ไม่ได้มีประสบการณ์ในการสอนมากมายนัก แต่ด้วยความที่เป็นนักศึกษาอาชีวะมาก่อนและชีวิตค่อยข้างจะผูกพันเกี่ยวข้องอยู่กับวงการการศึกษามาตลอด จึงมองภาพลักษณ์ของนักศึกษาอาชีวะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด อาจจะโชคดีที่ตนเองจบมาทางด้านจิตวิทยาการศึกษาด้วยกระมังถึงได้เข้าใจความเป็นไปในธรรมชาติของเด็ก
เคยป้อนคำถามถามตนเองทุกครั้งเมื่อจิตอยู่ในความสงบ ว่าทำไมในโลกกว้าง ๆ ถึงมีคนมองภาพลักษณ์นักศึกษาอาชีวะแคบจนเกินไป แล้วทำไมภาพลักษณ์ที่เขาเห็นจึงเป็นเช่นนั้น เกิดคำถามมากมายให้ได้คิด ซึ่งเป็นความรู้สึกผิดแผกแตกต่างจากตนมอง อาจเพราะด้วยความเป็นเด็กช่างมือซ้ายถือไม้ที มือขวาถือแชลง จึงทำให้ภาพลักษณ์กลายเป็นกุ๋ยข้างถนนหรืออย่างไร แต่ในความเป็นนักศึกษาเด็กก็คือเด็ก ยังมีจิตใจของความรักดี มีใจใฝ่เรียนรู้ มีความอ่อนไหวต่อสิ่งรอบข้าง และมีบางอย่างเหมือน ๆ กับเด็กทั่ว ๆ ไป
ความเป็นจริงกฎของธรรมชาติมีขาวก็ต้องมีดำ มีมืดย่อมมีสว่าง เหรียญย่อมมีสองหน้าเสมอ คนไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในสภาพแวดล้อมที่ดีอย่างไรย่อมมีมุมมืดและมุมสว่างของชีวิตเช่นเดียวกัน หากเมื่อมองลงไปถึงจิตใจข้างในเด็กก็ยังคงเป็นผ้าขาวที่ใสและบริสุทธิ์ ไม่มีรอยเปื้อนหมองใด ๆ ให้ได้เห็น หากแต่อยู่ที่การหล่อหลอมเติมแต่งแต้มสีสันลงไปหนักเบาแล้วแต่มือครูจะลงสี
บ่อยครั้งที่ตนมองกลับพบว่า หากต้นไม้ต้นหนึ่งปลูกไว้ที่หน้าบ้านมั่นตัดแต่งกิ่งก้าน รดน้ำ พรวนดิน และใส่ปุ๋ยให้พอเหมาะ พืชนั้นย่อมงามตาเมื่อได้ยล เก็บเกี่ยวผล ดอกใบให้ได้กิน ยังอาจเป็นที่ชื่นชมของเหล่าบรรดาผู้พบเห็น แต่หากต้นไม้ต้นหนึ่งไซร้ปลูกไว้แต่กลับไม่เหลียวแล ย่อมเป็นธรรมดาที่ต้นไม้จะเหี่ยวเฉา ภาพสะท้อนจากต้นไม้ที่ได้ยลย่อมก่อเกิดคำถามตามมาได้มากมาย เป็นเพราะความไม่เอาไหนของต้นไม้หรือเป็นเพราะความไม่ใส่ใจของคนปลูก เป็นคำถามที่รอคำตอบจากคุณครูว่าที่เป็นอยู่ทำดีกันแค่ไหน หากจะสั่งสอนศิษย์ให้เป็นอย่างที่ตนหวังเคยปลูกฝังใส่อะไรให้ศิษย์บ้าง น้ำที่รดแต่ละหยดมาจากใจหรือจากไหน มีดตัดกิ่งตัดใบคมพอแล้วหรือยัง เคยพรวนดินใส่ปุ๋ยให้เขาเท่าไรกัน หากต้องการให้ศิษย์นั้นดูงามตา เหล่าบรรดาผู้พบเห็นได้ชื่นใจ ทั้งหมดนี้ไซร้อยู่ที่ใครกัน หากภาพนั้นย่อมสะท้อนถึงตัวครูผู้สั่งสอน
ให้ – เมื่อเขาขอ เป็นการดี
ให้ – โดยความเข้าอกเข้าใจ แม้เขาไม่ได้ขอเป็นการดีขึ้น
และเมื่อศรัทธาจะให้, เที่ยวเสาะหาผู้ควรได้รับ,
เป็นความบันเทิงใหญ่ยิ่ง ยิ่งกว่าการให้เสียอีก
It is well to give when asked, it is better
to give unasked through understanding;
And to the open-handed, the search for one
who shall receive is joy greater than giving.
The Prophet.
หนูก็เป็นนักศึกษาอาชีวะ เหมือนกัน เรียนตั้งแต่ ปวช.และปวส. ค่ะ ตอนเรียนอาชีวะ เข้าใจจุดนี้เหมือนกันค่ะอาจารย์ เพราะจะโดนดูถูกจากสายตาของคนรอบข้างเป็นอย่างมาก ทั้ง ๆ ที่เราจัดได้ว่าเป็นเด็กตั้งใจเรียนคนนึงนะค่ะ แต่ทำไมคนภายนอกถึงมองพวกเราแบบนั้นก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน จนถึงทุกวันก็ยังไม่เข้าใจเลยค่ะอาจารย์... หนูอยากให้ทุก ๆ คนหรือสังคมเข้าใจบ้างว่า เด็กอาชีวะที่ดี ๆ ก็มีนะค่ะ การเลือกเรียนสายอาชีพไม่ใช่ว่าเค้าจะเป็นเด็กไม่ดีหรือใจแตก แต่เป็นเพราะอยากเรียนและความจำเป็นบางอย่าง เพื่อให้สามารถจบแล้วทำงานได้ทันที โดยไม่ต้องเรียนต่อในระดับปริญญาตรี เพราะฐานะทางบ้านไม่ดี (นี่ก็เป็นอีกเหตุผลนึงของนักศึกษาหลายคนที่เลือกเรียนสายอาชีวะ) หนูอยากให้สังคมเข้าใจและยอมรับนักศึกษาอาชีวะบ้างค่ะว่าเด็กดี ๆ ก็มีเหมือนกัน... เหมือนกับคนในสังคมที่มีทั้งคนดีและคนเลว ไม่อยากให้เหมารวมกันว่าเด็กเทคนิค หรือเด็กอาชีวะ เรียนแล้วจะต้องเป็นเด็กเกเร เสมอไป !!
ขอบคุณค่ะ อาจารย์ที่เข้าใจหนูค่ะ อย่างน้อยก็มีอาจารย์คนนึงหล่ะที่เข้าใจหนูค่ะ....
เห็นด้วยกับคุณ "ขจิต" ค่ะ
ว่าสถานศึกษามิใช่ตัวกำหนดว่าเด็กจะดีหรือร้าย สถานศึกษาไหน ๆ
ก็ให้ความรู้กับนักศึกษาทั้งน้นอยู่ที่ว่าเราจะเก็บเกี่ยวไปได้มากแค่ไหน
หากแต่ได้ฟังข่าวเรื่องเด็กอาชีวะชกต่อยตบตี บอกตรง ๆ
ว่าเกิดอาการไม่พอใจทันที เพราะทุกครั้งที่เสนอมีแต่ภาพลบทั้งนั้น
สิ่งดี ๆ ไม่เคยนำเสนอให้เห็น ด้วยความที่เราเป็นเด็กอาชีวะมั้งค่ะ
อย่างที่น้องนิวลง คห. ค่ะ
พี่เห็นด้วยทุกอย่างเลือดรักสถาบันมันแรงค่ะ
"ปลาเน่าหนึ่งตัวเหม็นทั้งแข่ง"
แต่ในความเป็นจริงปลาส่วนใหญ่ไม่ได้เน่าและก็ไม่ได้เหม็น
ให้รู้ตัวว่าเรามาเรียนเพื่ออะไร ใครมองอย่างไรช่างเขา เรามาเพื่อเก็บเกี่ยวความรู้ประสบการณ์ เท่านี้ก็เป็นความภาคภูมิใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับตัวเราเอง
ถูกต้องนะค๊า...สำหรับคำพูดที่ว่า put the right man on the right job ต้องใช้คนให้ถูกกับงาน ยังใช้ได้เสมอคะ !! คุณขจิต ค่ะ (ในฐานะที่เป็นนิสิตปริญญาเอก ภาคภาษาอังกฤษ) หนูขอเรียนถามนิ๊ดนึงค่ะ ว่า...แล้วทำไมคำภาษาอังกฤษนี้ถึงต้องใช้คำว่า man ด้วยค่ะ แบบนี้แสดงว่าผุ้ชายยังไงก็ต้องเป็นผู้นำหรือเปล่าคะเนี่ย เหอ ๆ ทำไมไม่มี woman บ้าง...อิอิ...
อาจารย์ขจิต เก่งจังเลย !! สำหรับของ นิวจะค่อนข้างกังวลมาก ๆ กลัวว่างานจะไม่ได้รับการตีพิมพ์ค่ะ เหอ ๆ เพราะว่าแข่งกันเยอะเหลือเกิน แง ๆ แต่ก็ทำให้ดีที่สุด เพราะนิวเป็นความหวังของหมู่บ้านจอมบึง ค่ะ อิอิ..!!! อ.ขจิต ค่ะ นิวเรียนมหาวิทยาลัยเอกชน แถว ๆ บางเขน ค่ะ บอกแค่นี้อาจารย์คงทราบว่าเป็นที่ไหนนะค่ะ นิวเรียนทางด้าน IT ค่ะ ขอบคุณที่ถามค่ะ
หากตัวเองดูถูกตนเองแล้ว ก็ยากที่จะให้ผู้อื่นยอมรับในตัวตนได้
คงไม่ใช่เฉพาะนักเรียนอาชีวะหรอกครับ แม้แต่ในระดับมหาวิทยาลัย ก็มีการแบ่งเกรดกัน .. ผมอ่านหลายๆคำตอบ ใน forum นี้ เจอะคำว่า put the right man on(in) to the right jop (ผมไม่แน่ใจเรื่อง preporsition) .. ในระบบราชการ ทำได้ยากมากๆครับ-อ่านแล้วก็ไม่เข้าใจในเจตนา ว่าต้องการสื่อถึงอะไร .. โดยความคิดเห็นส่วนตัว ขอเสนอคำว่า "ค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน" น่าจะตรงกับความคิดเห็น ใน forum นี้
จบมหาวิทยาลัยชั้นหนึ่ง ทำงานโหล่ยโท่ย ผู้บริหารคงไม่ตาถั่วมังครับ .... (ยกเว้นเส้นใหญ่ ชนิดเส้นก๋วยเตี๋ยวยังอาย)
หากตัวเองดูถูกตนเองแล้ว ก็ยากที่จะให้ผู้อื่นยอมรับในตัวตนได้
คงไม่ใช่เฉพาะนักเรียนอาชีวะหรอกครับ แม้แต่ในระดับมหาวิทยาลัย ก็มีการแบ่งเกรดกัน .. ผมอ่านหลายๆคำตอบ ใน forum นี้ เจอะคำว่า put the right man on(in) to the right jop (ผมไม่แน่ใจเรื่อง preporsition) .. ในระบบราชการ ทำได้ยากมากๆครับ-อ่านแล้วก็ไม่เข้าใจในเจตนา ว่าต้องการสื่อถึงอะไร .. โดยความคิดเห็นส่วนตัว ขอเสนอคำว่า "ค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน" น่าจะตรงกับความคิดเห็น ใน forum นี้
จบมหาวิทยาลัยชั้นหนึ่ง ทำงานโหล่ยโท่ย ผู้บริหารคงไม่ตาถั่วมังครับ .... (ยกเว้นเส้นใหญ่ ชนิดเส้นก๋วยเตี๋ยวยังอาย)
ขอบคุณ...คุณ ขจิต, น้องนิว, คุณวิสาขบูชา และคุณ "พงศกร" ที่เข้ามาแลกเปลี่ยนสิ่งดี ๆ ต่อกัน และยืนยันว่าสถาบันการศึกษามิใช่เป็นตัวกำหนดว่าใครดีหรือเลว หากแต่ขอให้มองที่คุณภาพของเด็กเป็นสำคัญ
ขอบคุณ คุณขจิตครับ (มือไวไปนิดนึงครับ)
เห็นด้วยกับความคิดเห็นของท่านนะครับ
คุณ "ขจิต"
เจ้าของ blog ไม่รังเกียจค่ะ "psychology" ยินดีหากจะมีคนช่วยดูแลให้อีกคน และขอบคุณหลาย ๆ สิ่งที่มอบให้มาตลอด
ฝากช่วยดูแล blog "psychology" ให้ด้วยน่ะค่ะคุณ "ขจิต"
ผมคุ้นๆว่า มีเรื่อง put the right man ... เก็บไว้ใน forword mail จึงไปค้นดูและนำมาให้อ่าน .. ขำๆนะครับ
เราจะจัดคนเข้าทำงานที่เหมาะสมได้อย่างไร?
ลองวิธีนี้ดู
นำก้อนอิฐประมาณ 100 ก้อน
มาวางเรียงไว้ในห้องปิด ที่มีหน้าต่าง
จากนั้นส่งกลุ่มคนที่ต้องการทดสอบเข้าไป แล้วปิดห้อง
ปล่อยให้รอแบบนั้นประมาณ 4 ชั่วโมง
จากนั้นวิเคราะห์ผลตามข้อมูลต่อไปนี้
• ถ้ากลุ่มนั้นกำลังนั่งนับอิฐ
นับแล้วนับอีกว่ามีกี่ก้อนให้ไปอยู่แผนกบัญชี
• ถ้ากลุ่มนั้นทำอิฐกระจัดกระจายเลอะเทอะเต็มห้อง
ให้ไปอยู่แผนกวิศวกรรม
• ถ้ากลุ่มนั้นจัดก้อนอิฐใหม่
ให้เป็นอีกรูปแบบหนึ่งให้ไปอยู่แผนกออกแบบ
• ถ้ากลุ่มนั้นเอาอิฐขว้างกันเล่นอยู่ให้ไปอยู่ Operation
• ถ้ากลุ่มนั้นทำให้อิฐแตกเป็นชิ้นๆ ให้ไปอยู่ IT
• ถ้ากลุ่มนั้นนั่งอยู่เฉยๆไม่ทำอะไร ให้ไปอยู่ HR
• ถ้ากลุ่มนั้นขว้างอิฐออกไปนอกหน้าต่าง ให้ไปอยู่แผนกวัสดุ
• ถ้ากลุ่มนั้นถืออิฐไว้ไม่ยอมวาง ให้ไปอยู่ Treasury
• ถ้ากลุ่มนั้นบอกคุณว่าได้นำอิฐไปเรียงอยู่หลายแบบ
(จนเบื่อแล้วแต่อิฐไม่ได้ขยับไปไหนแม้แต่ก้อนเดียว ให้ไปอยู่
Sales)
• ถ้ากลุ่มนั้นแว่บหายไปจากห้องแล้วให้ไปอยู่ Marketing
• ถ้ากลุ่มนั้นกำลังมองออกไปนอกหน้าต่างให้ไปอยู่ Strategic
Planning
และ ... สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด
• ถ้ากลุ่มนั้นนั่งคุยกันโดยไม่ได้ขยับอิฐแม้แต่ก้อนเดียว...ให้
ไปเป็นผู้บริหารระดับสูง
• จากการสำรวจ คนโดยส่วนใหญ่.... เหมาะจะเป็น.....ผู้บริหารระดับสูง
----- อิอิ...
น่าสนใจไอเดียของ อ.พงศกร แต่ถ้าได้ขยายความอีกนิดว่าเพราะอะไรกลุ่มแต่ละกลุ่มถึงเหมาะสมกับแผนกแต่ละแผนกเนี้ย ผมคงจะสบายใจมากกว่านี้ครับ
ว่าง ๆ รบกวน อ.พงศกร อธิบายให้ฟังหน่อยนะคร๊าบ...
คุณ "ขจิต"
ยินดีเรียนเชิญทุกท่านเลยค่ะ แต่คุณ "ชายขอบ" เดี๋ยวนี้ไม่ทราบหายไปไหนซ๊ะแล้ว ไม่แว๊ะเวียนมาบ้างเลย ฮ้าย!! น้อยใจ
คุณ "พงศกร"
สงสัยสองข้อสุดท้ายจัง...คนส่วนใหญ่เลยเหรอค่ะ แต่ไม่รวม "vij" อยู่ในคนจำนวนนั้นนะค่ะ ไม่อยากอยู่เฉย ๆ
ขอเรียนถามว่าคุณครูทั้งหลายว่าท่านยังอยู่ดีหรือขอรับ
ในขณะที่เพื่อนครูสาวสองคนถูกรุมทำร้าย
ท่านยังเพ้อฝันเรื่องความรักอยู่หรือขอรับ ท่านไม่เรียกร้องอะไรเพื่อเพื่อนครูของท่านหรือขอรับ หรือว่าท่านยังไม่เห็นว่าเป็นปัญหาขอรับ
ขอเรียนถามว่า ท่านจะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่อีกนานเท่าไหร่ขอรับ
ท่านคงจะลบความเห็นนี้เหมือนทุกครั้งที่ท่านไม่พอใจ ก็ได้นะขอรับ
แต่บันทึกนี้ ทวงถามความรักในเพื่อนร่วมวิชาขีพของท่านว่าจะเหมือนที่ท่านบอกว่ารักลูกศษย์หรือไม่ขอรับ
ขอความกระจ่างหน่อยเถอะค่ะ...ในฐานะเจ้าของ blog นี้ ไม่ได้โกรธหรือจะว่าอย่างไร หากข้อความใดในบันทึกนี้หรือที่ผ่าน ๆ มาทำให้ท่านไม่พอใจหรือระคายเคือง ทุกเรื่องมีคำตอบจากเจ้าของ blog อย่างแน่นอนค่ะ แต่อยากให้ท่านแจ้งความประสงค์ให้กระจ่างด้วยค่ะ จักขอบพระคุณยิ่ง
สิ่งที่ไม่รู้ตัวตนบางทีเราแทบเดาไม่ออกว่ามีจุดประสงค์อย่างไร หากแต่ได้อธิบายคงจะเข้าใจกันมากกว่านี้ ยินดีน้อมรับคำประนามหากตนเองผิดพลาดทุกประการ
เรียน อาจารย์เอกองค์ครับ
ต้องขออภัยที่ทำให้ไม่สบายใจนะครับ (ไม่ได้มีเจตนาเลย)
เนื่องจากข้อมูลที่ตีพิมพ์ไป ผมได้มาจาก forword mail ซึ่งเจ้าของมิได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม ผมคงต้องเดาเอาเองแล้วมังครับ
ตามนี้ครับ
• แผนกบัญชี - ทำงานเกี่ยวกับตัวเลข
• แผนกวิศวกรรม - โดยส่วนใหญ่พวกเรียนวิศวะ ห้องจะรกครับ
• แผนกออกแบบ - ลองจัดโน่นจัดนี่ไปเรื่อย
• Operation - ฝ่ายปฏิบัติการ
• IT - เก็บข้อมูลละเอียดยิบ (ศึกษากันจนทะลุปรุโปร่ง)
• HR - ยาม - ประมาณนั้น
• แผนกวัสดุ - เบิก จ่าย พัสดุ
• Treasury - ฝ่ายคลังครับ กอดเงินไว้แน่นเชียว
• Sales - เน้นหนักไปทางศิลปะการพูด
• Marketing - นั่นสิ ผมก็ยังไม่เข้าใจ
• Strategic Planning - ข้อมูลในห้องแคบๆ
อาจจะไม่เพียงพอสำหรับเขา
และ ... สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด
• ผู้บริหารระดับสูง
- เขาอาจจะรู้สึกว่าห้องที่อยู่ไม่มีงานอะไรที่เหมาะสมจะทำมังครับ
(น่าจะเป็นการหยิกกันเบาๆมากกว่าครับ)
อย่างไรก็ตาม .. คงเอาวิธีนี้มาใช้จริงไม่ได้นะครับ .. ไม่งั้นฝ่ายบุคคลคงต้องทำงานหนักแน่ๆ .. เพราะคงต้องให้พนักงานเหล่านั้นออก - ตั้งแต่ยอมเข้าไปในห้องแล้วล่ะครับ (ผมบอกแล้วไงครับว่าขำขำ)
ปล. ผมคงต้องระมัดระวังในการแสดงความคิดเห็นใดๆให้มากขึ้น เสียแล้วสิครับ ... (ว้า)
เรียนท่านผู้ไม่ประสงค์ออกนาม - ท่านช่วยแนะนำวิธีแสดงออกหรือเรียกร้องในแบบของท่านสักนิดได้ไหมครับ (ยอมรับคำติชมครับ หากแสดงข้อเสนอแนะด้วย)
ขอบคุณ คุณขจิต กับ คุณ vij ครับ - จะเร่งมือเขียนบทความนะครับ (อย่าคาดหวังมากครับ - เด็กสถาปัตย์ องค์ความรู้กว้างครับ แต่ไม่ค่อยลึก)
อ่านข้อความของผู้ไม่ประสงค์ออกนามแล้ว ผมว่าเราชาวครูทั้งหลาย หยุดสอนกันดีไหมครับ แล้วไปล่าโจรกัน แล้วสังคนนี้คงจะดีไปกันใหญ่อีกนะครับ ปกติทุกวันนี้ก็อยู่ใน 3 จังหวัดนี้ด้วยความเครียดพออยู่แล้ว หากไม่มีเรื่องการจรรโลงใจกับบทความที่ทำให้ใจรู้สึกมีพลัง มีกำลังใจอีกก็คงจะต้องเฉาตายอยู่ในอีกไม่นานนี้หล่ะกะมัง
เรื่องของครูสาวน่ะ ไม่ต้องห่วงหรอกเราชาวครูทั้งหลายต่างเห็นใจและก็ได้มีโอกาสได้ช่วยเขานั้นหล่ะไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่จะให้ครูไปจับปืนตามล่าโจรน่ะผมว่ามันก็น่าคิดอยู่นะ หรือคุณผู้ไม่ประสงค์ออกนามจะช่วยจับปืนตามล่าด้วยก็น่าจะดีนะ จะได้บอกพรรคพวกที่เป็นทหารให้
คุณ "ขจิต"
คุณ "พงศกร" เขียนบทความไว้ในชุมชน ชาววิทยาลัยเทคนิคยะลา เรื่อง "ห้องเก็บของ..(สำคัญไฉน)" น่าอ่านมากค่ะ ว่าง ๆ แวะเข้าไปอ่านดูนะคะ
ขอให้คุณ vij กรุณาเติมต่อท้าย The Prophet ด้วยชื่อของท่านผู้แต่ง คือ Kahlil Gibran (1883 - 1931) ด้วยจะเป็นการดีนะคะ กับแก้ เอา t ที่เกินออกจาก Propthet ด้วยค่ะ
รู้สึกบันทึกนี้ก่อให้เกิดการลปรร. กันหลากหลายดีนะคะ
คุณ "โอ๋-อโณ"
ขอบคุณมากค่ะ...ที่มาแนะนำ "vij" อีกรอบมาบ่อย ๆ นะคะ "vij" จะได้ไม่เหงา ลปรร. กันมาก ๆ "vij" จะได้มีเพื่อนคุยได้เติมเต็มค่ะชอบมาก ก็เลยอยากเรียนเชิญทุก ๆ ท่านมาบล็อก "vij" ด้วยความเต็มใจและยินดีต้อนรับทุกท่านค่ะ