ดูแลไม้กระถางอย่างไร ไม่ต้องเปลี่ยนดินบ่อย


ผู้ที่ปลูกไม้ในกระถางส่วนใหญ่ เมื่อปลูกไปได้สักระยะหนึ่งมักจะมีปัญหาหน้าดินกระด้าง แห้งแข็ง ดินชั้นล่างก็เหนียวแน่นไม่โปร่ง ร่วนซุย การระบายถ่ายเทน้ำไม่ดี ดินแฉะก่อให้เกิดปัญหารากเน่าโคนเน่า

 

ผู้ที่ปลูกไม้ในกระถางส่วนใหญ่  เมื่อปลูกไปได้สักระยะหนึ่งมักจะมีปัญหาหน้าดินกระด้าง แห้งแข็ง  ดินชั้นล่างก็เหนียวแน่นไม่โปร่ง ร่วนซุย  การระบายถ่ายเทน้ำไม่ดี  ดินแฉะก่อให้เกิดปัญหารากเน่าโคนเน่า  ต้นไม้เครียด การเจริญเติบโตไม่ดี อ่อนแอต่อโรคและแมลง ทำให้ต้องสิ้นเปลืองเงินทองนำมาบำรุงรักษาเพิ่มเติมมากขึ้น ที่เป็นเช่นนี้เพราะผู้ผลิตดินถุงจำหน่ายส่วนมากผลิตดินได้ต่ำกว่ามาตรฐานไม่เหมือนในสมัยก่อนที่มีการใช้อินทรียวัตถุมาเป็นส่วนผสมค่อนข้างมาก จึงมักไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องนี้กันมากเท่าไรนัก แต่ในปัจจุบันเจ้าของดินทั้งหลายอาจจะขาดแคลนอินทรีย์วัตถุหรืออินทรียวัตถุอาจจะหายากและมีราคาแพง จึงทำให้คุณภาพดินถุงในปัจจุบันไม่ดีเท่าที่ควร เพราะรู้สึกว่าจะมีแต่ดินเหนียวผสมกับขี้เถ้าแกลบเป็นส่วนมาก ทำให้ผู้ที่นิยมซื้อดินถุงทั้งหลายมาปลูกไปได้สักระยะหนึ่งก็จะมีปัญหาดินเหนียวแน่นแข็ง การระบายถ่ายเทน้ำไม่ดี ต้นไม้ทำท่าว่าจะตาย  ก็ต้องรีบทำการซื้อดินถุงมาเปลี่ยนกันอยู่บ่อยๆ

 


ควรมีการเตรียมและปรับปรุงดินที่ซื้อมาใหม่ๆ ให้ดีเสียก่อน  ควรนำมาคลุกผสมกับปุ๋ยหมักปุ๋ยคอก เพื่อเป็นการเพิ่มอินทรียวัตถุให้แก่ดินอย่างพอเพียง เพราะดินที่เราซื้อมานั้นอาจจะมีอินทรีย์วัตถุอยู่น้อยเกินไป และเหมือนกับเป็นการเติมอาหารให้แก่จุลินทรีย์เพื่อดึงดูดให้จุลินทรีย์เข้ามาสร้างกิจกรรมเพิ่มมากขึ้นจะช่วยทำให้ดินมีชีวิตชีวาปลูกอะไรก็จะเจริญเติบโตงอกงามดี ควรใช้ภูไมท์ซัลเฟตถุงสีเหลืองคลุกผสมกับดินก่อนที่จะนำไปใส่กระถางในอัตรา 1 ส่วน 4 ของดินที่จะปลูกในกระถาง จะช่วยทำให้ดินในกระถางมีโครงสร้างดินที่ดีไม่ย่อยสลายยุบตัวลงแน่นแข็งรวดเร็วเกินไป  ทำให้การระบายถ่ายเทน้ำพอเหมาะพอดีไม่มากเกินไปและน้อยจนเกินไป ช่วยทำให้ต้นไม้ไม่เครียด มีรากเยอะ การเจริญเติบโตสมบูรณ์แข็งแรง

 

หลังจากที่ได้นำต้นไม้ปลูกลงไปในกระถางเรียบร้อยแล้วสักระยะหนึ่ง ถ้าเจอปัญหาดินแน่นแข็งเพราะโครงสร้างดินเสีย หรือดินถุงที่ซื้อมาคุณภาพไม่ดี จับตัวกันเป็นก้อนเหนียวซึ่งโดยปรกติในปัจจุบันมักจะเป็นเช่นนี้เสมอ  ควรทำการแก้ไขโดยวิธีการดังนี้ ทุกครั้งที่มีการรดน้ำควรจะนำสารละลายดินดาน  30 ซี.ซี.  บวกกับ  โพแทสเซียมฮิวเมท  5 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร  ผสมร่วมลงไปทุกครั้ง     จะช่วยทำให้ดินในกระถางของเราไม่แน่นแข็ง และเหนียวแน่น การระบายถ่ายเทน้ำดี จะช่วยทำให้เกิดโครงสร้างที่เกิดเป็นเม็ดดินที่อุ้มน้ำอุ้มปุ๋ยได้ดี ปรับความเสถียรของพีเอชดินไม่ให้เปลี่ยนเป็นกรดหรือด่างเร็วเกินไป  ปรับเปลี่ยนสารอาหารที่อยู่ในดินให้อยู่ในรูปคีเลททีพืชสามารถดูดกินหรือนำไปใช้ไปได้ง่ายขึ้น แล้วยังช่วยลดการสูญเสียปุ๋ยที่ใส่ลงไป เพราะโพแทสเซียมฮิวเมท มีค่าความสามารถในการจับตรึงและแลกเปลี่ยนประจุบวกมากกว่าดินเหนียวถึง 20 เท่า ดังนั้นทุกครั้ง หรืออย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง ถ้าใส่ทั้งสองตัวนี้ผสมลงไปกับน้ำด้วยจะทำดินของเราไม่เหนียวแน่นแข็ง ทำให้ต้นไม้ของเราเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรง และไม่เสียเวลาเปลี่ยนดินในกระถางบ่อยๆ  ทำให้เราประหยัดทั้งเงินและยังมีความสุขกับไม้กระถางที่เลี้ยงไว้อย่างสวยงามตลอดไป

 


มนตรี    บุญจรัส

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษ www.thaigreenagro.com

หมายเลขบันทึก: 293040เขียนเมื่อ 31 สิงหาคม 2009 17:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 09:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ปัจจุบันนี้ เราสามารถผลิตดินกระถางสำหรับไม้ดอกไม้ประดับที่มีคุณสมบัติตรงตามที่นักปลูกไม้ดอกไม้ประดับต้องการ กล่าวคือเป็นดินอินทรีบริสุทธิที่มีสารอาหารพืชตรงตามเกณฑ์ที่ทางราชการไทยกำหนดทุกประการ(พร้อมทั้งมีหลักฐานส่งตรวจทั้งในต่างประเทศและไทย) เนื่องจากมีการaggregationของดินตามธรรมชาติ(ตือการทำให้ดินรวมตัวกันเป็นเม็ดละเอียดเล็กๆทั่วไปเกิดเป็นดินโปร่งร่วนซุยอากาศและน้ำผ่านสดวก ดินชนิดนี้จึงไม่เกาะกันเป็นก้อนตลอดอายุการใช้งานปัญหาเรื่องการเปลี่ยนดินจึงไม่มี ถ้าโครงสร้างนี้ไม่ถูกทำลายด้วยเช่น สารเคมี.การขุดทำลายโครงสร้างของดิน.ความร้อนหรือภัยพบัติทางธรรมชาติอื่นๆ เราได้สามารถผลิตเป็นผลสำเร็จและได้ผ่านการทดลองใช้ใด้ผลเป็นเป็นที่น่าพอใจมาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว ถ้าท่านสนใจติดต่อได้ที่ 0818995932. หรือ 029764121

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท