ญาติๆที่เสียชีวิต

ดนตรีเพราะมากๆค่ะ

นมัสการพระคุณเจ้าค่ะ

ไม่ได้เข้ามานานเลยค่ะ เนื่องด้วยต้องเดินทางบ่อย และเมื่อกลับมางานก็กองสุมอยู่เต็มเลย วันนี้มีคำถามมาอีกแล้ว เรื่องทำบุญนี่แหล่ะค่ะ ด้วยว่ามีความตั้งใจจะทำกฐินสักหนึ่งครั้งในชีวิต ปกติก็จะทำบุญโดยใส่ซองร่วมกับเพื่อนฝูงหรือญาติๆ ทุกปีอยู่แล้ว จะเป็นผ้าป่าก็ดี กฐินก็ดี มักจะมีเพื่อนฝูงฝากซองมาให้เรื่อยๆ วันที่ ๒๕ นี้ก็จะไปทอดกฐินร่วมกับญาติที่วัดที่สุพรรณบุรีค่ะ บุญจะต่างกันไหมคะระหว่างใส่ซองทำบุญ กับการจัดการตั้งองค์กฐิน(หมายถึงดำเนินการติดต่อวัด แจกซองญาติๆและเพื่อนฝูง) เคยอ่านเจอในหนังสือเมื่อนานมาแล้วน่ะค่ะว่า การทำกฐินเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ ก็เลยมีความตั้งใจว่าอยากจะทำให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต อยากจะอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลที่จะได้ให้คุณพ่อ คุณแม่และคุณยาย และญาติๆ ที่ล่วงลับไปแล้ว (และแน่นอนว่าคงจะรวมถึงเจ้ากรรมนายเวรด้วย) เพราะไม่เคยได้มีโอกาสทดแทนบุญคุณพวกท่านเลยในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เพราะพวกท่านเสียชีวิตตั้งแต่ดิฉันยังเรียนหนังสือไม่จบเลยค่ะ ถ้าไม่มีพวกท่านที่คอยสนับสนุน ดูแลและให้ความรัก ดิฉันคงจะไม่ได้สุขสบายอย่างทุกวันนี้ และอีกอย่างนึง ถ้าเราใส่บาตรในวันธรรมดา แต่จะเลี่ยงใส่บาตรในวันพระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันพระใหญ่ เพราะเคยไปทำบุญที่วัดในวันสำคัญทางพุทธศาสนา เห็นญาติโยมมากันเยอะมาก อาหารก็เหลือเยอะแยะ เห็นแล้วเสียดายนะค่ะ ก็เลยชอบที่จะใส่บาตรในวันธรรมดามากกว่า บาปบุญต่างกันไหมคะ และถ้าจะทำกฐินต้องดำเนินการอย่างไรบ้างคะ รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ

เจริญพร..โยมภัสรา.. บุญกฐินนั้น..เป็นประเพณีเกี่ยวกับการทำบุญว่าด้วยการเย็บย้อมทำผ้าไตรจีวรถวายพระผู้ที่จำพรรษาอยู่ตลอดสามเดือน..พูดง่ายๆคือ..การหาผ้าหรือทำผ้าจีวรให้ท่านเปลี่ยนใหม่..นั่นเอง..เป็นบุญที่มีอานิสงส์มากเพราะจำกัดเวลาทำ..คือทำได้เฉพาะหลังออกพรรษาหนึ่งเดือนเท่านั้น..ถ้าอยากทำบุญกฐินก็ต้องทำความเข้าใจให้มาก..เป็นการทำบุญที่พิถีพิถันละเอียด..เพราะถ้าทำไม่ถูกต้องตามพระวินัยหรือไม่ถูกทำเนียมแล้ว..หรือที่เรียกว่า..กฐินเดาะ..อานิสงส์แห่งการทำบุญกฐินก็อาจได้รับไม่เต็มที่..ก็เป็นได้ เรื่องกฐินเป็นเรื่องที่ยาว..ถ้าจะอธิบายในที่นี้ก็คงไม่ละเอียดพอ..อาตมาขอแนะนำเว็บไซต์นี้..ซึ่งเขาอธิบายเกี่ยวกับกฐินไว้มากทีเดียว..ทั้งความหมาย..ประเภท..วิธีการจองกฐิน..การประกอบพิธีกรรม..โยมลองเข้าไปอ่านดู..ได้เน้อhttp://www.isangate.com/local/katin_01.html

ส่วนการตักบาตรพระ..ใส่วันไหนก็ได้บุญวันนั้นแหล่ะโยม..ได้มากได้น้อยขึ้นอยู่กับศรัทธาเจตนาที่บริสุทธิ์..วัตถุทานที่บริสุทธิ์..โยมผู้ถวายและพระผู้รับก็ต้องบริสุทธิ์ด้วยศีล..ที่โยมนิยมใส่กันวันพระ..ก็เพราะวันพระเป็นวันที่พระสงฆ์ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา..บำเพ็ญบุญปฏิบัติธรรมกันกว่าวันธรรมดา..โยมโดยมากจึงเชื่อว่า..ทำวันพระกับพระที่กำลังปฏิบัติธรรมจะได้บุญมากกว่า..แต่โยมถ้าโยมคิดว่า..วันพระคนทำเยอะ..โยมก็ทำวันธรรมดา..ก็ได้..ได้บุญเท่ากันนั่นแหละ..ถ้าโยมตั้งใจจริง..ขอเจริญพร..

กราบนมัสการพระคุณเจ้า

ทำบุญ ก็ยังให้ จิตผ่องใส

นั่นเป็น บุญปัจจุบัน ที่ผมได้รับเสมอครับ หลังจากทำบุญ

พระคุณเจ้าแสดงธรรมได้ชัดเจนและพิศดารดีครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท