การรถไฟแห่งประเทศไทย


สวัสดีครับชาว Blog และลูกศิษย์ชาวการรถไฟฯ ที่รักทุกท่าน

ผมโชคดีมากที่มีโอกาสได้รับเกียรติจากการรถไฟแห่งประเทศไทยให้ไปบรรยายและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ใน หัวข้อ การจัดการความรู้ (Knowledge Management) และการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization)” ในวันศุกร์ที่ 4 กันยายนนื้ ณ ห้องลาดพร้าวสวีท โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทาราแกรนด์  

การรถไฟฯ เป็นองค์กรที่น่าสนใจ มีโอกาสมากแต่มักจะสะดุดเพราะอะไร ถ้าทำสำเร็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 5 ของเราท่านคงมีความพอพระทัย ปัญหาต่าง ๆ อาทิ

·       การเมือง

·       ผลประโยชน์ทับซ้อน

การรถไฟฯ ต้องหันมาพัฒนาคนอย่างจริงจัง หากมีโอกาสผมจะขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและฝึกผู้นำของการรถไฟฯ ให้สนใจวัฒนธรรมการเรียนรู้อย่างค่อยเป็นค่อยไปต่อไป..คอยติดตาม

            ผมชื่นชมคุณปานตาที่เป็นคนเก่ง กล้า และดึงผมมาร่วมงานด้วย คาดว่าถ้าครั้งนี้ทำสำเร็จจะขอทำเดือนละ 1 ครั้ง ครั้งละ 200 คน เน้นการสร้างความตระหนักเรื่ององค์กรแห่งการเรียนรู้ (LO Awareness) เมื่อครบ 1 ปี เรามาประเมินผลว่าทำแล้วได้อะไร

                                                                        จีระ หงส์ลดารมภ์

ภาพบรรยากาศ

 

หมายเลขบันทึก: 293328เขียนเมื่อ 1 กันยายน 2009 14:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (31)

เรียน อ.จีระฯ

กระผมยินดีมากครับ ที่ได้เป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของอาจารย์

ปกติแล้วกระผมมีภารกิจมากมาย แต่วันนี้กระผมยินดีเข้าเรียนกับอาจารย์ด้วยความเต็มใจ

เพราะได้ยินเสียงท่านทางวิทยุ 96.5 ในคราวที่มีโอกาส

หากมีสิ่งใดให้กระผมได้มีโอกาสช่วย ขอให้ท่านอย่าได้เกรงใจ

ติดต่อได้ทาง อีเมล์นี้ หรือโทรศัพท์มือถือที่กระผมได้ให้ไว้ในคำตอบที่อาจารย์ให้ไว้ครับ

ขอแสดงความนับถือ

สิทธิชัย บุญเสริมสุข

ได้รับแรงกระตุ้นการให้องค์กรได้รับการเรียนรู้ทั้งที่ข้อมูง องค์ความรู้มีแต่ไม่สามารถนำออกมาเป็นองค์ความรู้รวมได้

ได้รู้ว่า LO ของการรถไฟฯ ยังไม่พัฒนาเท่าที่ควร เมื่อเทียบกับหน่วยงานอื่นๆ

นายชนิทร์ ชนะกิจกำจร

ได้ทราบว่า องค์กรแห่งการเรียนรู้ของการรถไฟฯ ได้คะแนนต่ำมาก

ได้เรียนรู้ว่าองค์กรยังต้องพัฒนาเรื่องการเรียนรู้ข้ามสายงานและต้องเรียนรู้ด้านกว้าง (ข้อมูลของการเปลี่ยนแปลงของโลก)

ได้ความรู้ว่า การรถไฟฯจำเป็นต้องปรับปรุงพัฒนาไปสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้เพื่อความอยู่รอดขององค์กร

เกิดความมุ่งมั่นในการเรียนรู้เพื่อพัฒนาองค์กรและพนักงานของการรถไฟ ไปสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้

ฝ่ายตรวจสอบภายใน

วิสัยทัศน์

องค์กรเรียนรู้

เคียงคู่เป็นที่ปรึกษา

ยอดเยี่ยมจรรยา

สร้างมูลค่าผลงาน

สิริมา หิรัญเจริญเวท

เข้าใจชัดเจนว่า KM กับ LO ต่างกันอย่างไร และจะสร้าง LO ในหน่วยงานเราได้อย่างไร

ได้แรงจูงใจในการปรับเปลี่ยนองค์กรและเป็นการยืนยันว่าสิ่งที่เคยคิดคนเดียวมาตลอดนั้น ได้มาถูกทางแล้ว

สิ่งที่ได้ในวันนี้ ทำให้เห็นว่าการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญ ทำงานด้านเดียวตลอด ดังนั้นจะเริ่มต้นเรียนรู้วิทยากรใหม่ๆ ตั้งแต่วันนี้

วิรัตน์ จัทรรัตน์

เรื่อง การเรียนรู้ ต้องจำเป็นอย่างมาก

กัลยาณี ครองบุญยิ่ง

ได้รับความรู้เกี่ยวกับการเรียนรุ้เพิ่มเติมในหลายแง่มุม ซึ่งจะนำไปใช้กับบุคลากรในหน่วยงานได้

พตท.วันปิติ พฤทธิกุล

จุดประกายแนวคิดและแนวทางในการพัฒนาองค์กรและบุคลากรโดยวิธีการสร้างหน่วยงานให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ โดยอาศัยปัจจัยบวก และศึกษาปัญหาอุปสรรคต่างๆที่มี เพื่อดำเนินการไปทีละ STEPต่อไป

ถึงลูกศิษย์ การรถไฟฯและชาว Blog ทุกท่าน

1.      ผมขอบคุณทีมงานคุณปานตาและทีมงานทุกคนที่จัดได้ดี

2.      ผู้ว่าฯยุทธนาท่านน่ารักมาก กรุณาให้ เกียรติผมมาก แสดงว่าท่านให้ความสำคัญเรื่องทุนมนุษย์

3.      ผมขอเรียนว่าจะทำให้เดือนละ 2 ครั้ง เรื่อง KM ไปสู่ LO เพื่อเพิ่มความเข้าใจ และเมื่อครบ 1 ปี ก็มา Follow Up สร้างมูลค่าเพิ่มอย่างจริงจัง เช่น เพื่อความพอใจของลูกค้า นำนวัตกรรมบางเรื่อง

คนของการรถไฟฯ เก่งมาก  ฉลาด แต่อะไรที่เป็นอุปสรรคคงต้องช่วยกัน 

 

ข้อเสนอแนะดีมาก โดยเฉพาะ Steps ต่างๆ ที่แนะนำไว้ หลายอย่าง จีระ งง  เพราะดีกว่าที่คิดไว้ และเป็น Steps ที่ Practical มาก คล้าย ๆ 2R’s

ผมมีบุญที่เห็นทุกคนมีความสุข ที่ได้มาเจอกัน

 

                                                      จีระ  หงส์ลดารมภ์

Workshop

1.      โปรดให้คะแนนแต่ละกลุ่มว่า LO ของการรถไฟ คะแนนเต็ม 10 ได้เท่าไร?

2.      ถ้าจะดำเนินการอย่างจริงจังในเรื่ององค์กรแห่งการเรียนรู้

            อุปสรรค 2 เรื่องคืออะไร?

            ปัจจัยบวก 2 เรื่องคืออะไร?

3.      Step ต่อไปคืออะไร?

1.      จากคะแนนเต็ม 10 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้คะแนนการเป็นองค์กรการเรียนรู้ (LO) 3-4 คะแนน

2.      อุปสรรคคือ

·       ริเริ่มยาก เพราะมีการถกเถียงกัน ไม่เริ่มสักที

·       การเงิน มีเงินลงทุนน้อย

      ปัจจัยบวกคือ

·       ผู้นำให้ความสำคัญ

·       ความเก่าแก่ของผู้นำ

ผมมาเริ่มที่นี่ที่ระดับสูง ต้อง aware แล้วจะทำได้ดี

3.      Step ต่อไปคือ

3.1  จัดฝึกอบรม ปรับฐานความรู้

3.2  พบปะทำกิจกรรม

3.3  กำหนดหัวข้อหลัก อะไรสำคัญเร่งด่วน

3.4  ทำฐานข้อมูลเพื่อ share

3.5  ทำสื่อต่างๆ เช่น เอกสาร Intranet

            ถ้าไม่ Eager to learn จะทำอย่างไร

ต้องใช้เวลา

 

1.      จากคะแนนเต็ม 10 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้คะแนนการเป็นองค์กรการเรียนรู้ (LO) 2 คะแนน

2.      อุปสรรคคือ

·       คน มีผลจากการรู้อย่างผิวเผิน ดีแต่พูด หาคนทำยาก ถ้าทำ จะถูกตราหน้าว่าเป็นกบฏ

·       ไม่กล้าล้ำเส้นหรือข้ามศาสตร์

      ปัจจัยบวกคือ

·       เรียนรู้ประสบการณ์แต่ไม่นำมาเป็นบทเรียน มีองค์ความรู้

·       มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมาก

3.      Step ต่อไปคือ

3.1   ละลายพฤติกรรม

3.2  กระตุ้นให้เกิดความคิดใหม่ กล้าพูด

 

1.      จากคะแนนเต็ม 10 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้คะแนนการเป็นองค์กรการเรียนรู้ (LO) 3 คะแนน เพราะไม่มีบรรยากาศ ไม่สนใจที่จะเรียน สั่งงานจากบนลงล่าง และขาดแรงจูงใจ

2.      อุปสรรคคือ

·       ขาดแรงจูงใจที่จะพัฒนาตน

·       ไม่มีเงิน

      ปัจจัยบวกคือ

·       มีประสบการณ์มากเฉพาะตัว ไม่มี show and share

3.      Step ต่อไปคือ

3.1 ผู้นำองค์กรต้องให้ความสำคัญ LO และการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรต้องใช้ความต่อเนื่อง จริงจังและภาวะผู้นำสูง

                  3.2 สร้างบรรยากาศ มีห้องสมุดและ Internet

                  3.3 ดำเนินโครงการต่อเนื่องพอสมควร

·       ถ้า show ต่างประเทศ องค์กรนี้เป็น world class

·       คุณเหนือกว่าหลายองค์กรแต่อุปสรรคสะสมมานาน

1.      จากคะแนนเต็ม 10 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้คะแนนการเป็นองค์กรการเรียนรู้ (LO) 5 คะแนน

2.      อุปสรรคคือ

·       คนเก่าไม่ยากสอน

·       คนใหม่ไม่อยากเรียน

·       การต่อต้านในองค์กร คนเถียงเก่งมาก

      ปัจจัยบวกคือ

·       มีทุกประเทศมีรถไฟ สามารถถ่ายทอดเทคโนโลยีได้  มีตำรามาก สามารถลอกเลียนได้

·       TRIS ประเมินเรา บังคับให้เราทำในตัว

3.      Step ต่อไปคือ กระตุ้นพนักงานให้ใฝ่รู้ เข้าใจเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป

1.      จากคะแนนเต็ม 10 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้คะแนนการเป็นองค์กรการเรียนรู้ (LO) 2.5 คะแนน เพราะความเป็นเจ้าของไม่มีมากนัก บรรยากาศสนใจใฝ่รู้มีน้อย เอาตัวรอดมากกว่าองค์กรรอด ขาดการคิดเป็นระบบ

2.      อุปสรรคคือ

·       ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง

·       ชอบทำงานเดิมๆต่อไป

·       ระบบการจูงใจ แต่งตั้ง ประเมินผล ไม่คิดพัฒนาตนหาความรู้

      ปัจจัยบวกคือ

·       ผู้บริหารให้ความสนใจ

·       เรามี Best Practice มาก แต่ไม่สามารถรวบรวมได้

3.      Step ต่อไปคือ

·       ผู้บริหารควรอนุมัติงบ จัดอบรมต่อเนื่องจนมี KM

·       รวบรวม Best Practice

·       ควรสัมภาษณ์ก่อนเกษียณ

·       ทำ Training, Research และ Branding

1.      จากคะแนนเต็ม 10 การรถไฟแห่งประเทศไทยได้คะแนนการเป็นองค์กรการเรียนรู้ (LO) 4 คะแนน เพราะบุคลากรไม่ขวนขวาย ไม่ค่อยมีเงิน และอุปกรณ์ไม่ค่อยมี

2.      อุปสรรคคือ

·       วัฒนธรรมการรถไฟเป็นผู้ตาม ไม่คิดนอกกรอบ

·       แรงจูงใจไม่มี

      ปัจจัยบวกคือ

·       มีองค์ความรู้มาก แต่ไม่ได้นำมาใช้

·       มีวิชาชีพที่หลากหลาย

3.      Step ต่อไปคือ

·       ผู้นำต้องเอาจริงเอาจัง

·       สร้างกระแสให้ทุกคนตระหนัก

·       ตรงประเด็น ตอบคำถามได้ดี

·       ขึ้นได้ครึ่งขั้นของ LO

โปรดคลิกที่นี่เพื่ออ่านข่าวงานนี้

http://www.naewna.com/news.asp?ID=178460

 

รฟท.มีมาตรฐานตามสากลมาดั้งเดิมเพราะวางรากฐานมาจากฝรั่ง(วิธีปฏิบัติงานและการอุดหนุนการเงินแบบลูกเจ้านาย)...มาประยุกต์เองตามความขัดสน(เมื่อไม่นานจวบจนปัจจุบันและอนาคตที่มัวๆ)

key.

ทาง+เครื่องประกอบราง+รถจักรรถพ่วง+ระบบอาณัติสัญญาณ+ที่ดิน(รอการพัฒนาระบบขนส่ง)

รฟท.ต้องมีเป้าหมาย

ทำไงให้ทรัพยากรทั้งมวลมรดกเจ้าคุณปู่งอกเงย..................ตอนนี้ต้อง....คน(พัฒนาคน)+เทคโนโลยี..แต่ต้องไม่ลืม

วัฒนธรรมกลิ่นไอ ...ตนรถไฟ...ยิ้ม+หยืดหยุ่น...

แต่ไอ้ที่สำคัญ....ผู้ว่าและรองผู้ว่าต้องกลมเกลียวดีไปในแนวทางเดียวกัน(จะริเป็นฝ่ายค้านก็จัดไปอยู่ฝ่ายตรวจสอบภายในหรือตรวจบัญชี....(ตรวจโดยอิงกฏบัตรฯ))ผู้ถูกว่าอย่างผมจะยินดีมากที่ผู้ว่าและรองผู้ว่าฯจะสั่งการให้ทำโน้นทำนี่โดยลดขั้นตอนสายงานแต่อยู่ในระเบียบฯเพื่อให้เป้าหมายสำเร็จได้......เมื่อผลงานรวมดี...การปันผลก็เรียงไปตามผลงาน(เครื่องมือประเมิน)

ทำให้ทุกคนขวนขวายขยันทำงาน...ผู้ว่าฯไม่ใช่จะชอบคนแบบ ใช่ครับพี่ ดีครับท่าน ทันครับผม เหมาะสมครับเจ้านาย ผู้ว่าฯต้องอดทนกับคนสอพลอ....งึกๆงักๆ ตั้งใจทำงานเพื่อส่วนรวมกันเถอะ....ทุกคนที่มาอบรมได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ที่จะร่วมมือกัน...ปัญหาที่เอามาสัมมนาที่ใหนที่นั่นก็แบบนี้....ไม่เห็นมันเปลี่ยน...รุ่นใหม่มาก็วนเข้าแบบเดิม(มันตักข้าวเข้าปากเองได้หรือเปล่า)...นอกกรอบคิดได้แต่ดูแล้วส่วนใหญ่จะนอกคอกคุมไม่อยู่เพราะไม่ฟังคำสั่งและนโยบายชอบฟังเสียงเล่าอ้างเลยเป็นเรื่อง..........เบื่อระบบบุฟเฟ่

ขอให้ผู้ว่าฯสู้สู้(แบบ เดินรถมาให้กำลังใจ)ผมว่าท่านมีความปรารถนาดีกับรถไฟฯมากแต่ท่านก็อดทนไม่ปริปากกับพฤติกรรมล้อมหน้าล้อมหลังที่เป็นอยู่...คิดว่ารกคนดีกว่ารกหญ้า....

...........................ฝากท่าน ดร.จีระฯเรียกวิญญาณผู้อบรมให้รู้จักความภูมิใจตำแหน่งที่ตนมีความรับผิดชอบด้วย....มัวแต่คิดว่าเงินไม่มาปัญญาไม่เกิด..ก็ควรให้ผู้ว่าฯสั่งการไปยืนเฝ้าทางผ่าน..พิจารณาตัวเอง.........องค์กรแห่งการเรียนรู้...ผมเป็นส่วนหนึ่งในนั้น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท